ตอนที่ 264 ลูกต้องเป็นของฉัน
ท่านโม่โมโหจนความรู้สึกสะเทือนหัวใจที่ถูกมัดอัดจนแน่นนั้นใกล้จะระเบิดออกมา “หายตัวไปอย่างลึกลับกว่าสามเดือน คาดไม่ถึงว่ายังจะยุยงส่งเสริมให้เป่หมิงยี่เฟิงหนีงานแต่ง เธอวางแผนล่วงหน้าเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม เธอวางแผนว่าจะหนีไปพร้อมเป่หมิงยี่เฟิงกับลูกชายของฉันในคืนวันเกิดของฉันใช่ไหม ! ถ้าอย่างนั้นแล้วเธอจะยังนอนอ้าขาให้ฉันทำทำไม”
เปรี๊ยะ~ !
ทันใดนั้นก็มีพายุฝนกระหน่ำอันหนาวเหน็บพัดตบลงบนที่หน้าของเป่หมิงโม่...
เขามองอย่างเย็นชา !
มองไปยังผู้หญิงในอ้อมกอดที่กล้าตบหน้าเขาด้วยสายตาไม่อยากที่จะเชื่อ ไฟแห่งความโกรธของเขายิ่งลุกลามมากยิ่งขึ้น
ฝ่ามือของกู้ฮอนชาไปหมด เงยหน้าขึ้นสบมองเข้าไปในดวงตาลึกมืดเหมือนห้วงเหวลึกคู่นั้น เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พูดออกมาด้วยริมฝีปากที่สั่นเครือ
“ฉันยอมรับ...ตอนที่ฉันเจอเฉิงเฉิง ฉันก็รู้ได้ในทันทีว่าคุณคือนายจ้างของฉันเมื่อห้าปีก่อน ฉันตั้งใจปิดบังคุณไว้จริง ๆ ...ปฏิเสธไม่ได้ว่าหยางหยางก็เป็นลูกของคุณเช่นกัน ในปีนั้นเป็นฉันที่เห็นแก่ตัวเก็บเขาเอาไว้ข้างกายตนเอง...เรื่องนั้นฉันก็ยอมรับ เหตุผลหลัก ๆ ที่มาออสเตรเลียก็เพื่อเฉิงเฉิงนั่นก็ด้วย แต่เรื่องที่เป่หมิงยี่เฟิงหนีงานแต่งงานนั้นฉันไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยสักนิด พวกเราสองคนแค่บังเอิญขึ้นเครื่องบินลำเดียวกันเท่านั้นเอง ฉันไม่ได้สกปรกโสมมอย่างที่คุณคิด ! ”
ตอนที่พูดประโยคนี้จบ น้ำตาของเธอก็เอ่อล้นขอบตาเต็มไปหมด แต่เธอฝืนกักมันเอาไว้ ไม่ยอมปล่อยให้พวกมันไหลลงมา
ใบหน้าที่ปกคลุมด้วยเมฆครึ้มดำของเขานั้นมืดสนิทจนน่าหวาดกลัว
“แผนชั่ว ๆ ” เขาพ้นสามพยางค์นั้นออกมาในทันที เป็นสามพยางค์ที่ทำให้คนฟังรู้สึกหวาดกลัว “กู้ฮอน ที่เธอเข้ามาอยู่ใกล้ฉันมาตลอดตั้งแต่จนจบก็เป็นเพียงแค่แผนการชั่ว ๆ ฉากหนึ่งที่วางขึ้นเพื่อที่จะเข้ามาแย่งลูกชายของฉันไป ! ”
“ไม่ใช่ ! ”
“เธอพูดว่าไม่ใช่ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเธอก็บอกมาสิว่าเธอจะอธิบายเรื่องของหยางหยางยังไง เธอกล้าพูดไหมว่าเด็กคนนั้นไม่ได้ถูกแผนการชั่ว ๆ ของเธอแย่งไป”
“…”กู้ฮอนกัดริมฝีปากแน่น ใบหน้าของเธอซีดขาว ที่บริเวณท้องน้อยของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดจนทำให้หน้าผากของเธอมีเหงื่อผุดขึ้นจาง ๆ “พวกเขาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่ฉันอุ้มท้องมานานสิบเดือน เดิมทีพวกเขาก็มีสายใยแม่ลูกกับฉันอยู่แล้ว จะพูดว่าฉันเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่นั่นก็คือความรู้สึกที่ยากจะตัดใจของคนเป็นแม่ที่มีต่อลูก ไหนเลยจะเป็นแผนชั่ว ๆ อย่างที่คุณพูดมาได้อีก ”
“แล้วฉันละ” เขาคำรามเสียงต่ำ ในแววตาของเขาเหมือนมีมีดจำนวนนับนับไม่ถ้วนบินปักลงบนหัวใจของเธอทีละด้าม “ฉันนับว่าเป็นตัวอะไร ฉันนับเป็นตัวอะไรของเธอกันแน่ ! ”
ปลายนิ้วของเธอกระตุก เธอไม่คิดว่าเขาจะถามคำถามที่เธอเคยถามมาก่อน
คำตอบของเขาก็คือเธอเป็นผู้หญิงของเขา
หรือถ้าอ้างตามแนวคิดของเขาแล้วสามารถพูดให้ชัดเจนขึ้นได้อีกนิดว่าเธอก็คือผู้หญิงที่นอนข้างเตียงของเขา...
“…”เธอเม้มริมฝีปากที่สั่นระริก ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับออกมาในทันที...
“เธอได้ยกฉันเป็นผู้ชายของเธอไหม ! ” ความลังเลของเธอทำให้เขาควบคุมเสียงคำรามไว้ไม่อยู่ “เธอยกให้ฉันเป็นแค่ผู้สนับสนุนที่บริจาคเมล็ดพันธุ์ เป็นแค่ไอ้โง่ที่ให้เงินห้าล้านกับเธอ !”
หัวใจของท่านโม่เย็นเยือก ราวกับว่าเรื่องที่เขาเพิ่งจะตระหนักได้นั้นเป็นเหมือนมีดที่กรีดแทงลงบนหัวใจของเขา
ที่ผู้หญิงคนนี้ยอมปรนนิบัติอยู่ข้างกายเขาก็เพราะเธอคือผู้ที่ให้กำเนิดลูกของเขา !
ที่ผู้หญิงคนยังคงอยู่ข้างกายเขาก็เพราะว่าข้างกายเขายังมีเฉิงเฉิงที่เธอไม่อาจแตะต้องอยู่ !
ใช่แล้ว เขาเกือบลืมไปเสียสนิท กู้ฮอนที่เคยร้องไห้น้ำตานองหน้าเพื่อแสงสว่างล้ำค่าของพระจันทร์ที่ไกลเกินเอื้อมคนนั้น จะเป็นไปได้ยังไงที่สั่งให้ปล่อยก็ปล่อย
ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็ซีดขาวจนไร้สีสันของเลือด !
ตึงตัง หัวใจของเธอปวดร้าวราวกับถูกสิ่งของบางอย่างชนเข้าอย่างแรง
ถึงแม้ว่าจะเคยคิดเอาไว้แล้วว่าความลับนี้จะถูกเปิดเผยขึ้นมาในสักวันและเป่หมิงโม่จะมีการตอบสนองอย่างไรต่อเรื่องนี้ แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะประณามและกล่าวหาเธออย่างรุนแรงแบบนี้ !
กู้ฮอนใช้ดวงตาคู่ใส่จ้องมองไปที่เป่หมิงโม่ จากนั้นเธอก็ตะโกนใส่เขาว่า
“แล้วคุณละเป่หมิงโม่ เมื่อห้าปีก่อนคุณก็ใช้ฉันเป็นเครื่องมือผลิตลูกเหมือนกันหรือไม่ใช่หรือไง แล้วไม่ใช่ว่าคุณก็ยกให้ฉันเป็นผู้หญิงที่เอาไว้ใช้เป็นที่ระบายเหมือนกันหรือไง คุณมีเฉิงเฉิง แต่คุณไม่เคยอยากรู้เลยว่าใครเป็นแม่ที่ให้กำเนิดเขาออกมา หนำซ้ำคุณยังไม่สนใจ คุณต้องการลูกแต่คุณไม่อยากแต่งงาน คุณต้องการภรรยา แต่คุณไม่อยากที่จะรัก ผู้ชายที่เย็นชาไร้น้ำใจแบบคุณมีคุณสมบัติอะไรถึงได้มากล้าต่อว่าฉัน ! ”
เสียงตะโกนตอบกลับอันแหลมคมของเธอนั้นราวกับว่าเป็นการตบลงบนใบหน้าของเขาอย่างไร้ความปรานี และเป็นเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงลงไปในหัวใจของตัวเธอเอง
ดวงตาของเขามืดดำมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในตอนนี้เองก็มีน้ำเสียงแจ่มชัดของผู้ชายคนหนึ่งสอดแทรกเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ปล่อยเธอซะ ! ”
เสียงนี้ทำให้หัวใจที่ถูกบีบรัดแน่นของกู้ฮอนสั่นสะเทือน
เธอหัวกลับไปมองตามจิตสำนึก หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของหยินปู้ฝัน ท้ายที่สุดเธอก็ปล่อยให้น้ำตาพวกนั้นไหลลงมา...
“ปู้ฝัน...”
แววตาของเป่หมิงโม่ปรากฏความเย็นชา !
เขาเคยได้ยินชื่อนี้ ! เขาเคยได้รับสายโทรศัพท์จากผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนวันที่มีฝนฟ้าคะนองโทรมาบอกเขาว่ากู้ฮอนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากที่ฉิงฮัวตรวจสอบดูแล้วก็พบว่าผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นก็คือ หยินปู้ฝัน ลูกชายของหัวหน้าผู้พิพากษาเมือง A. อย่างหยินเฉินเหยา !
หยินปู้ฝันรีบทะยานเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของกู้ฮอน กวาดตามองเป่หมิงโม่ที่โอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน น้ำตาของหญิงสาวไหลอาบแก้มทั้งยังมีเหงื่อเย็น ๆ ผุดอยู่เต็มหน้าผาก
หยินปู้ฝันตกตะลึงจนพูดไม่ออก รีบยืนมือเข้าไปแย่งเธอมาจากอ้อมแขนของเป่หมิงโม่ !
“เป่หมิงโม่ นายปล่อยฮอนฮอนเดี๋ยวนี้นะ นายไม่เห็นรึไงว่าเธออาการไม่ดีแล้ว ! ”
“ยอดไปเลยที่นายรู้จักฉัน ฮอนฮอนอย่างนั้นเหรอ” เป่หมิงหรี่ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นลง คำพูดพวกนั้นดูเหมือนว่าจะถูกบีบลอดออกมาจากไรฟันของเขา เขากวาดตามองกู้ฮอน มุมปากส่งยิ้มเยาะหยัน “ที่แท้เธอก็ไม่ได้หยุดแค่ที่เป่ยี่เฟิงคนเดียว !”
ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยมืออย่างกะทันหัน !
“อ้า...”กู้ฮอนส่งเสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัว สภาวะไร้น้ำหนักที่เกิดขึ้นฉับพลันเกือบจะทำให้เธอร่วงลงไป
หยินปู้ฝันรีบพุ่งเข้าไปรับตัวเธอไว้อย่างรวดเร็ว เขาตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง ถลึงตามองเป่หมิงโม่อย่างเหี้ยมโหด “นายเป็นบ้าไปแล้วหรือไง นายโยนเธอลงมาแบบนี้ได้ยังไง นายไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้เธอ...”
“ปู้ฝัน ! ”กู้ฮอนรีบตะโกนหยุดหยินปู้ฝันเอาไว้ แสดงเจตนาให้เขาหยุดพูดเรื่องนี้ เธอกลัวมากว่าหยินปู้ฝันจะบอกเป่หมิงโม่เรื่องลูกในท้องของเธอ เธอรับไม่ไหวอีกแล้ว...
สายตาโหดเหี้ยมอำมหิตของเป่หมิงโม่จดจ้องไปยังกู้ฮอน มองเธอที่ยังคงอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของหยินปู้ฝัน ใบหน้าของเขาเย็นเยียบ ดวงตาเยือกแข็ง
ริมฝีปากวาดไว้ด้วยร่องรอยของรอยยิ้มที่มองดูโหดร้าย เขาพยักหน้าเล็กน้อย พูดประโยคหนึ่งออกมาอย่างเย็นชา
“ดี ! ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ขอรบกวนเวลาสวีทของพวกนายแล้ว เพียงแต่ว่านะกู้ฮอน ลูกต้องเป็นของฉัน ! ”
ลูกต้องเป็นของฉัน !
สมองของเธอได้ยินเสียงดังตู้ม ถูกระเบิดจนไม่เหลือแม้แต่เถ้าถ่าน
เรื่องที่เธอหวาดกลัวที่สุด ท้ายที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้
หลังจากที่เป่หมิงโม่ประกาศคำพูดนี้ออกไปเขาก็กวาดตามองทั้งสองคนอย่างดูถูกเหยียดหยาม คล้ายกับว่าเขาไม่อยากเห็นฉากอะไรที่ทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอีก จากนั้นก็เดินหนีไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา...
หยินปู้ฝันถลึงตามองแล้วตะโกนเสียงต่ำใส่เขา “เป่หมิงโม่ นายอย่าข่มเหงรังแกกันจนเกินไปนัก นายมีลูกชายอยู่แล้วหนึ่งคน ทำไมยังอยากจะมาแย่งจากฮอนฮอนไปอีก...”
“ปู้ฝัน ไม่ต้องพูดแล้ว” ปลายนิ้วเย็นเฉียบของกู้ฮอนยกขึ้นปิดปากปู้ฝันแล้วมองตามแผ่นหลังที่โอหังและถือดีของเป่หมิงโม่ไป หัวใจของเธอเหมือนจะขาดออกเป็นชิ้น ๆ !
ก็เดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องมีวันนี้ไม่ใช่เหรอ
แต่ทำไม...
พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว หัวใจของเธอถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้กันนะ
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ ท้ายที่สุดเวลานี้ก็ชัดเจนเสียที
เธอเป็นแม่ของเด็ก ๆ
เขาเป็นพ่อของเด็ก ๆ
มันก็เพียงแค่นี้เท่านั้น
*
กว่าเป่หมิงโม่ขับรถกลับไปถึงที่บ้านพักของเฉิงเฉิงก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว
กลางคืนของซิดนีย์นั้นหนาวเย็นกว่าที่เมือง A มาก
เขาขับรถวนอยู่หลายรอบกว่าจะบังคับให้ตนเองใจเย็นลงได้
ภาพที่เขากับกู้ฮอนอยู่ด้วยกันฉายชัดขึ้นมาในหัวทีละภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพสีหน้าของเธอตอนที่พบลูกชายของเขา
ไม่ ตอนนี้เขานึกออกแล้ว วันนั้นเด็กหัวฟูเป็นรังนกที่เขาจับกลับมาจากหน้าบ้านของเธอไม่ใช่ลูกชายของเขา แต่เป็นลูกชายของเธอ
ปัง !
ฝ่ามือของเขาตบลงบนพวงมาลัยรถอย่างแรง !
ไม่แปลกใจเลยที่วันนั้นสีหน้าของเธอจะดูตกใจขนาดนั้น เขายังคิดว่าเธอแค่อยากรู้อยากเห็นเรื่องลูกชายของเขาเสียอีก
“ผู้หญิงสมควรตาย ! ”
เขาพ่นคำสาปแช่งออกมา ผู้หญิงคนนั้นหลอกเขาจนหัวปั่น
หลังจากนั้นดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายโทรออกในทันที
หลังจากเสียงสัญญาณดังขึ้นได้ไม่กี่วินาทีก็มีเสียงตอบรับดังขึ้นจากปลายสาย “โม่เหรอ ป้าได้ยินพวกคนรับใช้พูดกันว่าหลานบินไปซิดนีย์ เป็นยังไงบ้าง เจอเฉิงเฉิงแล้วใช่ไหม เหอเหอ ก็พ่อลูกกันนี่นะ ยังไงเลือดก็ต้องข้นกว่าน้ำ...”
“ป้าซิน ! ” เป่หมิงโม่ขมวดคิ้ว เขารีบพูดตัดบทเจียงฮุ่ยซินแล้วถามเธอไปตรง ๆ ว่า “ก่อนหน้านี้ผมเคยถามป้าไปแล้วว่าผู้หญิงที่เคยอุ้มท้องลูกของผมเมื่อห้าปีก่อนหน้าตาเป็นยังไง ตอนนี้ป้ามีคำตอบให้ผมแล้วหรือยัง”
“เรื่องนี้...”เจียงฮุ่ยซินอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไปชั่วขณะอย่างเห็นได้ชัด “เหอเหอ ไม่ใช่ว่าป้าบอกหลานไปแล้วอย่างนั้นเหรอว่าผู้ช่วยของป้าในตอนนั้นกลับบ้านเกิดไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับมาเลย แต่ไหนแต่ไรมาแฟ้มเอกสารพวกนั้นป้าก็ส่งให้เธอเป็นคนเก็บรักษาเอาไว้ตลอด...”
“กี่เดือนเข้าไปแล้วยังไม่กลับมาอีก” น้ำเสียงของเป่หมิงโม่เริ่มเย็นเยียบ แววตามีแสงไฟคุกรุ่น “ป้าซิน นี่คงไม่ใช่ประสิทธิภาพในการทำงานของป้าหรอกใช่ไหม หรือพูดได้อีกว่าป้ากำลังต้องการที่จะให้ผมไม่รู้เรื่องอะไรบางอยู่”
“เหอะ โม่ ทำไมหลานถึงพูดแบบนั้นละ ทำไมป้าต้อง...”
“กู้ฮอน ! ” น้ำเสียงเย็นชาของเป่หมิงโม่ตัดบทคำพูดของเจียงฮุ่ยซิน
“ อะไรจ๊ะ ” เสียงของเจียงฮุ่ยซินในโทรศัพท์สั่นเครือเล็กน้อย
“ผู้หญิงคนนั้นคือกู้ฮอนใช่ไหม” มุมปากของเป่หมิงโม่ฉีกยิ้มเยาะ ปฏิกิริยาตอบสนองของเจียงฮุ่ยซินตอบเขาหมดแล้ว “ความจริงผมก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานนี้เอง น่าผิดหวังจริง ๆ ที่ผมเชื่อใจป้ามากขนาดนี้ ! ”
“…โม่...ป้า...”ตอนนี้เจียงฮุ่ยซินเริ่มมีสีหน้าลนลาน “ป้าเองก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นาน...”
“แล้วทำไมป้าไม่บอกผมตั้งแต่แรก” เป่หมิงโม่ถามอย่างตำหนิด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดทำให้เจียงฮุ่ยซินพูดอะไรไม่ออก “หรือให้พูดว่า ความจริงป้ารู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้วว่าที่เธอเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ผมก็เพราะมีวัตถุประสงค์อื่นอย่างนั้นใช่ไหม ! แล้วทำไมป้าถึงไม่มาบอกผม ! ”
“…”เจียงฮุ่ยซินถอนหายใจยาว “โม่ กู้ฮอนคนนี้มีความรู้ความสามารถมากมายจริง ๆ ป้าเองก็เกือบจะโดนเธอหลอกหลายครั้งแล้ว แต่พอป้าเห็นว่าหลานลุ่มหลงโปรดปรานเธอแบบนั้นแล้ว ป้ากลัวว่าหลังจากที่หลานรู้ว่าเธอเป็นแม่ของเฉิงเฉิงแล้วจะยิ่งหลงใหลเธอมากขึ้นไปอีก...”
“หลงใหลอย่างนั้นเหรอ” เป่หมิงโม่พูดพลางฝืนยิ้มเจื่อน หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่คนอื่นมองเห็นว่าเขาปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนั้นยังไง “ถ้าอย่างนั้นป้ารู้ไหมครับว่าเธอขโมยลูกชายอีกคนของผมไปโดยพลการ”
“หา ? ขโมยลูกชายอะไร โม่ นี่หลานหมายความว่ายังไง” เจียงฮุ่ยซินสับสนงุนงงขึ้นมาทันที
นัยน์ตาของเป่หมิงโม่เย็นเยือก “ป้าซิน ดู ๆ แล้วป้าเองก็โดนหลอกอยู่ไม่น้อย ! ”
“ความจริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ โม่ หลานยังอยู่ที่ซิดนีย์รึเปล่า หรือจะพูดให้ถูกก็คือกู้ฮอนกลับไปซิดนีย์แล้วใช่ไหม”
ปัง !
ทันทีที่ได้ยินเจียฮุ่ยซินพูดแบบนี้ เป่หมิงโม่ก็ซัดโทรศัพท์ลงไปอย่างแรงทันที !
“โม่ ฮัลโหล ๆ ” ตู๊ดตู๊ดตู๊ดตู๊ด
โทรศัพท์ของเขาถูกซัดเข้าไปข้างในรถจนแตกครึ่งออกมาเป็นสองส่วน
บนใบหน้าหล่อเหล่าปรากฏเส้นเอ็นสีเขียวขึ้นมา!
คาดไม่ถึงว่าเจียงฮุ่ยซินจะพูดว่าเธอกลับซิดนีย์อีกแล้ว !
เห็นได้ชัดเลยว่าผู้หญิงสองคนนี้ทำอะไรลับหลังเขาไม่น้อย !
แต่สิ่งที่น่ารังเกียจคือผู้หญิงที่ชอบทำหน้าตาเป็นพวกขี้อายใส่ซื่อไร้ความผิดและมีดวงตาที่ใสสะอาดคนนั้น!
ความจริงแล้วในสมองมีแผนการชั่วร้ายในท้องก็มีแต่น้ำเน่าเสียสกปรก !’
เขาเป่หมิงโม่คนนี้แท้จริงแล้วนับเป็นตัวอะไร
เมื่อห้าปีก่อนเธอยอมที่จะเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองทอดนอนลงใต้ร่างของคนแปลกหน้าเพื่อเอาเงินห้าล้านมาทดแทนการให้กำเนิดลูกของเขา !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ