เหมยฮวาบัญชาการ บทที่ 61 ทำตามแผน

ฝ่ายเสวียนชิวได้รับรายงานว่าทัพไป๋หู่เคลื่อนพลไปตีเมืองหยินเจา แต่ถอยทัพกลับเพราะหมดสิ้นด้วยเสบียงก็พิโรธนัก ศัตรูล่าถอย แต่กองทัพที่อยู่หลังกำแพงกลับหวาดกลัว มิกล้าไล่ตามไป ทั้งที่การไล่ล่าข้าศึกที่กำลังถอนทัพจากการขาดแคลนเสบียงนั้นมีความได้เปรียบอยู่หลายส่วน
“พวกขี้ขลาด!” เสวียนชิวตวาดลั่น “ศัตรูถอยหนี แทนที่จะตามไปต่อตีให้แตกพ่าย กลับเอาแต่มุดหัวอยู่หลังกำแพง!”
“เรียนท่านแม่ทัพ ข้าน้อยเกรงจะต้องกลลวงของพวกต้าจิน จึง...”
“จึงยอมให้มันหนี ทั้งยังส่งจดหมายมาเยาะเย้ยได้เช่นนั้นหรือ!”
“ท่านแม่ทัพได้โปรดใจเย็นก่อน อย่างน้อยเหตุการณ์ครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า แผนการรบที่องค์หญิงซินเอ๋อร์ขโมยมาได้เป็นของจริง” รองแม่ทัพคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ยังวางใจไม่ได้” เสวียนชิวกล่าว “พวกต้าจินมากเล่ห์ ยังไม่ควรด่วนสรุปว่าแผนที่ได้มาเป็นของจริงหรือปลอม”
“เช่นนั้นท่านแม่ทัพวางแผนจะทำสิ่งใดต่อไปขอรับ”
เสวียนชิวก้มลงอ่านแผนการรบในมือแล้วใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง
“แผนการรบที่ได้มานี้บอกว่าทัพไป๋หู่จะทำทีเป็นเคลื่อนพลไปเทียนหลันเจา แท้จริงแล้วตั้งใจจะส่งกองทัพไปยึดครองไป๋เจาที่อยู่ติดกับเมืองลั่วชิว เพื่อรวมสองเมืองให้เป็นหนึ่ง”
“มีความเป็นไปได้หลายส่วน แผนรบใกล้แต่แสร้งตีเมืองไกล เป็นกลศึกที่ฝูซิ่นฮวาชอบใช้” นายกองคนหนึ่งออกความเห็น
“เกรงว่าเล่ห์เหลี่ยมของนางจะมีมากกว่านั้น” นายกองอีกคนไม่เห็นด้วย “จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ข้าคิดว่าฝูซิ่นฮวาเป็นสตรีมากเล่ห์ ไม่ควรวางใจในแผนการของนางง่าย ๆ”
“เช่นนั้นควรรับมืออย่างไรเล่า ในเมื่อความเป็นได้ที่แผนการนั้นจะเป็นของจริงมีมากพอ ๆ กับความเป็นไปไม่ได้”
“แบ่งกองกำลังเป็นสองฝ่าย รอตั้งรับทั้งไป๋เจาและเทียนหลันเจา”
“แล้วถ้าเมืองทั้งสองคือแผนลวงทั้งคู่ แต่ความจริงแล้วพวกนั้นหมายจะไปเมืองอื่นล่ะ”
ที่ประชุมของทัพต้าเจาเคร่งเครียดลงทุกขณะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ล้วนแต่ต้องระแวงแผนการของฝูซิ่นฮวาทั้งสิ้น จนพวกเขาอยากจะจับหญิงผู้นั้นมาสับให้เป็นหมื่น ๆ ชิ้นยิ่งนัก
“ส่งสายสืบไปคอยจับตาทัพไป๋หู่ว่าเคลื่อนพลไปที่ใดบ้าง” เสวียนชิวสั่ง
“ขอรับท่านแม่ทัพ!” นายกองรับคำแล้วรีบออกจากกระโจมไป
เสวียนชิวเองก็เดินออกจากกระโจมที่ประชุมไป ทั้งที่ยังไม่ได้สรุปความอะไร แต่กระนั้นก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยคัดค้าน ด้วยรู้ดีว่าพายุอารมณ์ของท่านแม่ทัพในยามนี้ พร้อมจะถาโถมใส่ทุกคนได้ทุกเมื่อ
ทั้งหมดได้แต่มองตากันแล้วถกเถียงกันต่อ โดยไร้ซึ่งผู้เป็นแม่ทัพอยู่ร่วมในการถกเถียงครั้งนี้ด้วย
และหนึ่งในบรรดาเรื่องที่เหล่านายทหารกำลังถกกันอยู่นั้น ก็มีเรื่องเกี่ยวกับสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ในกองทัพ ผู้ต้องประสบกับชะตากรรมอันน่าเวทนาจากความโหดร้ายของพี่ชายร่วมสายเลือดรวมอยู่ด้วย
“ไม่รู้ว่าป่านนี้เสวียนชิวจะฆ่าแกงองค์หญิงซินเอ๋อร์อย่างไรบ้าง” ฝูซิ่นฮวาถอนหายใจ แม้นางจะเป็นคนวางแผนทั้งหมดขึ้นมา แต่ลึก ๆ ก็อดเป็นห่วงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ผู้นั้นไม่ได้
“เรากำลังจะทำตามแผนที่นางได้ไป นางคงไม่เป็นไรหรอกกระมัง” ฝูซิ่นเล่อว่า และคาดหวังให้เป็นจริงตามที่ตนคิด
“น้องข้า ข้าขอถามเจ้าตามตรงเถิด เจ้ามีใจให้องค์หญิงซินเอ๋อร์บ้างหรือไม่” ผู้เป็นพี่ถามอย่างไม่อ้อมค้อมพลางพินิจดูทีท่าของน้องชาย
“ไม่ขอรับ” ฝูซิ่นเล่อตอบโดยไม่มีแววโกหกแม้แต่น้อย
“เช่นนั้นใครกันที่อยู่ในใจของเจ้า ใช่ผู้ที่เจ้าวาดภาพนางอยู่เป็นประจำหรือไม่”
“ใครเล่าเรื่องนี้ให้ท่านฟัง” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “หรือว่าเจ้าพลทหารน่าตายนั่น!”
ฝูซิ่นฮวายิ้มแทนคำตอบ “นางเป็นใครกัน”
ฝูซิ่นเล่อถอนหายใจ ก่อนจะยอมเปิดปาก “ข้าเรียกนางว่าเหลียนเอ๋อร์”
“เหลียนเอ๋อร์?”
“ท่านพี่อย่าได้ใส่ใจ” ฝูซิ่นเล่อยิ้ม “ข้าเพียงฝันถึงสตรีแปลก ๆ ผู้หนึ่งอยู่ริมสระบัวบ่อย ๆ ข้านึกสนุกจึงได้เก็บเอามาวาดภาพเล่น ไม่มีอะไรหรอกขอรับ”
“สตรีที่ฝันถึงบ่อย ๆ หรือ เป็นไปได้หรือไม่ว่านางอาจเป็นผู้ที่มีวาสนาต่อเจ้า”
“ท่านพี่ล้อข้าเล่นแล้ว ก็แค่ความฝัน สตรีแปลกเช่นนั้นจะมีตัวตนอยู่จริงได้อย่างไร”
“นางแปลกอย่างไร”
“ทุกอย่าง” ชายหนุ่มตอบ “การแต่งตัว ทรงผม สีผม ดูแปลกตาไปหมด จนข้าไม่แน่ใจว่า แท้จริงนางเป็นชนชาติใดกันแน่”
“เล่าให้ละเอียดหน่อย” ฝูซิ่นฮวาเริ่มสนใจมากขึ้นทุกที
“ในฝันข้า นางมักสวมอาภรณ์เป็นชุดสีสันสดใส รูปทรงและลวดลายแปลกตาที่...” ฝูซิ่นเล่อนิ่งไปเล็กน้อย
“อย่างนั้นหรือ” ผู้เป็นพี่ยิ้มจาง ๆ “เจ้าว่านางมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่”
“คงไม่กระมังขอรับ” ฝูซิ่นเล่อหัวเราะ “ก็แค่ความฝันเลอะเทอะของข้าเท่านั้น”
“ไฉนข้ากลับคิดว่านางอาจมีตัวตนอยู่จริง” ฝูซิ่นฮวาพึมพำคล้ายพูดกับตัวเอง ยามที่น้องชายบรรยายลักษณะของสตรีในฝัน นางกลับมองเห็นภาพสตรีน่าเอ็นดูผู้หนึ่งปรากฏขึ้นในความคิด
เพียงแต่ไม่ยอมรับออกมาตรง ๆ เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ จะให้ใครเอาไปพูดไม่ได้ว่าเขามีใจลุ่มหลงสตรีที่พบเห็นเพียงในความฝัน ทว่าใครไม่ใช่เขาคงไม่มีวันเข้าใจ ฝันนั้นสมจริงเกินกว่าจะเชื่อว่าเป็นเพียงภาพฝัน มีหลายครั้งที่ฝูซิ่นเล่อคิดว่าเขาใกล้จะสัมผัสหญิงสาวน่าเอ็นดูผู้นั้นได้
“เห็นทีข้าคงต้องไปเตรียมการเคลื่อนพลก่อน” ฝูซิ่นเล่อลุกขึ้นยืน แต่พี่สาวของเขามีหรือจะดูไม่ออกว่าชายหนุ่มกำลังหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงสตรีในฝัน
“แล้วแต่เจ้าเถิด” ฝูซิ่นฮวายิ้ม
ยามนี้ทัพไป๋หู่กำลังจัดทัพเล็กสองทัพ ทัพหนึ่งจำนวนหนึ่งหมื่นยกพลไปเทียนหลันเจา และอีกทัพจำนวนสี่หมื่นยกไปยังเมืองลั่วชิวที่มีกองทัพเล็กคอยท่าอยู่ก่อนแล้ว โดยมีแผนการเป็นการยึดครองเมืองไป๋เจาตามแผนการรบที่องค์หญิงซินเอ๋อร์ขโมยไปได้ เพื่อหลอกให้ต้าเจาตายใจก่อนทำการใหญ่
“หลังยึดครองไป๋เจาได้ จงปฏิบัติต่อผู้คนในเมืองให้ดี ช่วยเหลืออะไรได้ก็จงช่วย ให้พวกเขาเป็นปฏิปักษ์กับเราให้น้อยที่สุด”
“ขอรับ”
“ขอให้เจ้ากลับมาพร้อมชัยชนะ”
อ่าน เหมยฮวาบัญชาการ บทที่ 61 ทำตามแผน
นวนิยาย เหมยฮวาบัญชาการ ได้รับการอัปเดต บทที่ 61 ทำตามแผน ที่มีการพัฒนาขั้นสูงสุดมากมายสิ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้พิเศษมากคือชื่อของตัวละคร ^ ^. หากคุณเป็นแฟนของผู้แต่ง จิ้นอิ๋ง คุณจะรักการอ่าน! ฉันมั่นใจว่าคุณจะไม่ผิดหวังเมื่อคุณอ่าน มาอ่านนิยาย เหมยฮวาบัญชาการ บทที่ 61 ทำตามแผน ตอนนี้ที่นี่
การอ่านนวนิยาย เหมยฮวาบัญชาการ บทที่ 61 ทำตามแผน
บทที่ 61 ทำตามแผน ของ เหมยฮวาบัญชาการ นวนิยาย