เดิมพันรักยัยตัวแสบ นิยาย บท 266

ตอนที่266 การพบกันครั้งแรกของปู่กับหลาน

“การฟ้องร้องครั้งนี้สำนักงานกฎหมายหยินซือจะเป็นผู้มีสิทธิ์ในการดำเนินการทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง และผมก็เป็นทนายของคุณกู้ ส่วนรายละเอียดของคดีความนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอความกรุณาพวกคุณหยุดคุกคามลูกความของผมด้วยนะครับ”

หยินปู้ฝันพูดจบ พลางกันกู้ฮอนออกจากกองทัพสื่อมวลชนที่ขวางตรงหน้า ฝ่าวงล้อมออกไปอย่างสง่าผ่าเผย...

ตามหลังมาด้วย นักข่าวที่วิ่งตามมาสัมภาษณ์อย่างบ้าคลั่ง ———

“นั่น ใช่สำนักกฎหมายหยินซือที่ดังที่สุดในเมืองAหรือเปล่าครับ?”

“ถ้าคดีความของคุณกู้ ได้รับความช่วยเหลือจากผู้พิภากษาหยินเฉินเหยา ผู้พิภากษาหยินผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในแวดวงกฎหมาย ก็หมายความว่าทางนี้จะเป็นคู่ปรับกับทีมทนายความของคุณชายรองตระกูลเป่หมิงอย่างงั้นเหรอคะ.....”

……………..

กู้ฮอนใบหน้าซีดเซียว คำพูดของหยินปู้ฝันเมื่อครู่ยังคงทำให้เธอช็อก

ยังไม่ทันจะมีปฏิกิริยาอะไรตอบสนอง กลับถูกเขาดันขึ้นรถอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบหลีกพวกนักข่าวกอสซิปที่ไล่ติงประหนึ่งฝูงผึ้ง รถรีบขับออกไปทันที....

จนกระทั่งมองไม่เห็นแม้แต่เงาของกลุ่มนักข่าวกอสซิปแล้ว กู้ฮอนถึงค่อยโล่งอก

หันไปมองผู้ชายด้านข้าง เบิกตากว้างมองแบบคาดไม่ถึง “หยินปู้ฝัน เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ? สำนักกฎหมายหยินซือ? เป็นทนายของฉันงั้นเหรอ?”

หยินปู้ฝันจ้องมองกู้ฮอน ครุ่นคิดสักครู่ แล้วค่อยๆถอนหายใจ “ฉันคิดว่านี่คงเป็นโอกาสแนะนำตัวกับเธออย่างเป็นทางการสักที สวัสดีครับคุณกู้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมคือทนายหยินปู้ฝัน เป็นทนายพิเศษของสำนักกฎหมายหยินซือ และคุณพ่อของผมคือผู้พิพากษาชื่อดังหยินเฉินเหยาแห่งเมืองA

กู้ฮอนตะลึงงัน เธอเคยคิดว่าหยินปู้ฝันน่าจะเป็นเศรษฐีรุ่นสอง แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาจากครอบครัวกฎหมาย ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ดูกะล่อน พูดจาก็ไม่เป็นหลักไม่เป็นการอย่างหยินปู้ฝัน จะเป็นถึงทนายได้!!”

“หยินปู้ฝัน นายแกล้งฉันใช่ไหม” เธอตะลึงไปค่อนวัน เพิ่งจะตั้งสติได้

หยินปู้ฝันสีหน้ายียวนขึ้นมาทันที พลางเกาหัว “ใครจะกล้าล่ะ ฉันก็แค่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสเป็นทนายให้เธอนะสิ ฉันก็เลยรู้สึกว่าอาชีพของฉันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเธอ เธอก็รู้ว่าคดีฟ้องร้องมันเป็นงานที่หนักและสิ้นเปลืองมากๆ อีกอย่างฉันก็ไม่อยากให้เธอมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับคดีความทั้งนั้นแหละ แต่ก็ไม่คิดว่า....”

หยินปู้ฝันยักไหล่ สายตาสื่อออกมาในความหมายว่า ‘เธอก็รู้’

กู้ฮอนครุ่นคิด นึกถึงสามวันที่ผ่านมา บังเอิญเจอเป่หมิงโม่แผนแตกกะทันหัน เสียหยางหยางไปอย่างกะทันหัน แล้วยังถูกเป่หมิงโม่ฟ้องร้องแย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงดูกับเธอโดยไม่รู้ตัวอย่างกะทันหัน

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยไม่ทันได้ตั้งตัวเลย

“ปู้ฝัน นายว่า... ฉันจะชนะเขาได้ไหม” กู้ฮอนนึกถึงคืนนั้น แววตาเย็นเยียบของเขาแฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยว กัดฟันกรอดบอกกับเธอว่า ลูกชาย จะต้องเป็นของฉัน!

สงสัย เขาคงจะเอาจริง

“สิ่งที่เป่หมิงโม่อยากได้ เขาไม่เคยที่จะไม่ได้สินะ” หยินปู้ฝันยิ้มบางๆ “เพียงแต่ว่าเขามาเจอกับฉัน หยินปู้ฝันไง สบายใจเถอะฮอนฮอน ฉันจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อช่วยเธอพาหยางหยางกลับมา”

กู้ฮอนฝืนยิ้ม เห็นยิ้มด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมของหยินปู้ฝันแล้ว ก็ทำใจขัดไม่ลง “ปู้ฝัน นายอยากรู้ไหมว่าตอนนั้นฉันกับเขามีหยางหยางกับเฉิงเฉิงได้ยังไงกัน”

หยินปู้ฝันหุบยิ้ม สีหน้าจริงจังมองไปที่เธอ พลางพยักหน้า

กู้ฮอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือลูบไปยังท้องน้อยตามอารมณ์ มองออกไปยังภาพที่คุ้นเคยนอกหน้าต่างรถ ค่อยๆเล่าเรื่องระหว่างเธอกับเป่หมิงโม่ในตอนนั้น.....

“มันคือเรื่องราวที่แสนจะธรรมดาและปกติ ไม่สิ บางทีระหว่างฉันกับเขา มันสั้นจนยังไม่ทันจะเกิดเรื่องราวอะไร พวกเราเกี่ยวพันกันเพราะเงิน เป็นเรื่องสัญญาการซื้อการขายระหว่างฉันกับเขา...”

*

ค่ำคืนที่ดวงดาวระยิบระยับเต็มฟ้า

คืนนี้คฤหาสน์เป่หมิง มีเพียงแสงไฟสลัวๆจากโคมระย้า แลดูเงียบผิดปกติ

เพราะว่าคืนนี้ เป็นคืนสำคัญที่เป่หมิงโม่จะพาลูกชายทั้งสองกลับมาบ้านเป่หมิง

คนแก่สองคนในบ้านเป่หมิงมานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกก่อนตั้งนานด้วยความตื่นเต้น...

เรื่องการฟ้องร้องแย่งสิทธิ์เลี้ยงดูนี้ดังไปทั่วเมือง ไม่เพียงแต่ทำให้คนในเมืองAรู้ว่าเป่หมิงโม่มีลูกชายแล้วหนึ่งคน ยังทำให้คนตระกูลเป่หมิงต้องช็อก เพราะเป่หมิงโม่ไม่ได้มีลูกชายเพียงคนเดียว ยังมีอีกหนึ่งคน....

ปรี๊นๆ ๆ ๆ..

เสียงของแตรรถดังครู่หนึ่ง รถยนต์คันสีดำก็ขับเข้ามาจอดยังด้านหน้าของคฤหาสน์เป่หมิง

เจียงฮุ่ยซินรีบประคองคุณท่านเป่หมิงเดินไปหน้าประตูบ้าน

เมื่อรถจอดสนิท คนใช้ก็รีบเข้าไปเปิดประตูรถให้ ———

ขาสั้นๆเล็กๆก้าวลงจากรถอย่างสง่างาม

“เฉิงเฉิง” เจียงฮุ่ยซินมองแวบเดียวก็จำเด็กน้อยได้

จากนั้นเธอและท่านปู่เป่หมิงก็มองซ้ายแลขวา ชะเง้อดูเด็กที่ถูกเล่าขานอีกคน แต่มองหาตั้งนาน รถก็ดูไม่มีทีท่าเคลื่อนไหว

เฉิงเฉิงยืนอยู่ข้างประตูรถ มองดูเข้าไปด้านในรถ ปิดปากเงียบ แต่ดูเหมือนกำลังรออะไรอยู่

ต่อมา มีรถสปอร์ตหรูอีกคันขับเข้ามาจอดต่อด้วยความเร็วสูง

รถสปอร์ตจอดเสร็จ เป่หมิงโม่ออกมาจากรถ สีหน้าเคร่งขรึม ตรงดิ่งไปยังรถยนต์คันดำ แล้วเขาก็ยื่นแขนยาวๆเข้าไปฉุดยื้ออะไรในรถอยู่สักพัก

“ไอ้แก่ ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันนะ ฉันไม่อยากมาที่นี่ ฉันไม่เอา....”

เสียงแหลมของเด็กร้องตะโกนโวยวาย จากนั้นเป่หมิงโม่ก็ดึงเด็กอีกคนออกมาจากรถยนต์ได้

ท่านปู่เป่หมิงและเจียงฮุ่ยซินเห็นอีกใบหน้าที่เหมือนกันกับเฉิงเฉิงแล้วตะลึงเป็นอย่างมาก

หยางหยางถูกเป่หมิงโม่ยกลอยเหนืออากาศ เด็กน้อยดิ้นตะพึดตะพือ เตะไปมาอยู่ในอากาศ แม้กระทั่งจะเอาท่ามวยที่เคยเรียนกับคุณปู่อ้วนที่ออสเตรเลียมาใช้ หวังจะให้โดนจุดสำคัญของเป่หมิงโม่ แต่เซ็งที่แขนสั้นขาสั้น ทำยังไงก็ไม่สะทกสะท้านไอ้แก่นั่นเลย วีรบุรุษหมดแรง...

“แกหลีกไปนะไอ้แก่ ฉันจะกลับไปหาแม่ แม่จ๋า....”

หยางหยางเสียงเศร้าสะท้าน ไม่ได้สนใจว่าคนใช้รอบๆตกใจกันขนาดไหน

ท่านปู่เป่หมิงรีบยันไม้เท้าเดินไปหาเป่หมิงโม่ มองดูหยางหยางอย่างละเอียดอีกรอบ แล้วมองเฉิงเฉิงที่ยืนเงียบๆอยู่ข้างๆเป่หมิงโม่อีกรอบ——

“นี่.. จะ.. เจ้ารอง.. ขะ.. เขา.. เขาก็คือหลานอีกคนของฉันเหรอ?” ท่านปู่ชี้ไปที่หยางหยางด้วยความตื่นเต้น น้ำตาแห่งความตื้นตันเกือบจะไหลออกมา เขายิ้มอย่างเป็นมิตร “เด็กดี เด็กดี ฉันคือคุณปู่นะ....”

หยางหยางมองขวางไปยังคุณปู่ ตอนนี้เขาไม่ต้องแสดงเป็นเฉิงเฉิงแล้ว ตั้งแต่ที่เป่หมิงโม่ตีไปที่ก้นเขาอย่างแรงตอนนั้น และยังไม่ให้เขากลับไปหาแม่อีก หยางหยางสาบานเลยว่าจะทำให้ทุกคนในตระกูลเป่หมิงอยู่ไม่เป็นสุขแน่

ไม่ทันที่เป่หมิงโม่จะออกเสียง หยางหยางก็ออกตัวก่อน “คุณเป็นปู่เหรอ ใครเป็นหลานคุณกันฮะ คุณนะสิเป็นหลาน หลานของเต่าไง”

คำที่หยางหยางพูดออกมา ตะลึงไปตามๆกัน

คนใช้ที่ได้ยินก็ตกใจจนเหงื่อตก

ช็อกจนท่านปู่เป่หมิงและเจียงฮุ่ยซินมองตาแทบถลน

เป่หมิงโม่มองด้วยตาเฉียบคมประหนึ่งเหยี่ยว “เป่หมิงซีหยาง แกพูดออกมาอีกคำ ไอ้เฒ่านี่จะเก็บแกเอง”

และแล้ว หยางหยางก็เดินตามติดหลังเฉิงเฉิง ชื่อเป่หมิงซีหยางนี้ ได้ถูกบันทึกเข้าอยู่ในตระกูลเป่หมิงแล้ว

ท่านปู่มองเป่หมิงโม่อย่างคาดไม่ถึง

ใครจะไปคิดว่าคนที่ดูสง่าแต่เย็นชาและยังซึ่งไร้อารมณ์อย่างคุณชายรองตระกูลเป่หมิงคนนั้น จะพูดคำว่า’ไอ้เฒ่านี่จะเก็บแกเอง’ ที่ดูโบราณแบบนี้ออกมา

ดูแล้ว เด็กดื้อคนนี้มีความสามารถไม่น้อย สามารถเปลี่ยนคนที่เรียบร้อยให้กลายเป็นคนขี้แพ้ไปได้

ไม่ใช่สิ น่าจะเปลี่ยนภูเขาน้ำแข็งให้เป็นภูเขาไฟต่างหาก

พอท่านปู่คิดได้แบบนั้น ก็ยิ้มออกมา ที่แท้ลูกชายคนรองของเขาก็มีอารมณ์ มีความรู้สึกเหมือนกัน

ลูบหนวดขาวๆสั้นๆไปมา ท่านปู่ยิ้มพลางพูด “ซีหยางเหรอ ที่แท้เธอชื่อว่าซีหยางนี่เอง ชื่อนี้ดี...”

“ฮึ คุณเรียกใครกันฮะ” หยางหยางกระทืบพื้นหลายที “คุณสิ ‘ถูกเลี้ยง(สัตว์)’ (ชื่อซีหยางในภาษาจีนมีคำพ้องเสียงที่แปลว่าถูกเลี้ยง(สัตว์)) พวกคุณถูกเลี้ยง(สัตว์)กันทั้งบ้าน”

ข ข เขอะๆ...

ในหมู่คนใช้ไม่รู้ใครหลุดขำออกมา

ท่านปู่เป่หมิงที่เคร่งขรึมจริงจังมาโดยตลอด ก็มีดูเหมือนคนกำลังสำลักอาหาร อึ้งจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว

เป่หมิงโม่ไม่พูดพร่ำ จับหยางหยางโยนเข้าห้องรับแขกบ้านเป่หมิงทันที

ใช้แรงทั้งหมดโยนเด็กหัวรั้นลงไปบนโซฟา

หยางหยางเหมือนกับหนอนดักแด้ ม้วนไปดิ้นมา นิ่งไม่ได้เสียที

เฉิงเฉิงตามมา และนั่งลงข้างๆ ท่าทางเรียบร้อยเชื่อฟัง

ท่านปู่เป่หมิงและเจียงฮุ่ยซินมองดูหลานทั้งสอง ยิ่งมองก็ยิ่งพอใจ

คนใช้ทำเหมือนปกติ เปิดทีวีติดผนังขนาดใหญ่——

ขณะนั้นเอง ข่าวที่นำเสนอก็เรียกความสนใจจากคนตระกูลเป่หมิง——

ในภาพนั้น มีฝูงสื่อมวลชนห้อมล้อมชายหญิงคู่หนึ่ง ผู้ชายโอบผู้หญิงไว้พลางยกมือกั้นบัง

เสียงที่นักข่าวสัมภาษณ์ก็ออกมาทางทีวีด้วย——

………..

“คุณกู้ครับ คุณใช้ลูกชายเป็นเครื่องมือเพื่อเข้าไปเป็นคุณนายตระกูลเป่หมิงใช่ไหมครับ? คุณมองการฟ้องร้องขอสิทธิ์เลี้ยงดูลูกของคุณและคุณชายรองตระกูลเป่หมิง ว่าอย่างไรบ้างครับ?”

“ผู้ชายที่อยู่ข้างคุณเป็นใครกันคะ ใช่คนรักของคุณหรือเปล่า?”

“คุณต้องสู้กับคุณชายรองตระกูลเป่หมิงซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามที่มีอิทธิพลขนาดนี้ การฟ้องร้องครั้งนี้คุณมั่นใจว่าจะชนะไหมครับ?”

…………

เป่หมิงโม่มองดูหญิงสาวในทีวีที่หลบอยู่ด้านหลังหยินปู้ฝัน กำหมัดแน่น แววตาลุ่มลึกนั้นหมองหม่นลงทันที

เฉิงเฉิงจ้องมองดูภาพในทีวีอย่างแน่แน่ว เห็นแม่กลับมาจากออสเตรเลียแล้ว เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างสุขใจ

“นั่นแม่..... พ่อปู้ฝัน.... “หยางหยางชี้ไปที่ทีวีพลางพูดอย่างดีใจ ตาเป็นประกายออกมา

คำว่า’พ่อปู้ฝัน’เพียงคำเดียว ทำให้เป่หมิงโม่หน้าดำขึ้นมาในทันที

“เป่หมิงซีหยาง นอกจากฉัน ห้ามเรียกคนอื่นว่าพ่อเด็ดขาด”

หยางหยางมองขวางเป่หมิงโม่ “ฮึ พ่อปู้ฝันดีกับแม่มากๆๆๆๆ หยางหยางจะเรียกพ่อปู้ฝัน พ่อปู้ฝัน.....”

“แกอยากจะโดนอีกใช่มั้ย...”

“พอเถอะ เจ้ารอง อย่าไปถือสาเด็กเลย” ท่านปู่เป่หมิงพูดขัดพลางเรียกคนให้ปิดทีวี สถานการณ์ดูจริงจังขึ้นมา

สงสัยว่าคืนนี้ตระกูลเป่หมิง คงต้องเปิดประชุมตระกูลครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของตระกูลซะแล้ว

ท่านปู่กระแอมๆ: “เจ้ารอง แกมองการฟ้องร้องครั้งนี้ว่าอย่างไร? กู้ฮอนถึงกับจ้างทนาย ก็หมายความว่าหล่อนไม่ต้องการที่จะคืนหยางหยางให้ตระกูลเป่หมิงของพวกเรา อีกอย่างหนึ่ง หยินเฉินเหยาฉันก็เคยได้ยิน ชื่อเสียงเรียงนามของผู้พิพากษาคนนี้ ในแวดวงกฎหมายเขาเป็นที่นับหน้าถือตามาก”

เจียงฮุ่ยซินพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นสิ หยางหยางยังไงก็คือคนของตระกูลเป่หมิง โม่ จริงๆเธอไม่จำเป็นต้องผ่านกฎหมายก็ได้สิทธิ์เลี้ยงดูอยู่แล้ว ตอนนั้นกู้ฮอนผู้หญิงคนนั้นเซ็นสัญญากับพวกเรา

ก็ได้ระบุไว้ว่าชาตินี้จะไม่แย่งลูกไปจากเธอ ฉันว่าศาลก็ไม่ต้องไปขึ้น ยังไงหล่อนก็ไม่ชนะพวกเราหรอก”

เจียงฮุ่ยซินคิดไม่ถึงว่ากู้ฮอนจะแอบซ่อนความลับที่ใหญ่โตแบบนี้เอาไว้ หล่อนทำแบบนี้ก็เท่ากับหล่อนได้ผิดสัญญาที่เซ็นตอนนั้น ผู้หญิงคนนี้แผนการแยบยลจริงๆหลอกคนได้ตั้งเยอะตั้งแยะขนาดนี้

ใบหน้าที่เรียบเฉยของเป่หมิงโม่ ยังแอบรู้สึกตึงๆ

ที่จริงแล้ว สามวันที่ผ่านมา เขาพาลูกชายสองคนจากออสเตรเลียกลับมายังเมืองA กู้ฮอนผู้หญิงคนนั้นไม่เคยโผล่มาเลยแม้แต่ครั้งเดียว!

เขายอมรับว่าตอนที่เขารู้ว่าเธอปิดบังว่าเธอเป็นแม่ของลูก และยังปิดบังเขาแอบพาหยางหยางหนีไป มันทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกทำให้เขารู้สึกถึงความพ่ายแพ้

มันกระตุ้นความโกรธลึกๆภายในร่างกายเขาทุกรูขุมขน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ