ตอนที่ 263 ความลับแตก
ช่วงไหล่ของเด็กสาวผิวขาวสะดุ้งยกสูงขึ้น ดูเหมือนว่าเธอจะตกใจนิดหน่อย เธอยกยิ้มแล้วยื่นถ้วยรางวัลไปตรงหน้าหยางหยางอีกครั้ง
ครั้งนี้หยางหยางที่ถูกคนเป็นแม่ที่ยืนอยู่ด้านข้างขวางเอาไว้ เขาจึงยื่นมือไปรับถ้วยรางวัลนั้นมาแต่โดยดี เขาส่งยิ้มแป้นกับสายตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจให้กับเด็กสาว...
กู้ฮอนมองไปยังลูกชาย เธอส่งยิ้มอารมณ์ดีไม่หยุด ความจริงแล้วควรเป็นเฉิงเฉิงที่ต้องขึ้นมารับรางวัล แต่เธอจำเป็นต้องปล่อยให้เจ้าเด็กโง่หยางหยางรับผลประโยชน์จากสิ่งที่ตนเองไม่ได้สร้างไว้ ทิศทางลมถูกเขาพัดพาไปในทางนี้แล้ว แน่นอนว่าแม้แต่หน้าก็ถูกเขาทำให้อับอายแล้วเช่นกัน !
หลังจากนั้น เด็กสาวคนนั้นก็เดินลงไปจากเวที
สายตาของหยางหยางมองไปยังมือของตนเองที่ถือถ้วยรางวัล‘Billodis’ที่ทำจากทองคำคุณภาพสูงอันหนักอึ้งแล้วยกมันขึ้นมา
แต่วินาทีถัดมาที่หลุบตาขึ้น สายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับสายตาของเฉิงเฉิงที่ยืนอยู่ข้างล่างเวทีตรงที่นั่งวีไอพีแถวแรกโดยไม่ได้ตั้งใจ
เดี๋ยวนะ ผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ เฉิงเฉิงนั่นมัน...
หยางหยางแสยะยิ้ม เด็กชายยกถ้วยรางวัลขึ้นแล้วโบกไม้โบกมือไปมา จากนั้นก็ตะโกนออกมาอย่างไร้ความปรานีว่า
“เฮ้ เจ้าพ่อบ้า...”
ตู้ม !
กู้ฮอนรู้สึกเพียงแค่ว่าร่างกายถูกชอร์ทด้วยกระแสไฟฟ้าแรงสูง เธอสั่นสะท้านไปและเหน็บชาไปทั้งตัว
สมองถูกไฟชอร์ทเปรี้ยงปร้างจนดำเป็นตอตะโก
จิตสำนึกสั่งให้เธอมองลงไปด้านล่างของเวที สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับนัยน์ตาดำที่ดูเย็นลึกคู่นั้นกลางอากาศอย่างตายดีไม่ตายดี
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ...
ดอกไม้ไฟแตกกระเซ็นซ่านไปทั่วสี่ทิศ
สูด~
กู้ฮอนสูดอากาศหนาวเย็นเข้าไป N ครั้ง ใบหน้าของเธอซีดขาวจนน่ากลัว
เอ่อ...เป่หมิง เป่หมิง เจ้าโง่เป่หมิง !
ริมฝีปากของเธอสั่นระริก ลิ้นแข็งจนขยับไม่ได้ พูดอะไรออกมาไม่ได้เลยแม้แต่ประโยคเดียว
ดวงตาของเธอเบิกกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ เธอเห็นเฉิงเฉิงยืนที่อยู่ข้างเป่หมิงโม่อย่างว่าง่ายได้อย่างชัดเจน ราวกับว่าเป็นลูกหมาน้อยอย่างไรอย่างนั้น ทั้งยังก้มหัวต่ำลงอย่างไร้เดียงสา
นัยน์ตาของเป่หมิงโม่หดตัวลงอย่างรวดเร็ว !
เขามองไปยังลูกชายที่ยืนอยู่ด้านข้าง เด็กชายสวมชุดสูทที่ตัดเย็บมาอย่างพอดีตัว ระหว่างคิ้วถูกฉาบไว้ด้วยความเยือกเย็นและความหยิ่งทะนง
เขาหันกลับไปมองเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านข้างกู้ฮอน ลูกชายของเธอคนนั้นสวมชุดลำลองสีขาว บนหน้ามีรอยยิ้มที่มีความสุขเหมือนแพะ ในมือถือถ้วยรางวัลแล้วโบกมือให้เขาอย่างโง่ ๆ ...
แน่นอนว่าไม่ว่าจะมองจากหน้าตา ส่วนสูง หรือน้ำหนัก เด็กทั้งสองคนนี้เหมือนกันมากจริง ๆ
แต่อย่างไรก็ตามนิสัยเฉพาะตัวของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง !
สมองที่ฉลาดเฉียบแหลมของเขาทำงานอย่างรวดเร็ว
ภาพวาดของเฉิงเฉิงปรากฏขึ้นมาในหัวทีละฉาก
เริ่มมีภาพใบหน้าของเด็กสองคนตัดสลับกันไปมาตรงหน้าเขา คนหนึ่งสุขุมเยือกเย็นว่านอนสอนง่าย คนหนึ่งมากมายด้วยรอยยิ้ม...
ไม่แปลกใจที่ก่อนหน้านี้เขาจะรู้สึกสงสัยกับนิสัยที่ดูฉลาดพูดของเป่หมิงซิเฉิง แต่ตอนนั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าบนโลกใบนี้จะยังมีเด็กที่หน้าตาเหมือนเป่หมิงซิเฉิงอย่างกับแกะอยู่อีกคน ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะสนใจ !
เขามองไปที่กู้ฮอนที่ตกใจกลัวจนใบหน้าซีดขาว ปฏิกิริยานั้นของเธอกำลังบอกเขาว่าเธอเรื่องทั้งหมดนี้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว !
ความทรงจำในหัวคิดไปถึงตอนที่กู้ฮอนหายไปอยู่อเมริกาถึงห้าปี...
แค่พริบตาเดียว !
เป่หมิงโม่รู้สึกกระจ่างชัดในทันที ราวกับว่าคว้าจับความจริงบางอย่างเอาไว้ได้ !
บนขมับของเป่หมิงโม่มีเส้นเอ็นสีเขียวปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง สายตาแหลมคมดั่งนกเหยี่ยวจดจ้องไปยังหญิงสาวที่ยืนหวาดผวาอยู่บนเวที
ในตอนนั้นเอง นัยน์ตาเข้มลึกของเขาก็ถาโถมด้วยคลื่นยักษ์ที่ทำให้ผู้คนหวาดผวา ท้ายที่สุดก็แผดเสียงก้องดังดุจฟ้าผ่า
“เธอกล้ามากที่ขโมยลูกชายฉันไป ! ”
ตู้ม !
ตู้ม ตู้ม ตู้ม !
ตู้มโครม !
มีระเบิดสามลูกระเบิดขึ้นในหัวของกู้ฮอน !
เฉิงเฉิงหนาวสั่นไปทั้งตัว
หยางหยางเพิ่งจะรู้สึกตัวเอาทีหลังว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง...
กู้ฮอนแข้งขาอ่อนจนยืนโซเซ
เธอขบริมฝีปาก ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเป่หมิงโม่จะมาปรากฏตัวที่นี่ !
พระเจ้าช่วย ความแตกแล้ว !
ความลับที่เธอปิดซ่อนอย่างยากลำบากมาห้าปีแตกออกมาหมดแล้ว...
ตอนนี้เธอร้อนใจจนกลายเป็นเหมือนมดที่อยู่ในหม้อร้อน ๆ ราวกับมีไฟกำลังลุกไหม้ที่ก้นของเธอ กู้ฮอนแทบไม่แม้แต่จะคิด เธอรีบจูงมือเล็ก ๆ ของหยางหยาง “ไปเร็วหยางหยาง” แล้ววิ่งลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว...
“อ้า… !” พิธีกรเห็นฉากนี้เข้าก็รู้สึกงุนงงนิดหน่อย
แววตาของเป่หมิงโม่ส่องประกายหนาวเหน็บ ผู้หญิงคนนี้ยังกล้าที่จะหลบหนีเขา !
ท่านโม่ไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาคิดเพราะตอนนี้เขาโมโหจนตาแทบบอด เขารีบออกคำสั่ง “ฉิงฮัวนายพาตัวเด็กสองคนนี้ไป”
ในชั่วพริบตาเขาก็ลุกยืนขึ้นแล้วก้าวขาเรียวยาวนั้นก้าวไปขวางทางหลบหนีของสองแม่ลูก
กู้ฮอนหลับหูหลับตาจูงมือหยางหยางวิ่งลงไปจากเวทีอย่างสะเปะสะปะเหมือนแมลงวันไร้หัวไปทางพรมสีแดงอีกด้านหนึ่งเพราะกลัวว่าจะถูกเป่หมิงโม่จับได้
มือหนึ่งของกู้ฮอนจูงหยางหยาง มือหนึ่งกอดท้องน้อยเอาไว้ เธอไม่กล้าที่จะวิ่งเร็วนัก แต่ก็ไม่กล้าที่จะยืนรอเป็นแพะที่พร้อมโดนเชือดอยู่ที่เดิม...
หยางหยางวิ่งไปพลางหันไปมองเป่หมิงโม่ “หยา เร็วเข้าครับแม่...พ่อบินเร็วมากเลย...” ไม่อย่างนั้นจะวิ่งเร็วขนาดนั้นได้ยังไง...
เร็วขนาดนั้น...
เสียงพูดของหยางหยางเพิ่งหยุดลงไปไม่กี่วินาที ทันใดนั้น...
เงาร่างสูงใหญ่ก็เข้ามาขวางทางหนีของสองแม่ลูกเอาไว้ด้วยความเร็วสูง
ทั้งสองคนแทบจะหยุดตัวเองเอาไว้ไม่ทัน
‘ฟิ้ว’ มีลมหนาวที่น่าหวาดผวาพัดใกล้เข้ามา !
ทันทีที่สายลมพัดผ่านใบหน้าในชั่วพริบตาก็คล้ายว่าถูกแช่แข็ง !
“กู้ฮอน ! ”
น้ำเสียงของเป่หมิงโม่ที่พูดออกมานั้นเย็นยะเยือกเหมือนกับบรรยากาศข้างในของอุโมงค์ใต้ดิน เสียงเย็นเยียบนั้นถูกบีบเคล้นออกมาจากไรฟัน น่าหวาดผวาจนกู้ฮอนสั่นไปหมดทั้งตัว
ฉิงฮัวอุ้มเฉิงเฉิงเอาไว้ในอ้อมแขนแล้ววิ่งไล่ตามมา
ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลงดึงตัวหยางหยางจากมือกู้ฮอนมาอุ้มเอาไว้อย่างบุ่มบ่าม “คุณหนูกู้ ล่วงเกินแล้ว”
“อะไรกันคุณลุงฉิงฮัว คุณนุ่มนวลกว่านี้หน่อยได้ไหม นุ่มนวลอ่ะ...”หยางหยางกอดถ้วยรางวัลไว้แล้วชำเลืองตามองไปที่ร่างกายใหญ่โตสูงหนาของฉิงฮัว
เฉิงเฉิงอดไม่ได้ที่กลอกตา “หุบปากได้แล้วหยางหยาง ! นายยังก่อเรื่องไม่พออีกหรือไง !”
หยางหยางทำปากมู่ทู่ จากนั้นก็ส่งถ้วยรางวัลไปไว้ในมือเป่หมิงซิเฉิง “เอ้า นี่ถ้วยรางวัลของนาย ให้ตายเถอะ ขึ้นไปรับรางวัลแทนนายนี่เหนื่อยชะมัด ! ให้ทำแบบฉันก็ทำได้สักพักหนึ่งแล้ว ! นี่ นี่ นี่ คุณลุงฉิงฮัว ลุงทำผมของผมยุ่งหมดแล้ว...
“…”เฉิงเฉิงกอดถ้วยรางวัลเอาไว้แน่น แม้ว่าเขาจะไม่ได้ขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีด้วยตัวเอง แต่พ่อกับแม่ก็ได้เป็นสักขีพยานในรางวัลนี้ของเขาพร้อม ๆ กัน ว่ากันตามจริงแล้วเฉิงเฉิงมีความสุขเอามาก ๆ แม้ว่า...ดูเหมือนว่าจะพุ่งชนเข้ากับหม้ออย่างแรง เกิดเรื่องหายนะเข้าอย่างจัง
แต่สำหรับหยางหยางนั้นเขาไม่รู้จะพูดอย่างไรดี →_→!
ฉิงฮัวมองเด็กชายที่อุ้มอยู่บนแขนข้างซ้าย แล้วก็หันไปมองเด็กชายที่อุ้มอยู่บนแขนข้างขวา ทั้งสองคนพากันตัวสั่นไม่หยุด อืม...เขาแน่ใจแล้วว่าตนเองไม่ได้ตาลายแล้วก็ไม่ได้เห็นภาพทับซ้อน นายน้อยเฉิงเฉิงมีพี่น้องฝาแฝดจริง ๆ
“เจ้านาย ผมพานายน้อยทั้งสองคนไปก่อนนะครับ ! ” ฉิงฮัวอุ้มเด็กทั้งสองคนเอาไว้แล้วพยักหน้าไปทางเป่หมิงโม่เบา ๆ
หลังจากถูกสายตาหลายคู่ของผู้ชมจำนวนนับไม่ถ้วนจ้องมอง ก็รีบหนีออกไปจากพื้นที่จัดงานอย่างรวดเร็ว
*
ใบหน้าขาวซีดของกู้ฮอนคล้ายกับกระดาษซีด ๆ แผ่นหนึ่งที่ปลิวร่วงหล่นท่ามกลางสายลม...
เป่หมิงโม่เดินเข้าไปยืนตรงหน้าของเธอ บนใบหน้าคมสันปรากฏสีหน้ามืดครึ้ม
ไม่ได้เจอกันสามเดือน ผู้ชายคนนี้ผอมลงไปไม่น้อย
แต่ทว่าใบหน้าคมสวยยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อนนั้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลยแม้แต่น้อย
สีหน้ามืดครึ้มเย็นชานั้นก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยเช่นกัน...
จะทำยังไงดี ในที่สุดเขาก็รู้เรื่องนี้เข้าจนได้...
เธอยังต้องซ่อนตัวตนของหยางหยางเอาไว้อีกไหม
ความหวาดกลัวยังคงโยงยาวพันรอบหัวใจ
เธอรู้สึกได้ถึงความเย็นชาที่กระจายออกมาจากร่างกายของเขาได้อย่างง่ายดาย
เธอรู้สึกหนาวสั่นเล็กน้อยแล้วพยายามที่จะเปิดปากพูดออกมา “…หล...หลีกทาง…”
นัยน์ตาของท่านโม่ยิ่งหดตัวมืดครึ้มอย่างน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
เธอยังมีอารมณ์ที่จะสั่งให้เขาหลีกทางอีกเหรอ
กู้ฮอนเห็นเขาไม่ขยับ เธอจึงทำได้แต่ทำหน้าหนาเดินอ้อมเขาไป แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทำตัวหยาบคายอุ้มเธอจนตัวลอยขึ้นมาอย่างทันทีทันใด เธอยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไรเลยด้วยซ้ำ แค่พริบตาเดียวก็ถูกเขากอดเอาไว้ในอ้อมกอดอย่างเผด็จการแล้ว
“นี่...เป่หมิงโม่ คุณปล่อยฉัน...” เธอพยายามที่จะออกบิดตัว ดิ้นรนหนีก็แล้ว แต่เป็นเพราะตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องอยู่ จึงไม่กล้าที่จะขยับอย่างรวดเร็วและรุนแรง
“ถ้าเธอยังขยับอีก ฉันสาบานเลยว่าจะจัดการเธอให้ตาย” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว !
เธอเม้มริมฝีปากแล้วปกป้องท้องน้อยของตนเองเอาไว้ ความโกรธของผู้ชายคนนี้ทำให้เธอรู้สึกแห้งเหี่ยว...
เป่หมิงโม่กำหมัดทั้งสองข้างเอาไว้แน่น เขาแทบจากจะจับเธอฟาดก้นแรง ๆ จริง ๆ เลยให้ตายเถอะ !
ชายหนุ่มอุ้มกู้ฮอนออกไปข้างนอกพื้นที่จัดงาน...
ตอนที่เขาเดินเหยียบอยู่บนพรมแดง เขาก็ชำเลืองมองไปที่คนที่หยิบโทรศัพท์ออกมาแอบถ่ายรูปพวกเขา...
“ถ่ายอะไรกัน ไม่เคยเห็นพ่อของลูกอ๊อดหรือไง ! ”
พ่อของพวกลูกอ๊อดอย่างนั้นเหรอ กู้ฮอนฉีกมุมปากล่างพึมพำว่าหนาวจัง...
หลังจากที่ท่านโม่ตะโกนออกมา ผู้หญิงที่ทำหน้าตาแข็งทื่อที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาก็พยายามที่จะซ่อนตัวเองไว้ในสถานที่จัดงานสุดหรูหราแห่งนี้
ที่ด้านหลังของพวกเขามีเหล่าผู้ชมที่สุดแสนจะกระตือรือร้นคอยส่งเสียงปรบมือแสดงความยินดีอย่างเสียงดังกึกก้อง...
หลังจากออกมาจากโรงละครซิดนีย์แกรนด์ หน้าตาของเป่หมิงโม่ก็ยังคงเย็นเยียบและมืดครึ้มอย่างน่ากลัว
กู้ฮอนขบริมฝีปาก เธอหลุบตาลงแทบไม่กล้าจะมองเข้าไปในตาของเขา เธอขยับริมฝีปากอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แล้วพูดออกมาอย่างช้า ๆ ว่า “แบบนี้...คุณควรจะปล่อยฉันลงได้แล้ว”
เป่หมิงโม่ก้าวเดินต่อไปพลางมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดผู้ซึ่งไม่ยินยอมแม้แต่จะหันมามองเขาสักกระผีกตาเดียว
ความโกรธที่เก็บเอาไว้ในใจกว่าสามเดือน ในตอนนี้เองที่ก็ได้กลายเป็นระเบิดปรมาณูปะทุขึ้นไปทั่วหน้าอกของเขา !
ดวงตาโหดเหี้ยมอำมหิตคู่นั้นของเขาหรี่ลงเล็กน้อย เขายืนนิ่งไม่ขยับแล้วพูดถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบราวกับอยู่ในนรก
“เธอมีอะไรจะอธิบายกับฉันไหม”
หัวใจของกู้ฮอนบีบรัดแน่น นิ้วมือที่วางอยู่บนท้องน้อยบิดพลิกไปมา
“ในเมื่อคุณรู้แล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรจะอธิบาย...”
เธอก็แค่ผู้หญิงที่ทำหน้าที่เป็นแม่อุ้มบุญให้เขาเมื่อห้าปีก่อน ความจริงก็ปรากฏชัดเจนอยู่ตรงหน้าว่าเธอก็คือผู้หญิงที่รับเงินห้าล้านมาจากตระกูลของพวกเขา ยังจะให้เธอพูดอะไรได้อีก
ใบหน้าหล่อเหลานั้นเย็นชาขึ้นไปอีก ! มือที่โอบกอดเธอไว้นั้นรัดแน่นขึ้นในทันที ! ดูเหมือนว่าเธอจะได้ยินเสียงความโกรธของเขาดังกรอกแกรกออกมาจากนิ้วมือ
“ไม่มีอะไรจะอธิบายอย่างนั้นเหรอ จูงมือเด็กผู้ชายที่โตมาเหมือนลูกชายของฉันอย่างกับแกะแล้วเธอยังกล้าพูดว่าเจ้าเด็กโง่นั้นไม่ใช่ลูกของฉันอีกอย่างนั้นเหรอ ! ”
“ฉัน…”
“ทำไม หรือเธอวางแผนที่จะไม่ยอมรับ หรือว่าคิดที่ทำตาโต ๆ แล้วพูดกับฉันว่า บังเอิญจังเลยที่ลูกของคุณกับลูกของฉันเหมือนกันมากขนาดนี้ ! ” เขากัดฟันแน่นตัดช่องทางไม่ยอมให้เธอได้มีหนทางเอ่ยปากพูด
“ใช่…”
เธอเพิ่งจะพูดออกมาได้คำหนึ่งก็ถูกน้ำเสียงอันเกรี้ยวกราดของเขาสกัดเอาไว้ “เธอยังจะกล้าพูดว่าใช่อีกอย่างนั้นเหรอกู้ฮอน ความสามารถในการโกหกตาใสของเธอพัฒนาขึ้นไม่น้อย ตอนที่ฉันอายุสามขวบหลอกง่ายขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“ไม่...”
“ยังคิดที่จะปฏิเสธว่าเธอไม่ได้หลอกฉันอีกอย่างนั้นเหรอ เหอะ เธอยังคิดว่าฉันจะเชื่อเธออีกรึไง หลังจากที่ได้เห็นลูกชายของฉันหลายต่อหลายครั้ง ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร หรือหลังจากที่รู้อย่างแน่ชัดแล้วว่าเขาเป็นลูกชายของฉัน เธอจะยังไม่รู้อีกว่าฉันเป็นใคร”
“ฉัน...”
“ฉันเป็นพ่อของเด็ก ๆ ” เขาโกรธจนเป็นบ้าไปแล้ว เขาขัดขวางคำพูดของเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก ภายในม่านตาปรากฏหมอกควันที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
“เห็นได้ชัดแล้วว่าเธอรู้เรื่องนี้อยู่ตัวแต่แรก ที่เธอเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ฉันก็เพราะอยากที่จะหาโอกาสเข้าใกล้ลูกชายของฉันใช่ไหม ! ”
“ไม่...”
“ยังจะไม่ยอมรับอีกเหรอ ยังไงก็จะไม่ยอมรับสินะ ! ” น้ำเสียงเย็นเยียบของเขาเสียดแทงเข้าไปในแก้วหูของเธอจนทำให้รู้สึกเจ็บ “เธอไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นแม่ของเด็กคนนั้น ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะเชื่อเธอ ! ”
“…” คราวนี้เธอไม่พูดแล้ว
คำตอบนั้นชัดเจนแล้ว เธอเป็นแม่ของลูกชายเขา !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ