ตอนที่269 แสร้งทำเป็นครอบครัวที่รักกัน
นั่งตัวยืดตรง เริ่มจะแกะของกินที่กองเป็นภูเขาอยู่ตรงหน้า แต่....
“นมแท้นำเข้าจากนิวซีแลนด์?”
“แอปเปิลแดงนำเข้าจากอเมริกา?”
“กาแฟนำเข้าจากอังกฤษ?”
“คุกกี้นำเข้าจากอิตาลี?”
“ช็อกโกแลตนำเข้าจากฝรั่งเศส?”
“ข้าวพองนำเข้าจากเยอรมัน?”
“สตรอเบอรี่คัดพิเศษ?”
…………
นับจนสุดท้าย หยางหยางทนไม่ไหวถอนหายใจออกมา “หยางหยางไม่อยากกินของแช่แข็งนำเข้าพวกนี้ หยางหยางอยากกินปีกไก่ย่าง!”
หน้าของเป่หมิงโม่กระตุกเล็กน้อย “ห้ามกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพพวกนั้น”
“มีใครเขาตั้งแคมป์แบบนี้กัน....นอนเล่นบนโซฟากินขนมดูทีวียังดีกว่าอีก!” อย่างน้อยๆแต่ก่อนตอนที่หยางหยางอยู่กับแม่ในวันหยุดนั้นก็ทำแบบนี้บ่อยๆ แต่พ่อนิสัยเสียของเขากลับย้ายสิ่งที่สามารถทำในบ้านก็ได้มาทำบนเขาฟะรานเนี่ยนะ
ตอนนั้นเอง———
“ประธานเป่หมิง พวกเราเริ่มถ่ายกันได้หรือยังคะ” ทีมช่างภาพวิ่งมาจากอีกฝั่งของที่ตั้งแคมป์ ถามเป่หมิงโม่อย่างเคารพ
เป่หมิงโม่มองกวาดตาเห็นสีหน้ากังวลของหยางหยาง และสีหน้าเรียบเฉยของเฉิงเฉิง กับฉิงฮัวที่ยืนนบนอบอยู่ข้างๆเขา
“เริ่มเลย———“
คุณชายรองตระกูลเป่หมิงเกร็งๆหน้า
“OK เริ่มถ่าย”
และแล้ว ภาพการตั้งแคมป์ที่ไม่ค่อยจะปกตินี้ก็ได้เริ่มถูกบันทึก.....
ภูเขาฟรานก็ยังคงเป็นภูเขาฟราน ท้องฟ้าก็ยังคงเป็นท้องฟ้าสีครามๆนั้น ก้อนเมฆก็ยังคงเป็นก้อนเมฆของเมืองA
แต่.. คุณเคยเห็นใครใส่ชุดสูทแพงๆมานั่งโพสท่าเท่ๆแบบนี้บนเขาไหม นี่คือการมาตั้งแคมป์จริงๆเหรอ?
คุณเคยเห็นกลางเขาปูเสื่อผืนใหญ่ ที่ตรงกลางกองเต็มไปด้วยอาหารแช่แข็งที่นำเข้าจากต่างประเทศไหม นี่คือการมาตั้งแคมป์จริงๆเหรอ?
คุณเคยเห็นพ่อนั่งเหมือนผลงานศิลปะล้ำค่าชิ้นใหญ่ แล้วลูกชายคนโตนั่งเหมือนผลงานปั้นเล็กๆ ส่วนลูกชายคนเล็กก็นอนดุ๊กดิ๊กไปมาเหมือนตัวหนอน แล้วพ่อลูกสามคนก็เบื่อเอนตัวลงนอนบนเสื่อใหญ่ ไม่พูดกันสักคำ นี่คือการมาตั้งแคมป์จริงๆเหรอ?
“เอ่อ ประธานเป่หมิงคะ คุณและลูกชายของคุณ พอจะทำอะไรโต้ตอบกันบ้างได้ไหมคะ” หนึ่งในกลุ่มช่างภาพทนไม่ไหว พวกเขาเกือบจะรู้สึกเหมือนมาถ่ายภาพนิ่งกันอยู่แล้ว
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้ว “แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ ต้องโต้ตอบกันยังไงอีก?”
ทนายที่ตามมาด้วยก็เริ่มจะทนไม่ไหว ยิ้มตอบ “ประธานเป่หมิงครับ พวกเราเคยคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะพยายามเผยการแสดงความรักที่คุณมีต่อลูกออกมา ภายในกิจกรรมครอบครัว ต้องแสดงออกถึงความจริงใจต่อเด็กๆ พอภาพพวกนี้ไปถึงศาลก็จะช่วยเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดี แบบนี้ชัยชนะของคุณก็จะมีความน่าจะเป็นสูงขึ้นนะครับ...”
เป่หมิงโม่ฉีกยิ้มอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เขาพยักหน้ารับอย่างไม่ค่อยเต็มใจ “งั้น เริ่มใหม่ก็ได้”
และแล้ว รอบที่สอง———
“เริ่มถ่าย———“
ในกล้อง ใบหน้าที่แข็งทื่อของเป่หมิงโม่ เขาออกแรงยืดแขนไปทางหยางหยาง แต่ท่าทางแข็งทื่อของเขามันเหมือนกับว่าเขากำลังจะยื่นมือมารไปขย้ำหยางหยางซะอย่างงั้น แขนข้างนั้นช้อนร่างเล็กๆของหยางหยางขึ้นมา และพยายามจะใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนพูด —————
“ลูกรัก ลูกอยากกินอันไหน เดี๋ยวพ่อป้อน........”
หวิวว หยางหยางช็อก รู้สึกถึงความเย็นแผ่สะท้านไปทั้งตัว
ที่สำคัญคือ ตอนที่เป่หมิงโม่พูดออกมา คำพูดเหมือนเคลือบความเย็นส่งผ่านมาซะอย่างงั้น
ก็เหมือนกับคำที่แสดงความรักจากพ่อพอออกมาจากปากของเขา มันน่ากลัวอย่างกับป้อนหนอนเป็นๆให้ลูกกินเสียมากกว่า
หยางหยางเบะปาก ถึงแม้ว่าพ่อนิสัยเสียของเขาจะดูน่ากลัวก็เถอะ แต่เขาก็ยังพูดอย่างไม่กลัวตาย “ผมอยากกินปีกไก่ย่าง!”
แน่นอน เป่หมิงโม่หน้าดำในทันที
แต่ติดที่อยู่ระหว่างเก็บภาพ เขาพยายามเก็บอารมณ์ที่จะสั่งสอนลูกพลางกัดฟันพยักหน้า “ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวพ่อป้อนลูกนะ”
จากนั้น เขาก็อุ้มหยางหยางนั่งบนตัก แล้วเลือกหยิบไส้กรอกไก่ซีนสุญญากาศห่อหนึ่งออกมาจากกองของอาหารแช่แข็ง
ต่อมาในระหว่างที่สายตาตะลึงค้างของหยางหยางจับจ้องอยู่ คุณชายรองตระกูลเป่หมิงอดทนต่อความมันแกะห่อไส้กรอกออก แล้วหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดไฟ จากนั้นก็นำไส้กรอกลนไฟอ่อนๆย่างซะแบบนั้น......
ไม่นาน อาหารที่ปรุงสุกแล้วอย่างไส้กรอกไก่ เมื่อผ่านความร้อนให้สุกอีกก็สุกมากจนเริ่มจะไหม้
คุณชายรองตระกูลเป่หมิงเอาไส้กรอกไก่ที่เพิ่งผ่านความร้อนจากไฟแช็กยื่นให้หยางหยางต่อหน้า สีหน้านิ่งเรียบ พูดด้วย น้ำเสียงที่เบาและอ่อนโยน ———
“ไม่มีปีกไก่นะลูก กินไส้กรอกไก่แก้ขัดไป.....”
หยางหยางมองไส้กรอกที่มีรอยไหม้บางส่วนตรงหน้า ปากเริ่มสั่นระริก....
ภายใต้สายตาของฉิงฮัวและทีมช่างภาพทั้งหมด—————
“ฮืออ..ฮืออออ…ฮือออ...” เสียงร้องลั่นสุดเสียงทะลุท้องฟ้าบนภูเขาฟราน หยางหยางร้องไห้น้ำตาไหลไม่หยุด....
โอ้แม่เจ้า มันน่ากลัวมากเลย
ครั้งนี้หยางหยางถือว่าได้เห็นความร้ายกาจของพ่อนิสัยเสียอย่างแท้จริงแล้ว
พระแม่มารีอาครับ ตอนที่พ่อนิสัยเสียเริ่มอ่อนโยนมันน่ากลัวมากๆเลยครับ...... “ ฮืออ ฮืออ....”
เฉิงเฉิงแค่เหล่หางตาชำเลืองมองหยางหยางที่กำลังร้องไห้โวยวาย ไม่ได้สนใจอะไรเขากลับจมเข้าไปอยู่ในโลกศิลปะของตัวเองต่อ
ฉิงฮัวแอบไปปาดเหงื่ออยู่ด้านข้าง เจ้านายที่อยู่ในการงานนั้นวิสัยทัศน์ก้าวไกล ฉลาดล้ำลึก วิธีการทำงานก็เฉียบคม แต่กลับใช้ชีวิตซะปัญญาอ่อนเชียว และคุณชายน้อยหยางหยางก็ดื้อยิ่งกว่าคุณชายน้อยเฉิงเฉิงมากๆเลย
มือที่ถือไส้กรอกของเป่หมิงโม่เริ่มสั่น พลางมองดูเด็กดื้อตรงหน้าที่ร้องอย่างเอาเป็นเอาตาย
เขากัดฟันกรอด โยนไส้กรอกไก่ลงถุงขยะ แล้วตะโกนบอกทีมช่างภาพ “หยุดถ่ายเดี๋ยวนี้”
ทีมช่างภาพรีบทำตามคำสั่ง
ต่อมา เป่หมิงโม่หรี่ตามองหยางหยางที่กำลังเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆเท้าด้วยความเย็นชา “เจ้าเด็กดื้อ แกตั้งใจที่จะเป็นศัตรูกับฉันใช่ไหม?!”
หยางหยางสูดหายใจเข้า พลางสะอึก “ฮื้ออ ม่ายด้ายเป็นศัตรูนะ.....ไอ้พ่อนิสัยเสีย...อย่าเปลี่ยนไปอ่อนโยนอีกนะ หยางหยางทนม่ายหวาย จะอ้วก....”
เป่หมิงโม่รู้สึกเหมือนมีอีกาสามตัวบินผ่านหัวไป ก๊า...กา..กา...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ