เดิมพันรักยัยตัวแสบ นิยาย บท 265

ตอนที่ 265 ท่านโม่เป็นบ้าไปแล้ว

ในหัวใจเธอมีแสงสว่างล้ำค่าของพระจันทร์ที่ไกลเกินเอื้อมอย่างเป่หมิงยี่เฟิงแล้วยังจะมีท่านบรรพบุรุษคนที่สองอย่างหยินปู้ฝันอีก ! และเห็นชัด ๆ เลยว่าหยินปู้ฝันก็รู้เรื่องแผนการชั่วร้ายของเธอด้วย !

ระยำ !

แล้วทำไมเขายังต้องคิดว่าตนเองมีน้ำหนักในใจของเธออยู่อีก !

เขารีบลงมาจากรถทันทีแล้วปิดประตูรถอย่างแรงจนเกิดเสียงปั้ง เดินกลับเข้าไปในบ้านพักด้วยสีหน้าเย็นชา...

ภายในห้องไม่มีพรม บนพื้นถูกปูเอาไว้ด้วยไม้

ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เฉิงเฉิงคุกเข่าเล็ก ๆ ทั้งสองข้างนั้นลงบนพื้นใกล้กับหน้าประตูห้อง แต่เด็กชายเริ่มรู้สึกเจ็บชาที่หัวเข่า

ดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายแสงคริสทัลจับจ้องไปที่ประตู รอคอยให้เงาของคนหนึ่งปรากฏขึ้น...

หรือจะพูดได้อีกว่ากำลังรอให้เงาของคนสองคนปรากฏขึ้น

และด้านข้างของเฉิงเฉิงก็มีหยางหยางนอนกางแขนขาหลับอุตุอยู่บนพื้น คล้ายกับว่าสำหรับหยางหยางแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดทั้งคืนเหล่านี้ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ถึงแม้ท้องฟ้าจะถล่มลงมาเขาก็คงใช้มันแทนผ้าห่ม

ฉิงฮัวเองก็คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ เฉิงเฉิง เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้วเช่นกัน เขาพยายามพูดโน้มน้าวนายน้อยอยู่หลายครั้ง แต่เจ้าตัวก็ยังคงทำเป็นไม่ได้ยิน เขาจึงทำได้เพียงแค่คุกเข่าเป็นเพื่อนเท่านั้น

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้าประตู

เฉิงเฉิงตื่นตระหนก เด็กชายรีบถ่างเปลือกตาที่เหนื่อยล้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนที่เห็นเงาร่างสูงใหญ่ของคนเป็นพ่อเดินเข้ามา ดวงตาของเด็กน้อยก็เต็มไปด้วยความสุข แต่เมื่อไม่พบร่องรอยของคนเป็นแม่ สายตาที่เฝ้ารออย่างคาดหวังก็หม่นมืดลง...

“เจ้านาย ! ” ฉิงฮัวส่งเสียงเรียกอย่างเคารพนบนอบ

เป่หมิงโม่เพิ่งก้าวเท้าเข้ามาในห้องและเขาก็ได้เหตุการณ์นี้

เขามองเฉิงเฉิงที่กำลังคุกเข่าอยู่ด้วยหางตาแล้วขมวดคิด ก่อนจะถามออกมาว่า “ลูกกำลังทำอะไร กำลังยอมรับผิดอยู่อย่างนั้นเหรอ”

ร่างกายเล็ก ๆ ของเฉิงเฉิงสั่นเทา เงยหน้ามองคนเป็นพ่อที่อยู่สูงกว่าก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ อย่างเงียบ ๆ

เดิมทีภายในหัวใจของเป่หมิงโม่ก็เต็มไปด้วยไฟโทสะ ตอนที่ได้เห็นดวงตากลมใสที่เหมือนกับกู้ฮอนคู่นั้นของลูกชาย เขาก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากขึ้นไปอีก ! เมื่อก่อนเขาก็เคยคิดว่าดวงตาของเธอเหมือนกับลูกชายของเขา แต่ทำไมไม่เคยคิดว่าเธอเป็นแม่ของลูกเขากันนะ !

ที่เธอพูดมาก็ถูก เขาไม่เคยคิดที่จะสนใจเลยว่าแม่ที่ให้กำเนิดเฉิงเฉิงขึ้นมาเป็นใคร !

“ยอมรับเรื่องอะไร ลูกยังรู้อีกเหรอว่าตัวเองผิด” เขาตำหนิเฉิงเฉิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา คนพวกนี้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง แต่กลับหลอกเขาเอาไว้ในความมืด หลอกลวงเขามันสนุกมากนักใช่ไหม !

เฉิงเฉิงกะพริบตา คิ้วเล็ก ๆ ขมวดเข้าหากัน แล้วพูดออกมาว่า “พ่อครับ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรปิดบังพ่อเรื่องที่ตัวเองได้รับรางวัล ผมไม่ควรเชิญแม่มาร่วมพิธี ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดของผม พ่ออย่าได้โทษแม่เลยนะครับ ได้ไหม... ”

สูด ! เป่หมิงโม่สูดลมหายใจเข้าอย่างแรง

ฉิงฮัวอดมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลท่วมแทนนายน้อยของตนเองไม่ได้ เรื่องที่นายน้อยเฉิงเฉิงเพิ่งจะพูดออกมานี้ไม่ต่างอะไรกับการราดน้ำมันลงบนกองเพลิง !

เป่หมิงโม่หรี่ดวงตาดำมืดคู่นั้นลงแล้วก้มลงมองลูกชายของตนที่กำลังคุกเขาอยู่ จากนั้นก็กัดฟันพูดออกมาว่า “ดีมาก ! ดูเหมือนว่าลูกจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าแม่ของลูกเป็นใคร ! ”

เขาพูดพลางชำเลืองมองไปยังด้านข้างของเฉิงเฉิงที่มีเจ้าลูกเต่าหยางหยางนอนฉีกแข้งฉีกขาอยู่ !

ม่านดวงตาหดเล็กลง เขาตำหนิเฉิงเฉิงต่อว่า “ลูกรู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมว่ายังมีเจ้าเด็กโง่นี่อยู่อีกคน ! ”

เด็กชายหลุบตาลง เขาไม่กล้าที่จะมองความเย็นชาเกรี้ยวกราดของผู้เป็นพ่อโดยตรง แต่ยังพยักหน้าอย่างเยือกเย็น “ใช่ครับพ่อ...”

“สมควรตาย ! ลูกรู้แล้วก็ยังรวมหัวกับพวกเขาพากันมาหลอกพ่ออีกอย่างนั้นเหรอ” เป่หมิงโม่กำหมัดแน่น “ไม่ใช่ว่าพ่อเป็นคนที่เลี้ยงลูกมาตั้งห้าปีอย่างนั้นเหรอ แม่ของลูกปรากฏตัวได้ไม่นาน ลูกก็ส่ายหางเดิมตามเธอไปแล้ว หรือความจริงแล้วในสายตาลูกไม่เคยมีพ่อคนนี้อยู่ ! ”

ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ ยังเคยเกิดความรู้สึกสงสารขึ้นในหัวใจ

พิจารณาดูแล้วการที่เด็กคนนี้มีพ่อแบบเขา ความจริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ลูกเหยียบย่ำลงบนเส้นทางที่เขาเคยผิดพลาด ไม่เคยต้องที่จะให้เด็กคนนี้มีชีวิตวัยเด็กที่เย็นชาเหมือนเขา

แต่ความจริงแล้ว เขาคิดผิดทั้งหมด !

ความจริงแล้วเป่หมิงซิเฉิงไม่เคยต้องการเขา !

ร่างกายเล็ก ๆ ของเฉิงเฉิงสั่นเทา แต่ครั้งนี้เขากล้าที่จะมองสบเข้าไปในดวงตาของผู้เป็นพ่อ ภายในจิตใจมีประสบการณ์มากมายที่ไม่เข้ากับอายุ เขาตอบผู้เป็นพ่อกลับไปว่า “พ่อครับ เป็นพ่อเองที่ส่งผมมาอยู่ต่างประเทศ เป็นพ่อเองที่รู้สึกว่าจะมีลูกคนนี้หรือไม่มีก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ เป็นพ่อเองต่างหากที่ไม่อยากจะเป็นพ่อของผม แต่ทว่ากับแม่มันไม่เหมือนกัน แม่เคยกอดผมเอาไว้ในอ้อมกอด แม่รักผมมาก แม่ให้ความอบอุ่นกับผม แม่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนที่สำคัญที่สุดในโลก เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่แต่ไหนแต่ไรมาพ่อไม่เคยมอบมันให้กับผมเลยสักครั้ง ! ”

“…” นัยน์ตาของเป่หมิงโม่ส่องประกายเหี้ยมโหด เขาถูกคำพูดของเฉิงเฉิงทำให้บื้อใบ้ไปชั่วขณะ

ใช่ เขายอมรับว่าตัวเองเป็นพ่อที่แย่มากจริง ๆ !

เขายอมรับว่าเขาไม่รู้ว่าควรจะบอกรักลูกยังไง !

คนเย็นชาไร้หัวใจแบบเขา แม้แต่ตนเองยังจะถูกความเย็นชานั้นแช่แข็งตัวเองไว้ แล้วจะให้เขาไปสร้างความอบอุ่นให้คนอื่นได้อย่างไร

ด้วยเหตุนี้เขาโกรธจนทำได้เพียงแต่ใช้เท้าสะกิดลงไปบนตัวหยางหยางที่กำลังนอนหลับเหมือนหมูตาย !

แต่เป็นเพราะเด็กคนนี้ตัวเล็กเกินไป เขาจึงได้ความคุมความแรงเอาไว้ ถึงแม้เขาจะโกรธจนเป็นบ้าไปแล้ว แต่เขาก็ไม่อยากที่จะทำร้ายลูกชายของตัวเอง !

หยางหยางที่กำลังหลับฝันหวานรู้สึกว่าเหมือนมีคนเตะเขาอยู่ เขาส่งเสียงออกมาอย่างรำคาญว่า “ไอยา...ไสหัวไปเดี๋ยวนี้...”หลังจากนั้นก็พลิกตัวนอนต่อ

“ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ! ”

เฉิงเฉิงขมวดคิ้วแล้วรีบเข้าไปเขย่าตัวหยางหยาง ตะโกนออกมาเบา ๆ ว่า “หยางหยางตื่น ! ”

ใครจะไปรู้ว่าหยางหยางจะสะบัดมือไล่เฉิงเฉิงเหมือนสะบัดมือไล่แมลงวัน “ไอยา อย่าวุ่นวายนัก...คนเขาจะนอน... ”

เฉิงเฉิงจึงทำได้เพียงออกแรงเขย่าแล้วเขย่าอีก “หยางหยางรีบตื่นเร็วเข้า พ่อกลับมาแล้ว”

“อื้ออื้อ...กลับมาแล้วก็กลับมาแล้วสิ...” เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวเล็กยังไม่กลับมาจากแดนเซียน ต่อให้เง็กเซียนกลับมาแล้วก็ล้วนต้องปล่อยให้เขาทำตัวเหลวไหลนอนกรนคร่อก ๆ ต่อไป !

ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่อย่างเป่หมิงโม่จะไม่สนใจลูกชายของเขาได้อย่างไร

ทันใดนั้นเขาก็น้อมเอวลงไป ยื่นแขนที่แข็งเหมือนเหล็กกล้าไปทางหยางหยางจากนั้นก็อุ้มเด็กชายให้ลอยขึ้นมา คนเป็นพ่อถอดกางเกงของลูกชายออกโดยไม่พูดไม่จา หลังจากนั้นก็พลิกหยางหยางคว่ำลง แล้วง้างฝ่ามือออก

เสียง เผียะ เผียะ เผียะ ดังขึ้นบนก้นขาวเนียนนุ่มของหยางหยางอยู่หลายครั้ง...

“แง แง ฮือ” หยางหยางร้องออกมาดังลั่น เด็กชายตกใจจนตื่นขึ้นมาจากฝัน ความเจ็บชาที่ก้นทำให้เขาส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด “อ้าอ้าอ้า เจ้าพ่อสมควรตาย คุณมันสมควรตาย ไม่คิดเลยว่าพ่อจะตีผมอีกแล้ว...”

ตอนที่หยางหยางพูดคำว่า ‘อีกแล้ว’ ออกมาก ทำให้แววตาของเป่หมิงโม่มืดครึ้มขึ้นไปอีก

“ตีลูกอีกแล้วอย่างนั้นเหรอ ดูเหมือนว่าลูกจะไม่ได้สวมรอยเป็นเป่หมิงซิเฉิงแค่ครั้งสองครั้งสินะ ! ตบตาพ่อมันสนุกมากเลยใช่ไหม ! ”

เผียะ

เขายังคงตีลงไปบนก้นหยางหยางอีกครั้งหนึ่ง

“ฮือ แง...” เด็กชายเจ็บจนตะโกนร้องออกมา สุดท้ายเขาก็ระเบิดอารมณ์ออกมา “หลอกพ่อบ้าบออะไรกันเล่า ! เป็นคนสารเลวสมควรตายอย่างพ่อต่างหากที่แยกผมกับเป่หมิงซิเฉิงไม่ออก ! ยังจะโทษใครได้อีกหา จะโทษก็ต้องโทษที่ปู่ที่ให้กำเนิดคนสมองขี้เลื่อยอย่างพ่อออกมาต่างหาก ! ”

“ว่าไงนะ ! ” เป่หมิงโม่เบิกตากว้าง ครั้งนี้นับว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ครั้งใหญ่ของเขาแล้ว “ใครมันสอนคำพูดที่ไร้อบรมสั่งสอนพวกนี้ให้ลูกกันหา ! คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าด่าพ่อตัวเองแบบนี้ ! ลูกกวนโอ๊ยนักใช่ไหม แล้วก็อะไรที่พูดว่าปู่ที่ให้กำเนิดคนสมองขี้เลื่อยอย่างพ่อออกมากันหา แล้วลูกละ ตัวลูกเองก็เหมือนจะเข้าเค้ากับไอพวกคำว่าคนสารเลวกับคำว่าสมองขี้เลื่อยอย่างที่ตัวเองพูดเหมือนกันนั่นแหละ ! ”

หลังจากนั้นก็มีเสียงดังเผียะดังขึ้นอีกครั้ง !

หยางหยางเจ็บจนร้องไห้ฮือออกมาเสียงดัง “ฮือ ฮือ ฮือ หยางหยางไม่ใช่คนสารเลวสักหน่อย พวกคนสารเลวชอบตีคน ไม่ยอมฟังเหตุผล ! หยางจะหาแม่ แม่ครับ... ”

สภาพหยางหยางที่ถูกจับพลิกคว่ำนั้นคล้ายกับไก่ตัวเล็กที่ดิ้นรนต่อสู้อยู่กลางอากาศ ช่างน่าสงสารจริง ๆ ...

เสียงเรียก ‘แม่ครับ’ ของเด็กชายสีหน้าของคนเป็นพ่อเย็นชามากขึ้นไปอีก !

“ต้องการแม่นักใช่ไหม พ่อไม่มีทางยอมอย่างเด็ดขาด ! ”

หลังจากนั้นไม่นานเป่หมิงโม่ก็ฟาดฝ่ามือลงไปอีก

เสียงร้องไห้โหยหวนของหยางหยางดังก้องไปทั่วบ้านพักหรู...

หลังจากที่ในคืนนี้เป่หมิงโม่ได้รู้ว่าความจริงว่ากู้ฮอนเป็นแม่ของลูกชายฝาแฝดของตนเองนั้น เขาก็เริ่มรู้สึกตกตะลึงก่อน จากนั้นก็เริ่มเป็นบ้า ท้ายที่สุดก็เริ่มชัก

ที่ตะลึง ก็เพราะผู้หญิงคนนั้นที่เขาคิดถึงเธออยู่บ่อย ๆ อยู่ ๆ ก็กลายเป็นแม่ของลูกชายเขา เขาตะลึงจนตาค้าง

ที่เป็นบ้า ก็เขาถูกเพราะสามคนแม่ลูกหลอกเสียจนหัวปั่น เขาจึงกลายเป็นบ้า

ที่ชัก ก็เพราะความจริงแล้วลูกของเขาไม่ได้มีแค่เป่หมิงซิเฉิงคนเดียว ! ผู้หญิงคนนั้นไม่เพียงแต่ปิดปังเขา เธอยังกล้าขโมยลูกของเขาไปอีก เขาโกรธจนจะชักตายอยู่แล้ว...

*

สามวันหลังจากนั้น

คดีฟ้องร้องคดีหนึ่งดังไปทั่วเมือง A

เนื้อหาของคดีก็คือ ท่านประธานเป่หมิงโม่ของกลุ่มบริษัทเป่หมิงอันเป็นบริษัทผู้นำธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีได้ทำการฟ้องร้องหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งเพื่อแย่งชิงสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กชายอายุห้าขวบ

ทันทีที่เกิดการฟ้องร้องขึ้น ก็เหมือนมีหินก้อนหนึ่งกระตุ้นให้เกิดคลื่นหลายพันชั้น เกิดความวุ่นวายดั่งพายุฝนกระหน่ำไปทั่วทั้งเมือง

สื่อมวลชนในเมือง A กับหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ แทบจะขุดคุ้ยลงไปถึงสามเมตรเพื่อที่คว้าข้อมูลภูมิหลังของหญิงสาวลึกลับกับเด็กชายอายุห้าขวบคนนั้นขึ้นมา เรื่องนี้ทำให้คนประหลาดใจจนเกินไปแล้ว พวกเขาไม่เคยได้ยินเลยว่าคุณชายรองเป่หมิงของเมือง A จะเคยมีประวัติการแต่งงานมาก่อน แล้วชายหนุ่มไปมีลูกชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

แต่ทว่าเป่หมิงโม่นั้นปกป้องเด็กชายได้อย่างรอบคอบแน่นหนา คล้ายกับว่าแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ไม่ยอมให้หยดลงมา ทำเอาท้ายที่สุดเหล่าปาปารัซซี่ที่พยายามจะแอบถ่ายรูปเด็กชายรูปพากันคว้าน้ำเหลว

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะขุดเอาความลับของคุณชายรองเป่หมิงออกมาไม่ได้ แต่เหล่าท่านเทพนักข่าวก็สามารถขุดหาเรื่องของหญิงสาวลึกลับออกมาได้

เพียงแต่ว่าเรื่องที่ทำให้เหล่าผู้คนคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกก็คือแท้ที่จริงแล้วหญิงสาวลึกลับคนนั้นกลับไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์อย่างSoso !

แต่เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาที่ไม่สามารถธรรมดาได้มากกว่านี้อีกแล้ว ว่ากันว่าเธอเป็นลูกสาวนอกสมรสของบริษัทที่ได้ล้มละลายไปแล้วแห่งหนึ่ง ภูมิหลังทางบ้านเรียกได้ว่าธรรมดามาก ๆ ไม่ว่าจะประวัติความเป็นมา หรือประวัติการศึกษาก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถเทียมเทียบกับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยด้วยเพชรนิลจินดาอีกทั้งยังมีรูปหน้าที่เป็นสัดส่วนทองคำอย่างเป่หมิงโม่ได้เลย !

แต่ก็เป็นผู้หญิงที่ธรรมดาสามัญคนนี้แหละที่กลายเป็นจำเลยของคดีฟ้องร้องและก็ยังเป็นแม่ของเด็กชายอายุห้าขวบคนนั้นด้วย !

*

ณ สนามบินเมือง A

กู้ฮอนขึ้นเครื่องบินจากออสเตรเลียบินกลับมาที่เมือง A พร้อมกับหยินปู้ฝัน

เป็นเวลาสามเดือนแล้ว กว่าที่เธอจะได้กลับมาบ้านเกิดมายังบ้านเกิดที่คุ้นเคยอีกครั้ง

เธอคิดถึงสภาพอารมณ์ของตนเองตอนที่หนีออกไป ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างมาก

ทันทีที่เท้าก้าวเท้าออกจากสนามบิน ปาปารัซซี่จำนวนมากที่ดักรออยู่ก็รีบเข้ามาห้อมล้อมเธอเอาไว้อย่างแน่นหนาจนเหมือนกับว่าไม่มีแม้แต่ทางให้น้ำไหลผ่านไปได้

ในตอนนั้นเองเสียงแชะแชะของกล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวิดีโอ หรือแม้กระทั่งไฟแฟลชก็ดังขึ้นไม่หยุด

กู้ฮอนถูกแสงไฟเหล่านั้นทำให้ลืมตาตาไม่ขึ้นไปชั่วขณะ

หยินปู้ฝันตอบโต้กลับด้วยการดึงเธอเขามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้วใช้มือช่วยบังใบหน้าของเธอเอาไว้

“คุณกู้ใช่ไหมคะ ได้ยินมาว่าคุณเพิ่งจะกลับมาจากออสเตรเลีย ที่กลับมาครั้งนี้ก็เพื่อที่ต่อสู้ในคดีฟ้องร้องของคุณชายรองเป่หมิงใช่ไหมคะ คุณคิดว่า…”

“ขอถามหน่อยได้ไหมว่าคุณกับคุณชายรองเป่หมิงมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่ถึงได้มีโอกาสให้กำเนิดเด็กออกมา ใช่คู่รักกันหรือเปล่า หรือว่าเป็นแค่วันไนท์สแตนด์”

“คุณชายรองเป่หมิงกับSosoมีความรักความผูกพันลงเรือลำเดียวกันมานานกว่าสิบปี ลูกชายของคุณอายุแค่ห้าขวบ ขอถามหน่อยได้ไหมคะว่าปีนั้นเป็นคุณที่เข้าไปแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของคุณชายรองเป่หมิงกับSosoใช่ไหมคะ เป็นมือที่สามใช่ไหมคะ”

“คุณกู้ คุณมีวัตถุประสงค์ที่จะใช้ประโยชน์จากลูกของคุณในการแต่งเข้าไปเป็นคุณนางหญิงใหญ่ของตระกูลเป่หมิงใช่ไหม คุณมีความคิดเห็นอย่างไรที่ต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงสิทธิในการดูแลลูกกับคุณชายรองเป่หมิง ”

“ไม่ทราบว่าผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ ของคุณเป็นใครกันคะ เขาเป็นคนรักของคุณหรือเปล่า”

“คนที่คุณกำลังเผชิญหน้าอยู่คือคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างคุณชายรองเป่หมิง คุณเชื่อมั่นไหมว่าตนเองจะชนะคดีนี้”

...

ในชั่วพริบตา นักข่าวนับร้อยคนก็พากันเล็งเลนส์กล้องสั้นยาวทุกแบบไปยังกู้ฮอน เหล่านักข่าวยังพากันยิงคำถามอย่างต่อเนื่องไม่มีเว้นว่าง

กู้ฮอนถูกถามจนเธอตัวรับไม่ทันทั้งยังพูดอะไรไม่ออกสักคำ สองมือขยับขึ้นไปปกป้องท้องน้อยของตนเองเอาไว้ตามจิตใต้สำนึก เธออิงเข้าเข้าไปข้างในอ้อมแขนของหยินปู้ฝัน

หยินปู้ฝันใช้มือหนึ่งปกป้องศีรษะของเธอ และใช้อีกหนึ่งขวางกั้นเลนส์กล้องอันเย็นเยียบพวกนั้นเอาไว้ ในที่สุดเขาก็ตะโกนออกมาอย่างอดกลั้นไว้ไม่ไหว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ