ถึงแม้ว่าฉันไม่อยากให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นอีกครั้งแต่พี่ลีวาย
คงไม่ยอมฟัง ไม่เพียงแค่ต้องการย่ำยีร่างกาย แต่เขาได้ย่ำยีหัวใจ
ของฉันด้วย
“พะ… พี่ลีวายหยุดนะ” ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างเมื่อกางเกง
ซับในพร้อมกางเกงในตัวจิ๋วหลุดติดมือพี่ลีวายออกไปด้วย
ต่อให้พูดอะไรคนตรงหน้าก็ไม่ยอมฟัง กระโปรงนักศึกษาถูก
ถกขึ้นมากองไว้บนท้องน้อยก่อนที่พี่ลีวายจะลุกขึ้นถอดเสื้อและกางเกงของตัวเองทิ้งลงพื้น
“อย่าทำอีกเลยนะคะ…”
“ปากบอกว่าไม่อยากทำ แต่พอฉันจับนิดจับหน่อยก็ครางออกมาซะเสียงดัง”
“…”
“คิดว่าไม่รู้หรือไง ว่าเธออยากจะมาให้ท่าฉัน”
“ปะ… เปล่านะคะมิลินไม่ได้คิดแบบนั้น”
“บอกแล้วไงว่าต่อหน้าฉันหยุดทำตัวใสซื่อ”
“… มิลินจะกลับแล้ว”
ฉันตั้งใจจะลุกขึ้นแต่ถูกแขนแกร่งผลักให้เอนหลังมาแนบติด
กับโซฟา จากนั้นพี่ลีวายก็นั่งคุกเข่าตรงหน้าระหว่างกลางช่องขาของฉัน
“ยะ... อยากให้กลับไม่ใช่เหรอคะ มะ... มิลินกำลังจะกลับนี่ไง” ฉันพูดแบบไม่มองหน้าเพราะอายจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
“สมองช้ารึไง!!”
“…”
“ตอนนี้ฉันไม่อยากให้เธอกลับแล้วน่ะสิ”
พี่ลีวายจับขาทั้งสองของฉันชันเข่าขึ้น จากนั้นเขาก็ยืดตัวสูง
ใช้มือกำรูดแก่นกายก่อนจะเอามาจ่อตรงปากทางร่องแคบ
“พะ… พี่ลีวาย… อ๊ะ!!!” ฉันกำมือพร้อมกัดริมฝีปากแน่น
เมื่อแก่นกายใหญ่ค่อย ๆ สอดใส่เข้ามา ความเจ็บปวดเริ่มแตกซ่านไป
ทั่วร่างกาย
“ซี๊ด” พี่ลีวายจับใบหน้าของฉันให้เงยขึ้น ก่อนจะพูด “ฉันเกลียดเธอ อ๊า~”
มันเจ็บปวดหัวใจที่สุด ในขณะที่เรากำลังทำเรื่องอย่างว่าแต่เขาเอาแต่พร่ำบอกว่าเกลียดฉัน
ฉันมองใบหน้าคมคายครู่ใหญ่ ถึงแม้จะเจ็บปวดแต่หัวใจมัน
ก็ยังรักเขา
ไม่รู้ว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นมา ฉันเอามือคล้องคอของพี่ลีวายแล้วพูด “มิลินรักพี่ลีวายนะคะ”
เมื่อได้ยินฉันพูดแบบนั้นพี่ลีวายก็หยุดกระแทกเอวสอบ
ไปชั่วขณะแล้วมองหน้าฉันอย่างไร้ความรู้สึก
พูดจบก็กำลังจะโน้มใบหน้าลงมาจูบแต่พี่ลีวายเบือนหน้าหนี การกระทำนี้มันทำให้หยดน้ำใส ๆ ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
“ฉันไม่อยากจูบกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย”
เจ็บจี๊ดลึกเข้ามาที่กลางอก ฉันนี่ชอบทำอะไรให้ตัวเองเจ็บปวดอยู่เรื่อยเลยจริง ๆ
ปัก ปัก ปัก ปัก!! พี่ลีวายเริ่มกระแทกเอวสอบอีกครั้งอย่าง
ป่าเถื่อนบ้าคลั่งราวกับโกรธการกระทำของฉันเมื่อครู่
“อึก~ จะ... เจ็บ” ฉันกำมือแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวดแต่
มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร
“อ๊า~” พี่ลีวายเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมครางเบา ๆ
ตอนนี้ใบหน้าของเขามันช่างน่าหลงใหล แววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการคู่นั้นมันช่างน่ามอง
รู้ตัวอีกทีฉันก็เผลอยกมือขึ้นมาสัมผัสกับใบหน้าคมคาย
อย่างห้ามตัวเองไม่ได้
พรึบ!! มือของฉันถูกปัดออกอย่างแรงด้วยความไม่พอใจ
“คิดจะทำอะไร ซี๊ด~”
“ปะ… เปล่าค่ะ”
ปัก ปัก ปัก ปัก~ พี่ลีวายกระแทกเอวสอบรุนแรงกว่าเดิมทำเอาฉันจุกจนตัวเกร็ง
“ยะ… หยุดได้ไหมคะ… อ๊ะ… มิลินทนไม่ไหวแล้ว”
“เกี่ยวอะไรกับฉัน อ๊า~”
ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น ฉันรีบหัน
“เพราะเกลียดถึงทำเหรอคะ” ฉันเม้มปากแน่นหลังจากถาม
คำนั้นออกไป
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่มีทางรู้สึกอะไรกับเธอ… นอกจาก
ความเกลียดชัง”
เหมือนว่าพูดอะไรไปคำตอบที่ได้รับมันทำให้ฉันเจ็บปวดทั้งนั้น ขืนยังนั่งอยู่คงได้เจ็บใจมากกว่านี้
หลายคนคิดว่าฉันโง่ที่รักพี่ลีวายทั้งที่เขาไม่เลยใยดีอะไร
ในตัวฉันเลย ฉันเองก็อยากจะหยุดแต่จะให้เลิกรักคนที่เรารักมาตลอดหลายสิบปีภายในหนึ่งวันหรือหนึ่งเดือนคงทำไม่ได้
กริ่ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาพอดีเป็นแทนที่โทรมาฉันจึงกดรับสาย
“ว่าไงแทน”
(ว่างไหมครับ ผมอยากชวนไปกินข้าว)
“อื้อได้สิ นัดเจอกันที่ไหนดี”
(แปลกจัง ทำไมวันนี้ยอมไปด้วยง่าย ๆ)
มันแปลกอย่างที่แทนว่าจริง ๆ เพราะปกติฉันปฏิเสธเขาตลอด แต่วันนี้มีคนทำให้ฉันอยากรีบตอบตกลง
“นัดสถานที่มาเลยพี่กำลังไป”
(ได้ครับ)
ปัก!!! แทนยังไม่ทันจะได้บอกว่านัดเจอกันที่ไหนจู่ ๆ ก็มีเอกสารปึกใหญ่ถูกเหวี่ยงมากระแทกขาฉันอย่างแรงจนทำให้เสียหลักล้ม
ลงมากองที่พื้น
“โอ้ย!” ฉันร้องอุทานก่อนจะรีบตัดสาย แล้วหันมองพี่ลีวาย
ก่อนจะบอก “มิลินกำลังจะไปค่ะ ไม่ต้องไล่กันแบบนี้ก็ได้”
“เธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!!”
“เอ๊ะ! นะ... ไหนบอกให้มิลินไปให้พ้นหน้าไงคะ” ฉันขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ
“ตรวจเอกสารนั่นให้หมดแล้วรายงานฉัน”
“แต่ว่ามิลินนัดกับ…”
“พ่อสั่งให้เธอมาช่วยงานฉันไม่ใช่ไง? รีบทำซะ!!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD