เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาเป็นระยะสายนั้นโทรมาจากมาลิค จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้นเพราะสนใจคนที่นั่งข้าง ๆ มากกว่า
“กับคุณหนูลี่… เข้ากันได้ดีใช่ไหมคะ” ถามบ้าอะไรออกไปเนี่ย อยากจะตีปากตัวเองแรง ๆ
คาแลนหันมามองพร้อมพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับใช้สายตาคู่นั้นจ้องมองริมฝีปากของฉัน
“ถ้ามิลาถามมากเกินไปขอโทษด้วยนะคะ”
“ตอบได้”
“…”
“ลี่เป็นผู้หญิงที่น่ารัก”
“อะ... อ๋อ มิลาว่าแล้วว่าเธอต้องน่ารักกับเฮียมาก ๆ”
“อืม”
เจ็บจริง ๆ ไม่น่าเปิดประเด็นพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเลย มันยิ่งชวนให้บรรยากาศอึมครึมน่าอึดอัดกว่าเดิม
“เรื่องมิน… มิลาขอเวลาพิสูจน์”
“ตามใจหนู เรื่องนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเฮีย”
อืมนั่นสิ ลืมตัวอีกแล้ว ตอนนี้เราสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยนี่นา
สายเรียกเข้ามาในโทรศัพท์ของคาแลน เจ้าตัวมองดูหน้าจอครู่หนึ่งก้อนจะกดรับทั้ง ๆ ที่นั่งอยู่ข้างฉัน
“ลี่ปลอดภัยใช่ไหม”
ราวกับหัวใจมันจะหยุดเต้นให้ได้เลยเมื่อได้ยินชื่อนั้น พยายามข่มความรู้สึกหึงหวงเอาไว้เพราะคาแลนไม่ได้เป็นของฉัน เราไม่ได้เป็นอะไรกันอีกแล้ว แต่ทำยังไงดีกำมือจนเปียกชุ่มเหงื่อก็ยังรู้สึกร้อนรุ่มในใจ
“พี่ขอโทษที่ไม่ได้เข้าไปช่วยด้วยตัวเอง”
“ตอนนี้ยังไม่สะดวก อีกครึ่งชั่วโมงพี่จะไปหาที่คอนโด”
“คนของพี่เฝ้าอยู่ที่หน้าห้องใช่ไหม”
“ครับ เดี๋ยวพี่จะรีบไป”
มันเจ็บปวดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน เขาแสนดีแต่ความแสนดีนั้นมันไม่ได้มีให้แค่ฉันคนเดียว ไม่อยากเอาแต่คิดงี่เง่าอะไรแบบนี้ ขอไม่รู้ไม่เห็นเลยซะยังดีกว่า
คนที่เป็นฝ่ายผลักไสไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น
“คืนนี้หนูนอนที่นี่ไปก่อน พรุ่งนี้เฮียจะให้เจตไปส่ง”
“ไม่อยากรบกวนเลยค่ะ เฮียไม่ควรมาช่วยมิลาด้วยซ้ำ”
“พูดแบบนี้อีกทำไม หนูต้องการแบบไหนมิลา”
“เรากำลังเดินวนเป็นวงกลมหรือเปล่าคะ ก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายก็ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง แต่ทำไมเราถึงวนกลับมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า”
“อืม เฮียเข้าใจแล้ว”
ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแรง ๆ เพื่อลงโทษกับคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก อีกแล้ว คนตัวสูงยืนขึ้นทำเหมือนจะเดินไป ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ถึงได้คว้ามือไปรั้งเอาไว้แบบนั้น
“เฮียจะต้องออกไปข้างนอก”
“ไปหาคุณหนูลี่เหรอคะ”
“อืม”
“มะ... มิลาขอโทษ ที่พูดไปแบบนั้น”
น้ำสีใสคลอเต็มสองตา หากถูกสะบัดแขนออกหรือถูกผลักไสอย่างที่ตัวฉันเคยทำมาตลอดคงร้องไห้ออกมาตรงนี้แน่ ๆ
ฉันไม่รู้เลยว่าจะลบความสับสนนี้ออกไปยังไง ปากพูดอีกอย่างแต่ใจกลับต้องการอีกอย่าง และตอนนี้ไม่อยากให้คาแลนไปไหน ไม่อยากให้เขาไปหาผู้หญิงคนนั้นเลย
ฉันกำลังเห็นแก่ตัวอีกแล้ว
“ไม่ไปได้ไหมคะ คืนนี้เฮียอยู่กับมิลาได้ไหม”
“ฮะ... เฮียทำอะไร” วิ่งกลับมาหาร่างหนาที่ยืนหน้าจอทีวี ตอนนี้สภาพทีวีจอใหญ่มันแตกละเอียด
“เฮียทำร้ายตัวเองทำไม”
“รู้อะไรไหม ทุกครั้งที่หนูทิ้งเฮียเอาไว้ข้างหลัง เฮียทำมากกว่านี้อีกมิลา”
“…” มันจุกที่อกพูดไม่ออก เพราะเป็นฝ่ายเดินออกมาจึงไม่รู้ว่าคนที่ถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลังเป็นยังไง
“ทะ... ทำแผลก่อนนะ”
“ไม่ต้อง แผลแค่นี้ไม่ถึงตาย” ไม่ยอมให้ฉันดูแผลที่มือเลย พอจับก็ดึงมือออกเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง
“มิลาเป็นห่วงเฮียทำแผลได้ไหม อย่าดื้อเลยนะคะ”
ร่างหนาถอยหลังไปก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนโซฟา จากนั้นก็ดึงให้ฉันขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก
“ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้วจะมาสนใจทำไม” ใบหน้าคมคายซบลงมาที่อกของฉัน แล้วพูดต่อ “เฮียควรทำยังไงมิลา เฮียเลิกรักหนูไม่ได้ ทำไม่ได้เลย”
ฉันจับใบหน้าที่ฝังลงมาบนอกให้เงยขึ้น ก่อนจะก้มลงมอบจูบที่นุ่มนวลให้เพื่อปลอบใจ ให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าฉันก็รักเขามากเหมือนกัน
เนิ่นนานเท่าไรไม่รู้ที่เราสองคนจูบกันอยู่อย่างนั้น เป็นเป็นความรู้สึกอบอุ่น คิดถึง โหยหา
“พะ... พอก่อน” รีบผละริมฝีปากออกเมื่อจูบนั้นเริ่มเร่าร้อน ตอนนี้ฉันมีอีกเรื่องที่จะพูด
ถ้ามัวแต่ลังเลอยู่อย่างนั้นจะไปมีความสุขได้ยังไง พยายามแล้วกับการหนีหัวใจตัวเอง… แต่ไม่เคยหนีพ้นเลยสักครั้ง
สุดท้ายหัวใจของฉันก็เรียกร้องหาแต่เขา... คาแลน
“ถ้าครั้งนี้มิลาขอให้เฮียช่วย ยังอยากจะช่วยอยู่ไหมคะ”
“ที่พูดแบบนี้เพราะสงสารหรืออยากให้เฮียช่วยจริง ๆ”
“…”
“หนูคิดดีแล้วใช่ไหมที่จะหันหลังให้น้องสาวของตัวเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD