เดิมพันรักยัยตัวแสบ นิยาย บท 255

ตอนที่255 ตั้งท้องลูกของเขาอีกครั้ง

“เหอะ อะไรนะ” ลั่วเฉียวทำแก้มบุ๋มและนวดบริเวณหน้าผาก “จะแต่งงานกับเฉิงเฉิง ก็ต้องเรียกเป่หมิงโม่ผู้มีจิตใจเหี้ยมโหดดังหมาป่าว่าคุณพ่อ ฉันไม่เอาหรอกนะ”

เมื่อพูดถึงเป่หมิงโม่ สายตาของกู้ฮอนก็มืดดับลง

ไม่ส่งเสียงไปพักใหญ่

ลั่วเฉียวเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองไปจุดอ่อนเพื่อนอีกแล้ว จ้องมองที่กู้ฮอนด้วยความเสียใจและตัดสินใจที่จะพูดออกไปไป “ไม่รู้จริงๆ ว่าคุณเธอคิดอะไรอยู่ เธอเพิ่งมาออสเตรเลียไม่กี่วัน ภาพของเจ้าเป่หมิงโม่กับแม่จิ้งจอกสาวซูยิ่งหวั่นก็โผล่ในหนังสือพิมพ์ออสเตรเลียซะแล้ว ต่อไปในเดือนนี้เราจะเห็นเขาอุ้มผู้หญิงคนอื่นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งบ่อยๆ แต่ก็ดี ตอนนี้เขากลายเป็นผู้มีชื่อเสียงของออสเตรเลียไปแล้ว เฮ้อ ฉันอยากรู้จริงๆ หนังสือพิมพ์ของออสเตรเลียถูกเขากว้านซื้อแล้วใช่ไหมเนี่ย? เขาวนเวียนในอุตสาหกรรมบันเทิงของออสเตรเลียตลอดเวลาใช่หรือไม่? ขายความคันมันก็ไม่ใช้วิธีขายแบบนี้นิ”

กู้ฮอนหน้าซีดเล็กน้อย

ความเป็นจริง ตอนที่เพิ่งมาถึงออสเตรเลีย เธอได้เห็นเขาและซูยิ่งหวั่นพาดหัวข่าวบนหนังสือพิมพ์แล้ว โครงการก่อสร้างหยิงก็กลายเป็นสิ่งสารภาพรักของเขากับซูยิ่งหวั่นอีกรูปแบบหนึ่ง การกระทำของเป่หมิงโม่เช่นนี้ เป็นการช็อกโลกแห่งการก่อสร้างไปอย่างไม่ต้องสงสัย

“เขาจะทำยังไงก็เรื่องของเขา ฉันทำอะไรไม่ได้หรอก” กู้ฮอนตอบกลับไปด้วยเสียงเบาๆ ทรวงอกเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“เธอทำอะไรไม่ได้ แต่เขาดีใจนี่ ฉันมองว่าเขาเจตนานะ” ลั่วเฉียวพูดฉอดๆ “เขาคงอยากให้เธอขยะแขยง ขยะแขยงจนตาย”

พอได้ยินว่าขยะแขยง กู้ฮอนก็เกิดการโกรธเกลียดจะอาเจียนขึ้นมาในทรวงอก

“แหวะ”

จิตใต้สำนึกเธอบอกให้กุมทรวงอกไว้ ขมวดคิ้ว อ้วกแบบแห้งๆ ไปพักหนึ่ง กลับไม่มีอะไรออกมาเลย

ลั่วเฉียวตกใจไปพักหนึ่ง จากนั้นถามแบบตื่นเต้นว่า “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? ฉันพูดอะไรผิดทิ่มแทงใจเธอหรือเปล่า? โทษปากเน่าๆ ของฉัน เป็นความผิดฉันเอง เธอให้อภัยฉันนะ อาการแพ้ท้องของเธอหมอบอกไม่มั่นคงนะ ถ้าเป็นไปได้อย่าเกิดอาการแพ้ท้อง ไม่อย่างนั้นฉันต้องโดนพี่ปู้ฝันด่าเละแน่”

กู้ฮอนเห็นลั่วเฉียวตกใจสุดขีด อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ส่ายหัวไปมา “ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลนะเฉียวเฉียว”

พูดจบ เธออดไม่ได้ที่จะเอามือไปคลำท้องที่ยังแบนราบอยู่

ใช่

เหมือนที่ลั่วเฉียวพูด ในท้องของเธอมีเด็กอยู่อีกคน

เธอ…..

ตั้งต้องลูกของเป่หมิงโม่อีกครั้ง

นี่เป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงเหมือนกัน

นับวันแล้ว น่าจะเป็นวันเกิดของเป่หมิงโม่ในคืนนั้น

เธอยังจำได้ก่อนที่เธอจะกลับ เป่หมิงโม่ขอบคุณเธอสำหรับของขวัญวันเกิด

แต่ตอนนี้ เธอจะไม่ใช่ได้ยังไง? เธอก็ขอบคุณสำหรับของขวัญของเขาเหมือนกัน

ขอบคุณที่เขามอบเด็กที่น่ารักแบบเฉิงเฉิงและหยางหยางให้กับเธออีกครั้ง

ถ้าพูดว่าเมื่อ 5 ปีก่อนที่กู้ฮอนตั้งครรภ์ สำหรับเธอเป็นเรื่องที่ถูกบีบบังคับ แต่ตอนนี้ เธอสามารถมั่นใจได้ว่า เธอก็ยินยอม

ต่อให้เป่หมิงโม่จะไม่ได้รักเขาจริงๆ เธอก็ยินยอมที่จะคลอดเด็กคนนี้ออกมา

เพียงเพราะว่าเธอรู้แล้วว่า ตอนนี้ตัวเองรักเขาไปแล้ว

รักผู้ชายเยือกเย็นคนนี้ รักผู้ชายรักสะอาดคนนี้ รักผู้ชายน่าเบื่อคนนี้ และรักผู้ชายถึงแม้จะไม่รักเธอแต่ก็ยอมทะนุถนอมเธอคนนี้

แต่เธอก็ยังคงหมดหนทางที่จะอยู่ข้างกายเขา ตระกูลของเขาไม่ยอมรับ เกรงว่าถ้าเขารับรู้ว่าหยางหยางยังมีชีวิตอยู่อาจจะไม่ยอมรับก็ได้

ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่ยินยอมให้ตัวเองกลายเป็นนกขมิ้นของเขา

ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะปรากฏในข่าวของออสเตรเลียกับผู้หญิงสักกี่คน ไม่ว่าชีวิตเขาในเวลานี้จะเรี่ยราดขนาดไหน เธอก็ยังคงไม่หวั่นไหวอยู่ดี

เพราะเธอรู้ว่าเธอเป็นคนที่ละทิ้งการเป็นผู้หญิงของเขาก่อน

ลั่วเฉียวเห็นใบหน้าอันแสนปวดร้าวของกู้ฮอน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ก็เธอมันใจดีเกินไปไง ถ้าเป็นฉันนะ มีลูกทั้ง 2 แล้วจะกลัวอะไรอีก? ฉันจะสู้กับครอบครัวของเขา ต่อสู้จนเขาไม่เหลืออะไร ดูซิว่าเขายังกล้าที่จะออกมาขายความคนไหม ยิ่งกว่านั้น เธอยังมีไพ่ตายอีกใบอยู่ในท้องไม่ใช่เหรอ?”

“เฉียวเฉียว” กู้ฮอนส่ายหัวอย่างหมดแรงและยิ้มออกมา “ฉันไม่อยากพูดถึงเขาอีกแล้ว ยิ่งกว่านั้น ฉันไม่ได้มีความคิดอย่างที่เธอพูด แค่ตระกูลกู้ตระกูลเดียวฉันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ตอนนี้ฉันแค่ต้องการคลอดเด็กมาอย่างสงบๆ และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แค่นี้ก็พอแล้ว”

ลั่วเฉียวยักไหล่และยิ้มออกมา “ฉันเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่พี่ปู้ฝันก็ช่างน่ารำคาญจริงๆ ชอบโทรมาถามสถานการณ์ของเธออยู่บ่อยๆ กลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดกับการตั้งครรภ์ของเธอ ราวกับเป็นพ่อของเด็กยังไงยังงั้น”

ดูลั่วเฉียวพูดถึงหยินปู้ฝัน ก็มีสีหน้าอันรังเกียจขึ้นมา กู้ฮอนร้องจ๊าก อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

“เธอยังหัวเราะอีก” ลั่วเฉียวขมวดคิ้วหน้าบึ้งและทำปากจู๋ “และยังมีเด็ก 2 คนนั้นอีก ราวกับให้ฉันเป็นพี่เลี้ยงของเธอซะงั้น วันวันก็บังคับให้ฉันดูแลเธอ ไม่ใช่สิ ดูแลเด็กในท้องเธอต่างหาก ดังนั้นจะเกิดความเสียหายอะไรกับเธอไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นถ้าพี่ปู้ฝันไม่ฆ่าฉัน ก็คงเป็นเด็ก 2 คนนั้นที่จะหั่นฉันเป็นชิ้นๆ”

กู้ฮอนมองไปที่หยางหยางที่กำลังเล่นอยู่ในทะเลด้วยสายตาอันอ่อนโยน “ใช่ พี่ชายเขาทั้ง 2 คนเมื่อรู้ว่าฉันตั้งครรภ์ พวกเขาก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเฉิงเฉิง ทุกคืนต้องมาบอกฝันดีน้องชายหรือน้องสาวของเขาก่อนถึงจะยอมกลับไปนอน และเมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันถือหนังสือลำดับวงศ์ตระกูลเป่หมิง เขาก็วิ่งมาถามฉันว่าควรตั้งชื่อให้เด็กที่กำลังเกิดมาว่าอย่างไรดี”

“เอ่อ…..เฉิงเฉิงเขามีประสบการณ์ขนาดนี้เลยเหรอ?” ลั่วเฉียวเม้มปาก “หนังสือลำดับวงศ์ตระกูลเป่หมิงเขาก็มีความสามารถทำได้ สมกับเป็นลูกชายเป่หมิงโม่จริงๆ แล้วหยางหยางล่ะ?”

พูดถึงหยางหยางกู้ฮอนก็หัวเราะร้องไห้ไม่ออก “เจ้าหยางหยางน่ะเหรอ ในสมองคิดแต่ว่าเมื่อน้องออกมาจะเรียกพวกเขามาใช้งานอย่างไร”

จ๊าก

ลั่วเฉียวหัวเราะออกมา “แม่เจ้า หยางหยางช่างเป็นนายทุนจริงๆ เด็กยังไม่คลอดออกมาเลย ก็คิดที่จะขูดรีดซะแล้ว สมกับเป็นเด็กที่เป่หมิงโม่ผลิตออกมาซะจริง”

กู้ฮอนส่ายหัวและยิ้ม “ช่วยไม่ได้ เด็ก 2 คนนี้ คนหนึ่งใส่ใจดุจปุยฝ้าย อีกคนร่าเริงดุจตัวตลก”

“ใช่” ลั่วเฉียวพยักหน้าและยิ้ม “แต่พูดแล้ว ถึงยังไงเด็กในท้องเธอก็ไม่อยากให้ตระกูลเป่หมิงรับไปนี่ ดังนั้นให้เฉิงเฉิงถือหนังสือลำดับวงศ์ตระกูลก็ไม่มีประโยชน์”

กู้ฮอนถอนหายใจ “อาจจะเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของฉัน นอกจากเฉิงเฉิงจะไม่มีความสามารถเพียงพอแล้ว หยางหยางและเด็กที่ยังไม่เกิดมา ฉันอยากให้พวกเขาอยู่กับฉัน”

“มันคือความเห็นแก่ตัวตรงไหน เกิดเป็นผู้หญิง การตั้งใจทิ้งลูกของตัวเองต่างหากถึงจะเรียกว่าเห็นแก่ตัว แค่ให้เด็กอยู่ข้างกาย มันกำหนดความลำบากไว้” ลั่วเฉียวรันทดใจแทนกู้ฮอน

“เหอะๆ มีเจ้าเด็กหยางหยางอยู่ข้างกายนี่ฉันไม่ลำบาก” ในตาของกู้ฮอนมีเงาของเด็กนั่นผุดขึ้นมา

ลั่วเฉียวถือโอกาสมองกลับไป เผยมุมปาก ล้วนเป็นความอิจฉา “ใช่ สักวันหนึ่งฉันก็จะหาผู้ชายสักคนมามีลูกด้วยกัน 1-2 คนก็ดีเหมือนกัน”

“หยินปู้ฝันก็ไม่เลวนะ” กู้ฮอนตอบด้วยจิตใต้สำนึก

“แหวะ” ลั่วเฉียวสำลัก ราวกับหวาดกลัว “เธออย่าทำให้ฉันตกใจสิ เขาเป็นแค่รุ่นพี่ฉัน รุ่นพี่แค่เอามาปลอบใจ ส่วนอาจารย์ถึงนำมาฟัด”

ทฤษฎีที่น่าตื่นเต้นของลั่วเฉียวหลุดออกมา

กู้ฮอนไม่มีอะไรจะพูด ได้แต่มองลั่วเฉียว ครึ่งค่อนวันถึงส่ายหัว ถอนหายใจ “เฉียวเฉียว เธอช่างแมนจริงๆ”

“ฮ่าๆๆ อันนี้ฉันชอบ” ลั่วเฉียวหัวเราะชอบใจ

*

วันนี้กับบรรยากาศยามค่ำคืน

กู้ฮอนและหยางหยางกลับบ้านไปทำอาหารไว้เต็มโต๊ะแล้ว เหมือนกับทุกครั้งที่เฉิงเฉิงจะแอบมาหา

ชีวิตที่ออสเตรเลียนั้นเรียบง่ายและอบอุ่นเป็นพิเศษ

กู้ฮอนนอกจากจะไปส่งหยางหยางเรียนหนังสือที่โรงเรียนเอกชนใกล้บ้านแล้ว ภายใต้การจัดการของลั่วเฉียว เธอยังมุ่งศึกษาสาขาวิชาการแสดงละครอีก

ปีนั้นเธอตั้งครรภ์จึงต้องดรอปเรียนไว้ แต่ตอนนี้เธอกลับมาจับหนังสือเรียนอีกครั้ง คิดซะว่าชดใช้กับความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น

พลบค่ำ เธอยุ่งอยู่ในครัว

“แม่ครับ หยางหยางหิวแล้ว หยางหยางอยากกินเค้กป่าดำ” เจ้าหนุ่มน้อยกุมท้องไว้ ยืนอยู่ข้างประตูห้องครัวมองหาอาหารเหมือนตรวจจับเรดาร์

กู้ฮอนหันกลับไปมองลูกตัวเองและยิ้ม “พ่อตะกละ กลางคืนห้ามทานของหวานนะ แม่จำโจ๊กหมูไว้แล้ว รอพี่ชายแกมาค่อยเริ่มทาน โอเค?”

“เกลียด ทำไมทุกครั้งต้องรอเป่หมิงซิเฉิงมาก่อนถึงเริ่มทานได้?” หยางหยางบ่นอย่างไม่พอใจ

“เพราะเราคือครอบครัวเดียวกันไงล่ะ ครอบครัวเดียวกันก็ต้องรอคนมาให้ครบก่อนค่อยลงมือทานได้”

“งั้นแม่ครับ เราต้องรอให้คุณพ่อมาก่อนถึงจะเริ่มทานข้าวได้ใช่หรือไม่?” หยางหยางกะพริบตา

กู้ฮอนทำสีหน้าตกใจ หยุดทำสิ่งที่อยู่ในมือ เธอล้างมือและถอนหายใจ “หยางหยางมานี่ซิ”

หนุ่มน้อยรีบวิ่งมาที่ข้างๆ ตักของคุณแม่

เธอค่อยๆ อุ้มลูกชายขึ้นมาอย่างอ่อนโยน เพราะยังมีเด็กอยู่ในท้องอยู่ ดังนั้นจึงต้องระวังเป็นพิเศษ ถามไปอย่างจริงจังว่า “คนในครอบครัวในความคิดของหยางหยาง รวมคุณพ่อผู้อำมหิตของลูกด้วยเหรอ?”

หยางหยางพยักหน้ามั่นใจ “เป่หมิงซิเฉิงบอกผมว่า พ่อ แม่ ผมและเขา 4 คน ถึงจะรวมกันเป็นครอบครัว”

“งั้นแม่บอกไว้เลยนะว่า ต่อไปครอบครัวเรา 4 คนมีแค่แม่ เฉิงเฉิง หยางหยางและน้องที่ยังไม่เกิดมาเท่านั้น ไม่มีพ่ออันอำมหิตของเจ้า หยางหยางรับได้ไหมลูก?” จริงๆ แล้วกู้ฮอนไม่ได้ต้องการหยุดความหวังของเด็ก ๆ สำหรับความรักของพ่อ แต่ในอนาคตอันยาวนานในอนาคต เธอต้องให้เด็กๆ ยอมรับความจริงที่พ่อไม่อยู่ข้างกายให้ได้

หยางหยางเบิกตาโพลง ขบคิดไปชั่วครู่ “แม่รับได้หยางหยางก็รับได้ครับ”

กู้ฮอนปลาบปลื้มใจ กอดลูกชายอย่างแนบแน่น ซาบซึ้งเป็นอย่างมาก “หยางหยางว่านอนสอนง่าย ช่างเป็นเด็กดีของแม่จริงๆ”

เวลานี้มีเสียง แกรก แกรก ดังขึ้นมา

และนั่นก็คือเสียงไขกุญแจห้องนั่นเอง

“เฮลโล เด็กๆ ป้าเฉียวเฉียวกลับมาแล้ว” เฉียวเฉียวเปิดประตูเข้ามาก็แหกปากเสียงดัง “เฉิงเฉิง หยางหยาง ฮอน ดูสิวันนี้ฉันพาใครมา”

กู้ฮอนอุ้มลูกชายออกมาจากห้องครัว หยางหยางตะโกนเสียงดังว่า

“พี่หน้าขาว”

กู้ฮอนตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มและพยักหน้า “ยี่เฟิง”

ยี่เฟิงเดินตามหลังลั่วเฉียวเข้ามาในบ้าน

หยางหยางดิ้นออกมาจากอ้อมกอดของแม่ รีบวิ่งตึงตังตึงตังไป กระโจนเข้าใส่ตัวของยี่เฟิง ใบหน้าน้อยๆ ค่อยๆ ยิ้มออกมา “พี่หน้าขาว หยางหยางคิดถึงพี่จะแย่อยู่แล้ว”

เห็นหยางหยางกอดขาราวกับสุนัขน้อย กู้ฮอนละลั่วเฉียวถึงกับหัวเราะร้องไห้ไม่ออก

นึกไปถึงเมื่อ 1 เดือนก่อน ก่อนที่จะมาออสเตรเลีย หยางหยางยังไม่เป็นมิตรกับยี่เฟิงสักเท่าไหร่ ใครจะรู้ว่าหลังจากที่ยี่เฟิงชอบเอาของกินอร่อยๆ มาให้หยางหยางอยู่บ่อยๆ หยางหยางกลับค่อยๆ ใจอ่อนแผนการของยี่เฟิงขึ้นเรื่อยๆ

ตามคาด “ครั้งนี้พี่หน้าขาวซื้อของขวัญอะไรมาให้หยางหยางเหรอครับ?”

ยี่เฟิงยิ้มและลูบศีรษะหยางหยาง จากนั้นก็มอบของขวัญที่เตรียมมาให้พ่อหนุ่มน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ