ตอนที่247 ความทรงจำฝันร้าย
“ถ้าอย่างนั้น......จะต้องมีใครอีกคนหนึ่งอย่างแน่นอน......” เธอคิดถึงตอนที่อยู่สเปนขึ้นมากระทะหัน เคยได้ยินมาว่า 10 ปีก่อน สถาปนิกยอดอัจฉริยะ V.Q ของวงสถาปัตยกรรมยุโรปเขาหายตัวไปกะทันหันในระหว่างคืนหนึ่ง! หรือว่า.....เป็นเพราะแสงจันทร์สีขาว( หมายถึง คนที่หลงรักแต่ไม่สามารถอยู่ด้วยกัน และไม่มีวันลืมเลือน)ของเขา
เป็นไปได้ไหมว่า——
นั่นเป็นเหตุผลที่เขายืนหยัดที่จะไม่รักไม่แต่งงาน!
ภายในใจกู้ฮอนสั่นสะท้าน
“อย่ามาเปลี่ยนหัวข้อสนทนาผม ตอบคำถามผม!”แววตาทอประกายหงุดหงิดแปลกๆ ราวกับถูกคนมองออกถึงความรู้สึกทรมานลำบาก เพียงแต่ว่าเขาปิดบังมันได้ดี “ผมจะถามคุณ คุณเสียดายเป่หมิงยี่เฟิงหรือไม่ จะทิ้งแสงจันทร์สีขาวได้ลงคอหรือไม่!”
สายตาเธอพร่า ถูกแววตาน่ากลัวของเขาบีบคั้นจนไม่มีทางถอย จ้องมองเขาชั่วขณะ ในที่สุด เธอก็ยอมแพ้ที่จะโต้เถียงกับเขา เพราะว่าหลังจากที่เธอตัดสินใจจะเดินทางไปต่างประเทศแล้ว เธอก็รู้ว่า ถึงแม้จะรู้ว่าแสงจันทร์สีขาวของเป่หมิงโม่คือใคร ก็ไม่สำคัญอีกแล้ว
ดังนั้น เธอจึงยิ้ม สีหน้าประชดประชัน
“ฉันมีสิทธิ์ที่จะเสียดายไหม”
“ไม่มี!” เขาตอบกลับมาอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ
“ถ้าอย่างนั้นก็จบแล้ว” เธอยักไหล่ มุมปากสัมผัสได้ถึงความขมขื่นที่รู้สึกได้ไม่ง่าย “หลังจากที่มั่วโลกีย์กับคุณคนนี้ที่เป็นลุงรองของยี่เฟิงแล้ว คุณคิดว่าฉันจะยังสามารถเผชิญหน้ากับแสงจันทร์สีขาวที่สะอาดบริสุทธิ์ภายในใจฉันได้อีกหรือ”
กลัวว่าชาตินี้คงจะไม่สามารถเผชิญหน้าได้อีกแล้ว โดยเฉพาะเมื่อครู่ที่เธอได้รับรู้ว่า ที่แท้ยี่เฟิงทำเพื่อเธอ เพื่อช่วยเธอแย่งชิงบริษัทกู้ซื่อ ถึงได้วางเดิมพันทั้งหมดของตัวเองและครอบครัว......แต่สุดท้ายกลับพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
ลองถามเป่หมิงโม่สามารถทำได้หรือไม่ จะสามารถทำแบบนี้ เทหมดทุกอย่างเพื่อเธอได้หรือ
ไม่ได้หรอก
ในใจของเธอ ตอนนี้ เข้าใจได้ในทันทีว่า คนที่เธอเคยปล่อยมือไปคือยี่เฟิงที่มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเธออย่างไร
เธออดไม่ได้ที่จะกระทั่งถามตัวเองกลับไปกลับมา ในปีนั้นที่กู้อันขีเข้ามาแรกระหว่างเธอกับยี่เฟิง ทำไมเธอถึงได้เลือกที่จะถอยออกมาอย่างเงียบๆ ทำไมเธอถึงไม่พยายามอีกนิด ทำไมเธอถึงปล่อยมือได้อย่างง่ายได้เช่นนี้
วันนี้ย้อนกลับไปคิดขึ้นมา เธอมีเพียงรอยยิ้มทุกข์ใจ ที่แท้ก็เพื่อหยูฟืน เพื่อกู้อันขี เพื่อตระกูลกู้ เธอทิ้งความสุขที่ได้มาอย่างง่ายดาย!
หรือว่าจะเป็นเหมือนอย่างที่ยี่เฟิงพูด เธอรักเขาไม่พอหรือ
กู้ฮอนมองไปที่ชายหนุ่มข้างกาย หัวใจอดเจ็บปวดจนควบคุมไม่อยู่.....พลาดจากยี่เฟิง เธอทอดถอนใจอย่างเสียใจ เศร้าระทมยากจะลืมเลือน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเป่หมิงโม่ เธอกลับเจ็บปวดรวดร้าวแทบจะทนไม่ไหว......
เป็นอย่างที่คิดไว้ คำพูดของเธอจบลง ใบหน้าหล่อเหลาของเป่หมิงโม่ก็ทะมึนในชั่วพริบตาทันที
“มั่วโลกีย์” เขากัดฟันเอ่ยทีละคำ “คุณให้คำอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณแบบนี้หรือ”
เธอยกริมฝีปากเย้ยหยัน “ไม่อย่างนั้นล่ะ ผู้ชายที่ชื่นชอบทำกับฉัน ผู้ชายที่คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์คือการรักฉัน คุณไม่รู้สึกว่าใช้ มั่วโลกีย์ สองคำนี้มาอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเรามันเหมาะสมยิ่งกว่าหรือ”
เธอเหน็บแหนมอย่างเมฆลอยเอื่อยลมพัดแผ่วเบา กระตุ้นให้เส้นโลหิตบนหน้าผากเขาปรากฏ
เธอรู้ไหมว่า คำพูดยั่วยุของเธอทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟยิ่งกว่าการยั่วยุจากลูกชายเขา!
“ดี! แสงจันทร์สีขาวของคุณสะอาดบริสุทธิ์ ผมมันมั่วโลกีย์ใช่ไหม!” ท่าทางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของเขา ราวกับสามีที่อิจฉาริษยาเป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่าเขาไม่ยอมรับ “ถ้าอย่างนั้นผมก็จะตั้งหน้าตั้งตารอ รอดูแสงจันทร์สีขาวของคุณจะบริสุทธิ์จนตายอย่างไร!”
เอ่ยจบ เป่หมิงโม่ใบหน้าแข็งเย็น สะบัดมือจากไป ทิ้งกู้ฮอนไว้ในห้องโถงอย่างเดียวดาย......
*
ไม่มีใครรู้เลยว่า คืนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
กู้ฮอนไม่มีกะจิตกะใจไปคร่ำครวญเศร้าโศก เธอเป็นห่วงเด็กทั้งสองคน เป็นห่วงเฉิงเฉิงถูกคนเปิดโปง เป็นห่วงหยางหยางจะทำให้เรื่องใหญ่โต......
แต่ว่าเด็กสองคนนั้นล่ะ
หยางหยางถูกเฉิงเฉิงฉุดกระชากลากถูกลับไปห้องนอนตัวเอง
เสียงดังปัง เฉิงเฉิงปิดประตูอย่างแรง
หยางหยางแต่ไหนแต่ไรก็ได้รับการสืบทอดความเยือกเย็นมาจากบิดา แต่เมื่อสักครู่เกือบจะถูกหยางหยางเด็กสมควรตายนี่ทำความแตกในตอนนั้น!
จากนั้น เฉิงเฉิงก็ออกแรงโยนหยางหยางไปบนเตียง——
“ไอ้หยา เป่หมิงซิเฉิง นายอ่อนโยนหน่อยได้ไหม! หัวฉันกระแทกชนจนเวียนหัวแล้ว!” หยางหยางตัวอ่อนแผ่อยู่บนเตียง ม้วนตัวกลิ้งไปมา ศีรษะเล็กโคลงไปมา ยังคงเวียนหัวอยู่เล็กน้อย “มองไม่ออกเลยว่า นายเด็กน้อยที่ปกติแล้วมีท่าทางเป็นสุภาพบุรุษผู้ร่ำรวยเงินทองและอำนาจ หยาบคายขึ้นมาก็ประพฤติตัวได้เหมือนกับพ่อนกขี้งกสมควรตายนั่นแหละนะ......”
เฉิงเฉิงเหยียดปาก ดึงผ้าปิดปากออก หรี่ตาเล็กน้อย กวาดมองน้องชายเขาผู้ไม่คิดอะไรมากมายตำหนิเขาอยู่บนที่นอน
“กู้หยางหยาง นายไม่เห็นว่าคุณแม่มา พี่ชายยี่เฟิงก็มา คุณพ่อก็อยู่ที่นั่นหรือ นี่มันเวลาไหนกันแล้ว นายยังจะสาดน้ำมันใส่กองไฟอีก นายจงใจให้คนบนโลกทั้งหมดล้วนรู้ว่าฉัน เป่หมิงซิเฉิง ที่แท้ก็เป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่อง นายขายหน้าก็ช่างมัน ทำไมนายต้องแกล้งใช้ใบหน้าของฉันไปทำให้ขายหน้าด้วย”
เฉิงเฉิงโกรธแล้วจริงๆ เมื่อคืนหยางหยางสาดปัสสาวะถูกใบหน้าแบนๆของคนรับใช้ก็ช่างมันเถอะ ครั้งนี้กลับไปแข่งกับคุณพ่อ! เขาไม่รู้จักประเมินการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์หรือไงกัน! เขาต้องก่อเรื่องวุ่นวายเท่าไรถึงจะพอใจกันแน่
จู่ๆเฉิงเฉิงก็รู้สึกว่า การพาหยางหยางกลับมาบ้านตระกูลเป่หมิงนั้นเป็นความผิดพลาดหนึ่ง ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง!
จะสร้างความทรงจำที่สวยงามให้เขาก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศอะไรกัน นี่มันคือฝันร้ายชัดๆ ฝันร้ายนะ!
“เฮ้! ใจเย็น! เป่หมิงซิเฉิง ความใจเย็นของนายไปไหนแล้ว” หยางหยางยังคงสาดน้ำเย็นมาอีกประโยค “ไม่ทันระวังทำให้นายขายหน้าก็ช่างมันเถอะ ไม่ใช่ว่าแขนหายได้รับบาดเจ็บซะหน่อย นายจะตระหนี่ไปทำไม”
เฉิงเฉิงโกรธจนอยากจะบีบเด็กนี่ให้ตาย!
พลางแก้เปียผมยาวบนศีรษะ พลางถลึงตาใส่หยางหยาง “นายมันปัญญาอ่อน! นายรู้หรือไม่ว่าปัญหามันเกิดขึ้นจากตรงไหนกันแน่ ที่คุณแม่มา แน่นอนว่ามาเพื่อนาย! ที่พี่ชายยี่เฟิงมา แน่นอนว่ามาเพื่อคุณแม่! นายมองไม่เห็นสีหน้าดูไม่ค่อยดีของคุณพ่อหรือ นายตั้งใจให้คุณพ่อสงสัยพวกเราใช่ไหม จากนั้นก็ทำให้คุณแม่ลำบากไปด้วย”
“พรวด......” เฉิงเฉิงกระอักเลือด......
เด็กที่เติบโตในอเมริกานั้นรับไม่ไหวจริงๆ ̄□ ̄||......
เมื่อเวลาค่ำคืนย่างกรายมาเยือน
ค่ำคืนวันนี้แสงไฟในบ้านตระกูลเป่หมิงสุกสว่างเรืองรอง
ไม่ใช่เพราะใครอื่น แต่เป็นเพราะคุณชายรองเป่หมิงมีคำสั่ง เรียกทุกคนทั้งหมดในตระกูลเป่หมิงกลับมารวมตัวกัน ไม่ใช่เพียงเท่านี้
เพียงแต่ว่า ใครก็คิดไม่ถึง——
แม้กระทั่งผู้นำเมือง A—— นายกเทศมนตรีเป่ยยังพาบุตรีเป่ยใต้เอ๋อมาเยือนถึงที่นี่ด้วย!
“ท่านเป่ย ฮ่าๆ ยากนะที่คุณจะมาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง” ท่านปู่เป่หมิงที่เห็นนายกเทศมนตรีเป่ยก็รีบฉีกยิ้มต้อนรับในทันที
“พี่เทียนเกรงใจไปแล้ว ผมก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าในที่สุดคุณชายรองก็ยอมเชิญพวกเราสองคน พ่อกับลูกสาวมาทานอาหารด้วยกันสักมื้อ เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงานกันดีๆ” นายกเทศมนตรีเป่ยยิ้มโค้งทั้งคิ้วและตา
“ฮ่าๆๆ ใช่สิ คุณชายรองก็ไม่แน่ว่าอาจจะคิดได้แล้ว” คืนวันนี้ท่านปู่เป่หมิงรู้สึกประหลาดใจ แม้จะไม่เข้าใจว่าคุณชายรองจะทิ้งไพ่อะไร แต่ว่ายอมเชิญพ่อกับลูกสาวตระกูลเป่ยมารับประทานอาหารร่วมกันดีๆ ก็รู้สึกมีความสุขที่ได้เห็น
*
อาหารมื้อเย็นได้เริ่มรับประทานแล้ว
ทุกคนเข้านั่งประจำที่โต๊ะ
กู้ฮอนถูกจัดให้นั่งข้างกายเป่หมิงโม่ เธอพบว่าพ่อกับลูกสาวตระกูลเป่ยปรากฏตัวที่บ้านเป่หมิง หว่างคิ้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความสงสัยที่กระสับกระส่าย
ตอนที่เป่ยใต้เอ๋อเห็นกู้ฮอน สีหน้าก็เปลี่ยนไป แต่เธอผู้ที่ถือกำเนิดในตระกูลที่มีชื่อเสียงยังคงอำพรางมันได้ดีมาก
ระหว่างทานอาหาร เป่หมิงโม่ไม่ปิดบังท่าทีอ่อนโยนใกล้ชิดที่มีต่อกู้ฮอน เกือบจำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตกตะลึง——
“ฮอนฮอน กินผัก”
“ฮอนฮอน นี่คือสุดยอดเป๋าฮื้อที่ส่งเพิ่งจะส่งมาในปีนี้ ลองชิมดู”
“ฮอนฮอน ผมเอาก้างปลาออกให้คุณแล้ว แบบนี้คุณก็สามารถทานได้อย่างสบายใจแล้ว”
“ฮอนฮอน กินช้าๆหน่อย ระวังสำลัก......”
ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าที่จะเชื่อว่านี่เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของเป่หมิงโม่ กู้ฮอนถูกบังคับให้ยอมรับ ยิ่งเขาหลงใหลเอาใจเธอ เธอยิ่งรู้สึกหนาวเหน็บภายในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ