จินเกาหยางอึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดของผู้เป็นพี่
“เสด็จพี่จะพระราชทานสมรสให้กระหม่อมกับเหมยเหมยหรือพ่ะย่ะค่ะ” จินเกาหยางถาม
“ไม่ดีหรือ?” จินหยางหลงถามกลับ “ข้าหมั่นไส้พวกขุนนางช่างยุนั่นเต็มที ให้เจ้าแต่งกับนางเสีย ดูสิว่าเจ้าพวกนั้นจะทำหน้าอย่างไรกัน”
“แต่กระหม่อมเกรงว่าเหมยเหมยจะเข้าใจผิด คิดว่ากระหม่อมบีบบังคับให้นางแต่งด้วย”
“เช่นนั้นเจ้าก็ทำให้นางยินยอมพร้อมใจเสียสิ”
“เรื่องแบบนี้คงต้องใช้เวลา”
“เวลาเรามีไม่มาก” จินหยางหลงถอนหายใจ “อาการป่วยของข้าหนักขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าเองก็รู้”
“…”
“หากเจ้ามีทัพไป๋หู่กับฝูซิ่นฮวาอยู่ในมือ ข้าก็หมดห่วง”
“เสด็จพี่อย่าได้รับสั่งเช่นนั้น”
“เรากำลังพูดความจริงกันอยู่ เกาหยาง” ฮ่องเต้รับสั่ง “ข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ก็หารู้ไม่ ราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นฮ่องเต้คนต่อไป ข้าก็เขียนเสร็จแล้ว เหลือแค่หาอำนาจมาไว้ในมือเจ้าเพียงเท่านั้น”
“เสด็จพี่!” จินเกาหยางเรียกอย่างตกใจ ด้วยไม่เคยคิดมาก่อนว่าจินหยางหลงได้ร่างราชโองการแต่งตั้งเขาเป็นฮ่องเต้ไว้แล้ว
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากเป็นฮ่องเต้ แต่เห็นแก่ข้าที่ไม่อาจปกครองบ้านเมืองต่อไปได้เถิด” จินหยางหลงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สือกุ้ยเฟยใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาเบา ๆ “ที่ข้าไม่ยอมมีลูกก็เพราะยังมีเจ้าอยู่ ข้าไม่ต้องการให้พวกขุนนางเจ้าเล่ห์ทั้งหลายขึ้นมามีอำนาจหลังข้าตาย ผ่านเลือดเนื้อของข้าที่เป็นลูกหลานของพวกมัน!”
“โธ่ ลูกแม่” ไทเฮาก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ขณะเอื้อมไปจับมือของจินหยางหลงไว้อย่างปลอบประโลม
“บ้านเมืองของเรา ข้าขอฝากไว้ในมือเจ้า น้องข้า”
หลังออกจากวังหลวง จินเกาหยางก็รู้สึกเคร่งเครียดยิ่งนัก เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้เป็นพี่จะมอบหมายภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ให้เขา แต่เมื่อคิดตามคำพูดของจินหยางหลง ตัวเขาเองก็เห็นด้วยกับคำพูดนั้น ยามนี้บรรดาขุนนางที่ส่งบุตรีเข้ามาเป็นสนมในวังล้วนแต่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ไปในระยะเวลาอันใกล้นี้ โอรสของฮองเฮาหรือสนมคนใดคนหนึ่งก็จะขึ้นมาเป็นฮ่องเต้ต่อจากจินหยางหลง แล้วผู้ที่มีศักดิ์เป็นตาของฮ่องเต้น้อยก็จะขึ้นมากุมอำนาจทั้งหมดไว้ในมือ
ยามนั้นบ้านเมืองคงไม่แคล้วต้องมีอันเป็นไปตามจินหยางหลงเป็นแน่
“มู่จิ่ว” จินเกาหยางเปิดม่านรถม้าออกมาเรียกคนสนิท “ไปจวนสกุลฝู”
“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” มู่จิ่วรับคำแล้วเปลี่ยนทิศทางจากตำหนักเว่ยหยางมุ่งหน้าสู่จวนสกุลฝูทันที
ไม่นานจินเกาหยางก็มาถึงจวนสกุลฝู ผู้คนในจวนต่างเห็นถึงความผิดปกติของเว่ยหยางอ๋อง เพราะเขามักจะเดินเข้าจวนมาอย่างอารมณ์ดี และหลังจากเย้าแหย่ฝูซิ่นฮวาจนพอใจแล้ว เขาก็จะกลับออกไปด้วยอารมณ์ที่ดีกว่าเดิมทุกครั้ง
“คารวะท่านอ๋อง” ฝูซิ่นเล่อออกมาต้อนรับ
“แม่ทัพฝู” จินเกาหยางเอ่ยทัก “ดูเหมือนว่าเจ้าจะแข็งแรงขึ้นไม่น้อย”
“เพราะไทเฮาพระราชทานโสมพันปีพร้อมยาบำรุงหลายขนานมาให้กระหม่อม ตอนนี้ร่างกายจึงแข็งแรงขึ้นมาก อีกวันสองวันคงเริ่มจับอาวุธได้ตามเดิม”
“ข้าบอกว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ค่อยให้เจ้าจับอาวุธมิใช่หรือ น้องข้า” เสียงเย็น ๆ ของฝูซิ่นฮวาดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ