เดิมพันรักยัยตัวแสบ นิยาย บท 288

ตอนที่ 288 โลกใบนี้ช่างกลมเหลือเกิน

ฉิงฮัวทำได้แค่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย......

ผ่านไปชั่วครู่ เสียงฮึดฮัดของคุณชายรองเป่หมิงก็ลอยออกมาจากภายในห้อง

“สมควรตาย! ฉิงฮัว ไปซื้อกล่องยาสามัญประจำบ้านมา......บิดาเจ็บจะตายแล้ว......”

“ครับ เจ้านาย”

“ยังมีอีก! หลังจากนี้อย่าให้ฉันเห็นช้อนใส่รองเท้าอีก!!!”

“......”⊙0⊙

นับตั้งแต่เป่หมิงโม่ย้ายมาอาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามกู้ฮอนแล้ว ฉิงฮัวราวกับเทพเฝ้าประตูยืนเฝ้าที่ประตูเป่หมิงโม่อยู่ทั้งวัน ตาใหญ่จ้องตาเล็ก ( หมายถึงจ้องมองหน้ากันไปมาอย่างจนปัญญา) ไม่ พูดให้ถูกก็คือ ยืนเฝ้าอยู่ตรงกลางระหว่างประตูบ้านกู้ฮอนและประตูบ้านของเป่หมิงโม่ ตาใหญ่จ้องตาเล็ก

กู้ฮอนรู้สึกว่าฝันร้ายเพิ่งจะเริ่มขึ้น......

เช้าตรู่ ตอนที่ออกจากบ้านไปซื้ออาหารเช้า ฉิงฮัวจะวิ่งเข้ามาด้วยความกระตือรือร้น พร้อมยกน้ำเต้าหู้กับปาท๋องโก๋ร้อนๆมาด้วย

“คุณกู้ ผมไปซื้ออาหารเช้าแทนเจ้านาย เลยซื้อเกินมาอีกชุด เชิญคุณทานครับ......”

ตอนนี้ กู้ฮอนจะถลึงตามองประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทของเป่หมิงโม่ชั่วครู่ “ฉันไม่กินปาท๋องโก๋ โดยเฉพาะ เหล่า โหยว เถียว (หมายถึง เป็นคำแสลงในภาษาจีน หมายถึง คนที่ไหลลื่นเหมือนปลาไหล/ตีเนียน )”

ฉิงฮัวดึงมือกลับอย่างกระอักกระอ่วน คนโง่ยังฟังเข้าใจว่าคุณกู้กำลังด่าเจ้านายว่าเป็นเหล่าโหยวเถียว อย่างอ้อมๆ......

หลังจากนั้นเป็นต้นมา กู้ฮอนทำได้แค่ซื้อก๋วยเตี๋ยวสำเร็จรูปกลับมาต้มกินที่บ้าน สามารถออกจากบ้านได้น้อยลงไปหนึ่งครั้งก็นับเป็นหนึ่งครั้ง

ตอนกลางวัน เธออยู่ในบ้านทำอาหารกินเอง ฉิงฮัวมาเคาะประตูอีกครั้ง

“คุณกู้ เจ้านายไม่กลับมาทานข้าว ดังนั้นผมอาหารที่ผมสั่งเดลิเวอรี่มานั้นอาจจะไม่มีใครทาน จะสามารถขอให้คุณกู้ช่วยทานได้ไหมครับ”

จากนั้น กู้ฮอนก็ได้เห็นสิ่งที่ฉิงฮัวเรียกว่าอาหารเดลิเวอรี่ นั่นคืออาหารอันโอชะ ( หมายถึง อาหารชั้นเลิศที่เป็นอาหารป่าและอาหารทะเล เป็นอาหารจีนโบราณ) ที่พ่อครัวเป็นผู้ลงมือทำ!

“ช่วยกินนะหรือ” เธอมองบน แม้ว่าอาหารเหล่านี้จะดึงดูดคนมากจริงๆ แต่ว่าผู้ที่มียศถาบรรดาศักดิ์และความร่ำรวยไม่ควรทำตัวเหลวไหลเช่นไร พบเจออาหารเลิศรสก็ไม่ยอมสยบให้เช่นนั้น! “ฉิงฮัว กระเพาะอาหารของปุถุชนคนธรรมดาแบบฉัน กินอาหารทะเลราคาแพง ( ในที่นี้หมายถึงอาหารทะเลคือ เป๋าฮื้อ ปลิงทะเล หูฉลาม และกระเพาะปลา) เหล่านี้อาจจะทำให้ระบบย่อยทำงานได้ไม่ดี! ต้องขอบคุณครอบครัวของคุณทั้งหมดจริงๆ”

ฉิงฮัวทำได้เพียงแค่ยกอาหารเดลิเวอรี่นั้นเก็บกลับไปอย่างเศร้าหมอง

กลางคืน เมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็แอบอยู่ในห้องคุยโทรศัพท์กับเจ้าหนูน้อยเป็นเวลานาน ได้รู้ว่าเจ้าหนูน้อยเห็นรูปเทพเจ้าสุขาเวอร์ชันใหม่ล่าสุดแล้ว ก็ถ่ายอุจจาระได้อย่างรวดเร็ว! ดังนั้นเจ้าหนูน้อยก็เริ่มเรียกรูปภาพนั้นว่าเจ้าอุนจิเหม็นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

กู้ฮอนได้ยินแล้วก็จิตใจเบิกบานอย่างมีความสุข

เป่หมิงโม่สามารถเป็นเทพเจ้าแห่งสุขาของเจ้าหนูน้อยได้ ก็ถือว่าเขาสะสมแต้มบุญมาหลายชาติ คนทั่วไปนั้นเจ้าหนูน้อยนั้นล้วนไม่สนใจหรอก!

อาลัยอาวรณ์ที่จะเอ่ยพูดบ๊ายบายกับเจ้าหนูน้อย เธอปรับแสงไฟเตรียมตัวที่จะเข้าสู่โหมดการสร้างบทประพันธ์ แต่ตอนนี้ ประตูก็มีเสียงถูกเคาะดังขึ้นอีก

เธอไม่เปิดประตู ฝั่งตรงข้ามก็ไม่เลิกรา

ไม่ผิดไปจากที่คิดไว้ เห็นฉิงฮัวยืนอยู่ด้านนอกประตู เค้นรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้ออกมา

“มีเรื่องอะไรล่ะ” เธอโกรธแล้วจริงๆ!

“เอ่อ......คุณกู้ ไม่มีอะไรครับ แค่อยากจะถามว่าคุณต้องการจะทานอาหารมื้อดึกอะไรพวกนี้ไหมครับ” ฉิงฮัวจะร้องไห้แล้ว ชายหนุ่มผู้มีความจริงจังและซื่อสัตย์ นอกจากของกิน ก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรมายืนยันได้ว่าคุณกู้อยู่บ้านและยังอยู่ปลอดภัยไม่ประสบปัญหาใดๆหรือไม่

กู้ฮอนชายตามองกล่องข้าวที่อยู่ในมือของฉิงฮัว “ไม่ ต้อง การ!”

ปัง! ครั้งนี้เธอปิดประตูอย่างไม่มีความเกรงใจใดๆ!

จากนั้น ฉิงฮัวก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา โทรติดต่อเบอร์โทรศัพท์อันคุ้นเคย “สวัสดีครับ เจ้านาย......ใช่ครับ คุณกู้อยู่ในบ้านมาโดยตลอด ทุกอย่างปกติดีครับ นอกจากตอนเช้าตรู่ เวลาอื่นๆก็ไม่ได้ออกไปอีกเลยครับ......อา? วันนี้คุณจะไม่ไปดื่มเหล้าแล้วหรือครับ ครับครับครับ......” เยี่ยมไปเลย ถ้าหากว่าสองปีนี้เจ้านายมีความเคยชินที่ไม่ดีในการดื่มเหล้า ก็ควรจะย้ายมาอยู่บ้านตรงข้ามคุณกู้ตั้งนานแล้ว

ตอนนี้ เสียงแกรกดังขึ้น!

กู้ฮอนเปิดประตูอีกครั้งอย่างกะทันหัน จ้องไปที่ฉิงฮัว ฉิงฮัวที่ถือโทรศัพท์ตัวแข็งทื่อ

เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ยพูดออกมาอีกหนึ่งประโยค “ยังมีอีก ฉิงฮัว รบกวนครั้งหน้าอย่ายิ้มให้กับฉัน!” เธอชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยเพิ่ม “รอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้นั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว!”

ปัง!

ประตูถูกปิดลงอีกครั้งอย่างแน่นหนา

ฉิงฮัวจะร้องไห้ก็ไม่ใช่ หัวเราะก็ไม่ใช่ ใบหน้าของสุภาพบุรุษชายชาตรีในตอนนั้นสับสนอย่างน่าตลกมาก.......

รีบยกโทรศัพท์ขึ้นมา “อา? ไม่ไม่ไม่......เจ้านายอย่าเข้าใจผิดไป ผมจะไปกล้ายิ้มให้คุณกู้ได้อย่างไรกัน......ไม่ใช่นะครับ ฉิงฮัวสาบาน อันนั้นไม่ใช่รอยยิ้ม......เจ้านาย ถ้าอย่างนั้นคุณจะกลับมาเมื่อไรครับ.......”

ท้ายที่สุดแล้วในค่ำคืนนี้ เป่หมิงโม่ได้กลับมาอาศัยที่บ้านหรือไม่นั้น กู้ฮอนไม่รู้ และไม่อยากจะรู้ด้วย

เพียงแต่ว่าฤดูหนาวปีนี้ที่เมือง A มักจะหิมะตกหนักมากเป็นประจำ

ใกล้จะปลายปีแล้ว

ถ้าหากไม่ใช่ว่าถูกฉิงฮัวเทพเฝ้าประตูบีบบังคับจนจะเป็นบ้าในเร็วๆนี้ กู้ฮอนก็คงไม่รับปากลั่วเฉียวออกมาเดินชอปปิงซื้อของ

และถ้าหากว่าบนโลกใบนี้มียาแก้รักษาโรคเสียใจภายหลัง เธอจะไม่พูดอะไรแล้วกรอกเข้าปากกลืนยาแก้รักษาโรคเสียใจภายหลังนั่นลงไปทั้งขวด! เพราะว่าออกมาชอปปิงกับลั่วเฉียวนั้นเป็นฝันร้ายที่น่ากลัวยิ่งกว่าการอาศัยอยู่ในบ้าน!

อาคารซินดู คือสวรรค์แห่งการชอปปิงที่มีชื่อเสียงในเมือง A

ลั่วเฉียวลากกู้ฮอนเข้าออกร้านขายของแบรนด์เนมหรูหราร้านใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วเป็นลั่วเฉียวที่ชอปปิงอย่างบ้าคลั่ง แต่กู้ฮอนมากที่สุดก็แค่ซื้อสินค้าลดราคา รวมไปถึงสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กๆ ก็ถือโอกาสซื้อไปสองสามชิ้น

“ฮอน เธอคิดว่าฉันใส่ชุดนี้แล้วสวยหรือไม่สวย ช่วงนี้ถ่ายละครใส่ชุดจีนโบราณใส่จนฉันเบื่อแล้ว ยังคงเป็นเสื้อผ้าในปัจจุบันมากกว่าที่เหมาะกับฉัน......”

เพราะว่าสถานภาพของลั่วเฉียวคือดารา ในทุกที่ที่เธอไป พนักงานในร้านจะให้บริการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

สำหรับกู้ฮอนนั้น เธอเพียงแค่เคยเผยใบหน้าในงานแจกลายเซ็นขายหนังสือในเทศกาลคริสต์มาส ไม่เหมือนกับดารา จึงเป็นเรื่องปกติมากที่คนส่วนใหญ่จะไม่รู้จักเธอ

ลั่วเฉียวเหมือนกับผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เมื่อพบเจอเสื้อผ้าสวยๆ นัยน์ตาก็จะทอประกายอย่างมีความสุข จากนั้นก็วิ่งไปอยู่ด้านหน้าเสื้อผ้าชุดนั้นพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้อง

“ว้าว! เสื้อผ้าชุดนี้จะสวยเกินไปแล้ว! ฮอน เธอมาลองหน่อยไหม ฉันว่าจะต้องเหมาะสมกับเธออย่างแน่นอน!”

กู้ฮอนกวาดตามองเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างของหุ่นโชว์เสื้อผ้า แน่นอนว่าเมื่อได้สวมใส่แล้วจะต้องดูคล้ายกันกับเทพธิดาแห่งดวงจันทร์อย่างไรอย่างนั้น ไข่มุกสีขาวงาช้างสว่างช่วยขับเน้นให้กระโปรงชุดนี้ดูบริสุทธิ์นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ขนเฟอร์สีขาวที่ประดับอยู่บริเวณแขนเสื้อให้ความรู้สึกว่าสามารถมอบความอบอุ่นให้กับร่างกายได้ สรุปได้ว่าเสื้อผ้าทั้งชุดนี้ดูงดงามและสูงส่งอีกด้วย

เทพธิดาแห่งดวงจันทร์......ภายในสมองของกู้ฮอนปรากฏตัวอักษรไม่กี่ตัวนี้ จึงทำให้คิดถึงแสงจันทร์สีขาว ไปโดยปริยาย

นิ้วมือสั่นเล็กน้อยขณะที่ยื่นออกไปแตะเบาๆที่ชุดเดรสอันงดงาม หลังจากสัมผัสไปถึงป้ายราคาแล้ว

เธอก็ต้องสูดลมหายใจลึก!

รีบหดมือกลับมา เอ่ยกระซิบไปที่ข้างหูลั่วเฉียวเบาๆ “ลั่วเฉียว เสื้อผ้าชุดนี้ราคาแพงเกินไปแล้ว......”

เป็นจำนวนเงินที่เธอไม่สามารถใช้จ่ายได้จริงๆ!

“ไอหยา เธอไม่ต้องพูดไร้สาระกับฉันแล้ว! เธอรีบไปลองเลย ถ้าเงินไม่พอ เดี๋ยวฉันจ่ายให้เอง OK?” ลั่วเฉียวพูดไปพลาง ก็เรียกพนักงานในร้านมาพลาง “รบกวนคุณช่วยพาคุณผู้หญิงคนนี้ไปลองชุดหน่อยค่ะ”

“ได้ค่ะ” พนักงานในร้านหัวเราะอิอิพลางถอดชุดลงมา “เดรสชุดนี้เป็นรุ่นที่มีจำนวนจำกัด สินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งมาถึง คุณผู้หญิงช่างมีแววตาที่แหลมคมจริงๆ ตอนนี้เมือง A มีเพียงแค่ชุดเดียวเท่านั้นนะคะ!”

ลั่วเฉียวเร่งกู้ฮอนให้รีบเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า

รอถึงกู้ฮอนเปลี่ยนชุดเดรสเสร็จ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของลั่วเฉียวแล้ว

“อ่อ เมื่อตะกี้คุณผู้หญิงท่านนั้นออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก ให้คุณรอเธออยู่ที่นี่ค่ะ” พนักงานในร้านช่วยตอบข้อสงสัย จากนั้นก็มองไปยังร่างกู้ฮอนที่สวมใส่เดรสไข่มุกสีขาวงาช้างชุดนั้น อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่นชม “คุณผู้หญิง คุณสวมชุดนี้แล้วสวยมากจริงๆค่ะ!”

กู้ฮอนยืนมองภาพของตัวเองที่ปรากฏในกระจก

แม้กระทั่งเธอก็ไม่กล้าที่จะเชื่อเลยว่า ที่แท้เดรสชุดนี้เมื่อใส่อยู่บนร่างของตัวเองแล้วจะงดงามได้ขนาดนี้......

เธอมองในคราแรกก็รู้สึกว่าชื่นชอบมาก......แต่ว่าราคาแพงเกินไปจริงๆ อีกทั้งเธอไม่ได้ตั้งใจจะให้ลั่วเฉียวจ่ายเงินให้เธอด้วย

ยืนลังเลอยู่หน้ากระจกหลายครั้ง ในตอนที่เธอเตรียมใจที่จะปล่อยมือจากเดรสชุดนี้ไปนั้น

“โอ้โห โม่ คุณดูสิ กระโปรงนี่สวยมากเลยนะ......”

น้ำเสียงเล็กนุ่มนวลเจือความแหบแห้งของหญิงสาวลอยมาจากด้านหลังของกู้ฮอน

กู้ฮอนเห็นรูปร่างสูงหล่อของชายหนุ่มคนหนึ่งจากในกระจก!

เธอตกตะลึง

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดว่า บนโลกใบนี้คนที่มีวาสนาต่อกันมักจะได้พบกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่าห่างกันพันลี้ก็ยังได้พบกัน

แต่กู้ฮอนกลับคิดว่า เธอกับเป่หมิงโม่นั้นเป็นเวรกรรมมากกว่า

คิดไม่ถึงเลยว่ามาชอปปิงที่ห้างสรรพสินค้า สุดท้ายแล้วก็ยังต้องพบกับเจ้าหมอนี่อยู่ดี!

เพียงแต่ว่า สิ่งที่ทำให้เธอตกตะลึงก็คือ เด็กสาวที่พูดนั้น สวมใส่หมวกขนสัตว์น่ารักใบหนึ่งจะนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น......

เป่หมิงโม่เข็นรถเข็นของเด็กสาวคนนั้น ก้าวเดินอย่างสง่างามเข้ามาในร้านค้า

กู้ฮอนจิตใจตึงเครียดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

เห็นได้ชัดว่า เธอเห็นเป่หมิงโม่ส่งสายตามาจากในกระจก เขาก็เห็นเธอแล้ว

จนกระทั่งเป่หมิงโม่เข็นเด็กสาวคนนั้นเข้ามา ยืนอยู่ที่ด้านหลังของกู้ฮอน.....

กู้ฮอนเพิ่งจะมองเห็นได้ชัดเจนว่า ใบหน้าของเด็กสาวในกระจกนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นหลังจากได้รับบาดเจ็บ......

เพียงแค่เห็นก็รู้ได้ว่า ร่องรอยแผลเป็นของเด็กสาวนั้นเกิดขึ้นหลังจากบาดแผลไฟไหม้

แต่ทว่า กลับไม่สามารถปิดบังความงดงามบนองคาพยพทั้งห้าของเด็กสาวคนนี้ได้ ถ้าหากเป็นก่อนหน้าที่เด็กสาวคนนี้จะได้รับบาดเจ็บ จะต้องสวยมากๆอย่างแน่นอนใช่ไหม

“โม่ คุณดูสิ คุณผู้หญิงคนนี้ใส่แล้วสวยมากเลย......” เด็กสาวคนนั้นชี้มาที่กู้ฮอนแล้วยิ้ม

เด็กสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทั้งยังยื่นมือกลับไปจับที่แขนของเป่หมิงโม่ คนโง่ก็ยังเดาออกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา......

ภาพนี้ กู้ฮอนที่มองอยู่ก็รู้สึกขัดตาเป็นอย่างมาก!

เธอมองเข้าไปในกระจก ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเป่หมิงโม่ไม่ได้มองมาที่เธอเลยแม้แต่น้อย!

คนตาบอดก็ยังมองออกว่า ผู้ชายคนนี้แกล้งทำเป็น ไม่ รู้ จัก เธอ!

พนักงานรีบก้าวเข้ามา “อิอิ คุณนายท่านนี้ ชุดเดรสชุดนี้เป็นชุดที่มีจำนวนจำกัด ตอนนี้ทั้งเมือง A มีเพียงแค่ชุดเดียว ดังนั้น......”

พนักงานในร้านพูดไป พลางมองที่กู้ฮอน

กู้ฮอนรู้สึกโกรธ พนักงานอาศัยอะไรเรียกเธอว่าคุณผู้หญิง แต่เรียกเด็กสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นว่าคุณนายกัน

พอเด็กสาวคนนั้นได้ยิน ใบหน้าก็สลดลงในทันที......

พนักงานในร้านรีบเอ่ยเสริม “แต่ว่า คุณผู้หญิงท่านนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจแน่ชัดว่าจะเอาหรือไม่เอาเสื้อผ้าชุดนี้ คุณนายและคุณผู้ชายกรุณารอสักครู่นะคะ......”

“ไม่ต้องแล้ว!” กู้ฮอนหมุนตัวกลับไปในทันที แอบกำมือแน่นอย่างเงียบๆ “เสื้อผ้าชุดนี้ ฉันจะเอา!”

สิ้นเสียงคำพูด

เสื้อผ้าที่แพงเช่นนี้ เธอทำไปก็เพื่อจะเดิมพันสักครั้งหนึ่ง! กู้ฮอนรู้สึกว่ากระเป๋าสตางค์ของตัวเองกำลังหลั่งน้ำตาด้วยความเงียบงัน......

สามีภรรยาที่แสนดีคู่หนึ่ง กู้ฮอนมองแววตาเขินอายของเด็กสาว ไปจนถึงแววตาอ่อนโยนที่ไม่สนสิ่งใดของเป่หมิงโม่ ยิ่งรู้สึกได้ว่าแม้ว่าตัวเองจะต้องกัดฟันก็ต้องซื้อเสื้อผ้าชุดนี้ให้ได้!

พนักงานในร้านรู้สึกมีความสุขอย่างที่สุด ขอเพียงแค่มีคนซื้อเสื้อผ้า พนักงานล้วนไม่สนใจทั้งนั้นว่าคนที่ซื้อไปนั้นคือใคร

“อ่อ......น่าเสียดายจัง......” เด็กสาวดึงมือของเป่หมิงโม่ “โม่ ไม่อย่างนั้นพวกเราไปดูที่ร้านอื่นกันเถอะ”

“คุณชอบกระโปรงชุดนี้มาก?” เป่หมิงโม่เอ่ยถามเรียบๆด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“อืม......” เด็กสาวพยักศีรษะตอบอย่างซื่อสัตย์ แล้วก็ยิ้ม “แต่ช่างน่าเสียดาย......อย่างไรก็ช่างมันเถอะ......”

กลับคาดไม่ถึงว่า เป่หมิงโม่จะเลิกคิ้วแล้วก็หมุนตัวไปเอ่ยกับพนักงานในร้าน

“ผมยินยอมที่จะจ่ายสองเท่าของราคาเดิม เพื่อซื้อเสื้อผ้าชุดนี้!”

พนักงานในร้านที่ได้ยิน ลูกตาก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า รีบยิ้ม “คุณผู้ชาย......นี่.......”

กู้ฮอนโกรธจนเกือบจะกระอักเลือด!

ช่างเป็นคำพูดที่น่าไม่อาย

“ร้านสินค้าแบรนด์เนมใหญ่โต ราคาก็ชัดเจน ใครแย่งได้ก่อนคนนั้นก็ชนะ! โยนเงินใส่คนอื่นหลายเท่า นี่เป็นการค้าที่ไม่มีความยุติธรรม! ถ้าหากว่าทุกคนล้วนทำธุรกิจแบบพวกคุณแล้วล่ะก็ ใครจะกล้ามาซื้อกัน! พนักงานร้าน ถ้าหากคุณขายให้กับเขา ฉันจะคอมเพลนคุณ!” เธอไม่ใช่ตะเกียงไฟที่ไร้น้ำมัน เธอจะไม่ยอมให้เขา แล้วจะทำไม

“นี่......” เมื่อได้ยินคำว่าคอมเพลน พนักงานก็สับสน รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

กู้ฮอนหรี่ตาลง กำมือแน่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ