หลังจากทำเรื่องอย่างว่าเสร็จพี่ลีวายก็พาฉันมาทำธุระด้วย
ทั้งที่ขอรออยู่ห้องแต่เขาก็ไม่ยอม ปฏิบัติกับฉันราวกับไม่ใช่คนที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล
รถหรูขับมาจอดหน้าตึกร้างซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือที่ไหน
แต่ก็ไม่ได้แปลกใจที่เห็นมีคนยืนเป็นบอดี้การ์ดอยู่เพียบ ให้เดาคงจะมาเคลียร์เรื่องธุรกิจสีเทาของเขา
ถึงจะรู้เกี่ยวกับการค้าธุรกิจสีเทาของพี่ลีวาย แต่ปกติฉันไม่เคยมาด้วย ถือว่านี่เป็นครั้งแรก เพราะคุณท่านเคยสั่งเอาไว้ว่า ถ้างานไหน
ที่อันตรายไม่ควรเอาฉันมาเกี่ยวด้วย แปลว่าครั้งนี้คงไม่อันตรายอะไร
“บอกเจ้านายของแกว่าฉันมีเรื่องจะคุย” พี่ลีวายบอกคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าตึก ก่อนที่คนนั้นจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกับเจ้านายของเขา
ทั้งที่ควรจะกลัวแต่ฉันกลับรู้สึกตื่นเต้นเพราะมันคือครั้งแรก
ที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้กับตาของตัวเอง ทั้งที่รู้ว่าอันตรายแต่ฉันกลับรู้สึกปลอดภัยเพราะมีพี่ลีวายอยู่ข้าง ๆ
“เชิญครับ” ชายหน้าโหดหุ่นท้วมเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำขึ้นไปบนตึก
จู่ ๆ พี่ลีวายก็เอามือมากุมมือฉันไว้ การกระทำแบบนั้นทำให้ฉันตกใจอย่างมาก จากนั้นหัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงอย่างไร้เหตุผล
“ที่นี่อันตราย” เขาบอกเพียงสั้น ๆ แต่ฉันก็มโนคิดไปเองแล้วว่า
ที่บอกเพราะเป็นห่วง
“ถ้าอันตรายก็อย่าปล่อยมือจากมิลินนะคะ”
พี่ลีวายมองหน้าฉันแล้วพ่นลมหายออกมาแรง ๆ คล้ายหงุดหงิดกับท่าทางของฉันแต่เขาก็ไม่ได้พูดหรือต่อว่าอะไร
พอขึ้นบันไดมาเรื่อย ๆ จากตึกร้างก็เริ่มดูดีขึ้น ชั้นบนถูกตกแต่งให้เหมือนกับโรงแรมทั่วไป ไม่ได้มีสภาพเก่าอะไรเลย แต่แปลกที่ทำไม
ถึงปล่อยให้ชั้นล่างรกร้างขนาดนั้น
ผู้ชายหุ่นท้วมพาฉันกับพี่ลีวายเข้ามาในห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งมีผู้ชายร่างสูงที่สวมใส่เสื้อเชิดแบบไม่ค่อยเรียบร้อยยืนรออยู่
“มาสักทีนะ ไอ้ลีวาย” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นพร้อมยิ้ม ทั้งสองคน
คงรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนแล้ว เพราะทำธุรกิจร่วมกัน
ใบหน้าที่หล่อดูดีของเขามันสะกดสายตาฉันครู่หนึ่ง แต่ถูก
พี่ลีวายบีบมือแรงมาก ๆ ทำให้ได้สติ
ทั้งที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนแต่พอมองตาเขากลับรู้สึกว่าคุ้น
เอามาก ๆ ผู้ชายคนนี้หน้าคล้ายกับคนที่ฉันรู้จักแต่นึกไม่ออกว่าใคร
“คุยธุรกิจทำไมต้องพาผู้หญิงมาด้วย” เขาคนนั้นมองฉัน ก่อน
จะเดินมาหยุดตรงหน้า แล้วพูด “สวย”
เขายกมือขึ้นมาจะจับใบหน้าของฉันแต่ถูกพี่ลีวายปัดออก
อย่างแรง พร้อมบอกเสียงดังลั่น “อย่าแตะต้องตัวเธอ”
“หึ! กูก็คิดว่ามึงพาผู้หญิงมาให้เป็นข้อแลกเปลี่ยนสำหรับธุรกิจของเรา”
คำพูดนั้นทำเอาขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ก่อนจะหันมองพี่ลีวายพร้อมคิดในใจ หรือว่าที่เขาดึงดันจะพาฉันมาด้วยเพราะมีอะไรแอบแฝง
“รีบคุยเรื่องธุรกิจก่อนจะดีกว่า”
“อืม ก็ดี!” เขาพูดก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่จากนั้น
ก็ทำมือบอกให้พี่ลีวายมานั่ง
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าตอนนี้ฉันรู้สึกไม่ดีเอาซะเลยกับสายตาที่ผู้ชายคนนั้นกำลังมองอยู่
คนตรงหน้าเอาแต่พูดยั่วอารมณ์
ตึกตัก! ตึกตัก! ตามความเป็นจริง หากไม่ได้ใส่ใจพี่ลีวายก็
ไม่ควรเดือดดาลกับคำพูดเหล่านั้นเลย แต่ทำไมถึง… หัวเสียขนาดนี้กัน
“กูก็แค่ยื่นข้อเสนอดี ๆ ให้เธอ” พอพูดยั่วอารมณ์พี่ลีวายแล้ว
เขาก็หันมาถามฉัน “ว่าไงเธอสนใจข้อเสนอของฉันหรือเปล่า?”
ฉันเม้มริมฝีปากแน่นมองพี่ลีวายอย่างใช้ความคิด ทั้งที่ไม่ได้
รู้สึกสนใจแต่มันรู้สึกอย่างตอบอีกอย่าง “เอ่อ… ก็น่าสนใจนะคะ”
“เธอกล้ากว่าที่คิดนะ กูเริ่มถูกใจผู้หญิงคนนี้จริง ๆ แล้วสิ”
แววตาของเขาคนนั้นเหมือนกำลังเย้ยยันพี่ลีวายอยู่เป็นนัย ๆ ยิ่งทำให้
อีกฝ่ายอารมณ์เดือดดาล
ผู้ชายที่ชื่อเรย์ลุกขึ้นจากโซฟาตัวใหญ่ เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของฉันก่อนจะยื่นอะไรบางอย่างให้ มันคือนามบัตร
“ถ้าอยากเจอฉันก็ติดต่อมา”
“… ค่ะ” ฉันรับนามบัตรจากมือเขามาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะถูกสายตาอำมหิตจ้องเขม็งตลอดเวลา
“กลับ!!”
“อ่ะ!!” ฉันอุทานออกมาเบา ๆ เพราะถูกกระชากแขนอย่างแรงจนตัวแทบปลิว “มิลินเจ็บนะ”
“หรือเธออยากอยู่ที่นี่กับมัน ฮะ!!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD