#วันต่อมา
ฉันพยายามหาโทรศัพท์ของตัวเองแต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ จำได้ว่าเมื่อวานวางไว้บนโต๊ะตรงหัวเตียงแน่ๆ แล้วมันหายไปไหนกัน
“อยู่ไหนนะ” เดินหาจนแทบจะทั่วห้องพร้อมบ่นไปด้วย
ก็อกๆ เสียงเคาะประตูทำให้สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมองอย่างระแวงเพราะกลัวจะเป็นคัลเลน ตอนนี้ฉันไม่อนากเจอหน้าเขามากที่สุด
“คุณเกลคะได้เวลาอาหารเช้าแล้วค่ะ” ฉันเดินมาเปิดประตูเพื่อจะบอกแม่บ้าน “ฝากบอกคัลเลนด้วยนะคะว่าเกลไม่หิว”
“ไม่ได้ค่ะ คุณคัลเลนกำชับมาว่าคุณเกลต้องลงไปร่วมโต๊ะอาหารมื้อเช้าด้วย”
“เฮ้อ!! เผด็จการที่สุด” ยังไม่ลืมที่เขาทำเมื่อวานหรอกนะ เอะอะก็จะทำแต่เรื่องแบบนั้น ในหัวคงคิดแค่เรื่องบนเตียง
“อย่าพูดแบบนี้ให้คุณคัลเลนได้ยินนะคะ เดี๋ยวจะถูกทำโทษ” ฉันถอนหายใจพรืดใหญ่พร้อมกับพยักหน้า “ฝากบอกด้วยนะคะว่าเดี๋ยวเกลลงไป”
“ค่ะ”
@โต๊ะอาหาร
“เหอะ กว่าจะลงมาได้ปล่อยให้เจ้าของบ้านรอแบบนี้มันสมควรแล้วหรอ” ทันทีที่ฉันเดินเข้ามาในห้องอาหารฟ่านฟ่านเธอก็เอ่ยขึ้นมาทันที
“แล้วใครใช้ให้เธอรอ”
“ระวังปากหน่อยนะเป็นแค่นางบำเรออย่ามาทำเป็นอวดดี”
ฉันกำมือแน่นกับคำดูถูกนั้น เธอพูดประโยคที่น่ารังเกียจแบบนั้นเป็นครั้งที่สองแล้ว
กำลังจะอ้าปากตอบกลับแต่ก็ต้องเงียบเพราะคนตัวสูงที่นั่งอยู่ตรงมุมหัวโต๊ะแย่งพูดซะก่อน
“ระวังปากเธอเอาไว้ด้วยเหมือนกัน” คัลเลนบอกฟ่านฟ่านเสียงเข้ม
“เฮีย!!”
“มานั่งข้างๆ ฉันสิ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ แถวนี้มีเด็กขี้อิจฉา” ฉันบอกพร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ถัดจากคัลเลนไปสามตัว
“เกลลิน มานั่งตรงนี้อย่าให้ฉันพูดซ้ำ” สายตาดุจ้องเขม็งมายังใบหน้าของฉัน ไม่มีทางเลือกจึงต้องลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างๆ คนตัวสูงแทน
“พอใจแล้วใช่ไหมคะ”
“อืม”
พอจะเดาได้ที่คัลเลนอยากให้นั่งข้างๆ คงเอาฉันไว้กันฟ่านฟ่าน เพราะสายตาของเธอมันจงใจจะยั่วยวนเขาทุกครั้งที่มีโอกาส
“เอกสารหุ้น” เขายื่นแฟ้มสีน้ำตาลมาให้ฉัน “เอาไปให้พ่อเธอซะ”
ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง เพราะหากรับมานั่นหมายความว่าฉันจะต้องอยู่กับเขาต่อไปจนกระทั่งอีกฝ่ายจะเอ่ยปากไล่
“รับไปสิ”
เสียงทุ้มที่เอ่ยบอกทำให้ฉันที่กำลังคิดฟุ้งซ่านได้สติรับเอกสารนั้นมา
“ขอบคุณที่ทำตามคำพูดนะคะ”
“ฉันให้เธอได้อีกเยอะ ถ้าเธอทำตัวดีๆ ไม่คิดอะไรโง่ๆ แบบเมื่อวาน”
“ไม่ชอบหรอคะ” ฉันมองไปยังฟ่านฟ่านพร้อมยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดต่อ “เวลาเกลดื้อทีไรคุณก็ดุเอาซะเกลหมดแรงเลย”
“หึ!!” เขายิ้มมุมปากแต่ไม่ชอบอะไร คงพอใจกับคำพูดของฉันที่ทำให้ฟ่านฟ่านหน้าเสียได้
“ขอตัวก่อนนะคะ กินไม่ลงแล้ว” ฟ่านฟ่านเธอลุกขึ้นยืนแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างไม่ปิดกั้น
“เชิญ ฉันไม่ได้เอาโซ่ล่ามขาเธอไว้”
“ทำเป็นรังเกียจไปเถอะ ได้เป็นเมียเมื่อไรฟ่านจะทำให้เฮียลืมไม่ลงเลยคอยดูสิ”
“คิดว่าฉันจะเอาผู้หญิงอย่างเธอหรือไง อ่อยขนาดนี้ถ้าจะเอาฉันคงเอาไปนานแล้ว”
“เฮีย!!!”
คำตอบที่หักหน้ายิ่งทำให้ฟ่านฟ่านเธอรู้สึกเสียหน้า ก่อนจะรีบเดินกนะแทกเท้าออกไปจากห้องอาหาร
“พูดแบบนั้นไม่กลัวเธอไปฟ้องพ่อคุณหรอคะ”
“ฟ้องสิ พ่อฉันจะได้รู้ว่าลูกเลี้ยงของตัวเองร่านแค่ไหน”
“……..”
“ติดใจหรือเริ่มรู้สึกกับเกลแล้วกันแน่คะ” ฉันใช้ความกล้าเป็นอย่างมากในการตั้งคำนี้ หัวใจเต้นกลัวๆ แต่ทำเป็นกล้าไปอย่างนั้น
ฉันเคยถามแบบนี้ไปแล้วแต่ครั้งนั้นเขาปฏิเสธ และมองฉันอย่างไม่ชอบใจ แต่ครั้งนี้ไร้วี่แววเสียงปฏิเสธแถมยังหลบสายตา
ไม่เด็ดขาด!! ฉันจะไม่คิดอะไรเข้าข้างตัวเอง
“ทำไม….ไม่ตอบละคะ”
“กินข้าว เอาแต่พูดมากอยู่ได้”
ไม่สนใจคำถามไม่พอเขายังพูดเปลี่ยนเรื่อง ฉันไม่ใช่คนที่ชอบคิดอะไรเข้าข้างตัวเอง แต่กับเขามันห้ามความคิดไม่ได้เลย
“ฉันจะไปพักผ่อนที่เกาะส่วนตัวที่ฮาวาย เธอต้องไปกับฉัน”
“ทำไมเกลต้องไปด้วยหรอคะ”
“ถ้าปล่อยให้อยู่ที่นี่ก็คงคิดจะหนี ฉันก็เลยต้องเอาไปด้วยถึงจะเกะกะก็เถอะ”
“ถ้าเกะกะก็ให้เกลอยู่ที่นี่แล้วสั่งให้ลูกน้องดูเอาไว้ก็ได้นี่คะ”
“ลูกน้องของฉันไม่ได้มีเวลาว่างมาเฝ้าเธอขนาดนั้น”
“เกลเบื่อฮาวายแล้วค่ะ ไม่อยากไป” ฉันบอกไปงั้นที่ทำตัวเรื่องมากก็เพราะไม่อยากไปด้วย ไม่ใช่ว่าไปฮาวายจนเบื่อหรอก
“แล้วเธออยากไปที่ไหน?”
“ถามเกลหรอคะ”
“อืม ถ้าเธอได้อิสระคืนเธออยากจะไปที่ไหน”
“คงจะเป็นมัลดีฟส์ เกลเคยไปครั้งนึงสวยจนอยากจะไปอีกแต่ไม่มีเวลา” ฉันตอบอย่างไม่คิดอะไรมาก มัลดีฟส์มันคือที่ที่อยากจะไปซ้ำจริงๆ คิดถึงน้ำทะเลใสๆ ที่นั่น
“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ไปมัลดีฟส์ ฉันมีเกาะส่วนตัวที่นั่น”
“หือ? นี่คุณซื้อเกาะส่วนตัวไว้กี่ที่เนี่ย” ฉันตั้งคำถามอย่างตกใจ และที่น่าแปลกใจคือเขาจะไปสถานที่ที่ฉันเลือกเพียงเพราะอยากเอาฉันไปเกะกะเนี่ยนะ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD