รุ่งเช้า ฝูซิ่นฮวายังคงอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง ผิวกายอุ่นร้อนคล้ายมีไข้ จนจินเกาหยางอดโทษตัวเองไม่ได้ว่า ที่นางเป็นเช่นนี้ก็เพราะมีสาเหตุมาจากตัวเขา
“เหมยเหมย ลุกมากินยาหน่อย เจ้าเหมือนจะมีไข้นะ” จินเกาหยางพูดด้วยความเป็นห่วง ขณะประคองร่างของภรรยาขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง
“สายมากแล้วมิใช่หรือ ข้าต้องรีบไปถวายพระพรไทเฮา” ฝูซิ่นฮวารีบร้อนลุกขึ้น ตามธรรมเนียมแล้วนางควรรีบไปทำความเคารพแม่สามีในเช้าวันแรกของการแต่งงาน ไม่ใช่มัวแต่นอนอยู่เช่นนี้
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถิด” จินเกาหยางปรามเสียงเบา
“แต่...”
“ข้าให้คนไปทูลเสด็จแม่แล้วว่าเจ้าไม่สบาย”
ฝูซิ่นฮวาถอนหายใจอย่างไม่สบายใจนัก “ข้านี่ไม่เอาไหนเลยจริง ๆ สิ่งที่ควรต้องทำก็กลับทำไม่ได้”
“เรื่องนั้นโทษเจ้าไม่ได้หรอก หากจะมีใครสักคนที่เป็นคนผิดก็คงเป็นข้า” จินเกาหยางกล่าว “เมื่อคืนข้าเอาแต่ใจกับเจ้ามากไปหน่อย”
คำพูดของจินเกาหยางทำให้ฝูซิ่นฮวานึกถึงเรื่องเมื่อคืน ใบหน้าของนางก็ร้อนผ่าวเมื่อภาพเหตุการณ์ทั้งหลายปรากฏขึ้นในความคิด นางยังจำสัมผัสนุ่มนวลกับแววตาร้อนแรงของเขาได้ดี สัมผัสนั้นยังติดตรึงอยู่บนเรือนร่างและความรู้สึกของนาง ยากที่จะลบเลือนเสียแล้ว
ที่สำคัญ ฝูซิ่นฮวาค้นพบว่าสามีของนางนั้นแสนจะร้ายกาจ และมีสารพัดวิธีที่จะใช้รังแกผู้หญิง
“กินยาหน่อย” จินเกาหยางตักยาจากถ้วย เป่าจนอุ่นแล้วค่อย ๆ ป้อนฝูซิ่นฮวาทีละช้อน
“เดี๋ยวข้าจะเช็ดตัวให้ หวังว่าเจ้าคงไม่ปฏิเสธข้าอีกนะ”
ฝูซิ่นฮวาหัวเราะให้กับคำพูดของจินเกาหยาง พลางนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งที่อยู่ในค่ายทหารด้วยกัน ยามนั้นนางป่วย สาวใช้ที่จะมาดูแลสักคนก็หามีไม่ จะมีก็เพียงจินเกาหยางที่ห่วงใยคอยช่วยดูแลนาง แม้จะถูกนางต่อว่า เขาก็มิได้โกรธเคือง ยังยืนยันที่จะดูแลนางด้วยความห่วงใย
การเช็ดตัวของจินเกาหยางครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรก คราวก่อนที่เขาเช็ดตัวให้นาง เขาเช็ดเพียงใบหน้าและแขนทั้งสองข้าง แต่ครั้งนี้สถานะของพวกเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาเป็นสามีของนาง และนางเป็นภรรยาของเขา เขาจึงเช็ดตัวให้นางได้ ‘ทั่วทั้งตัว’ โดยที่ฝูซิ่นฮวาหมดสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ
“หิวหรือไม่” จินเกาหยางถาม หลังจากช่วยฝูซิ่นฮวาแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“นิดหน่อยเจ้าค่ะ”
“รอประเดี๋ยว ข้าจะให้คนทำโจ๊กมาให้”
ฝูซิ่นฮวาพยักหน้ารับขณะนั่งพิงหัวเตียง มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ตั้งแต่นางเข้าไปอยู่ในกองทัพเจ็บป่วยเมื่อใดก็ล้วนต้องดูแลตัวเอง แต่พอที่ได้รู้จักกับจินเกาหยาง เจ็บป่วยเมื่อใดก็มีเขาคอยดูแลอยู่ข้างกาย เทียบกับเมื่อก่อนแล้วดีกว่าเป็นไหน ๆ
ไม่นานนัก สาวใช้สองคนก็เดินเข้ามาในห้อง คนหนึ่งถือถาดใส่ชามโจ๊ก ส่วนอีกคนถือถาดใส่ถ้วยชาเข้ามาวางบนโต๊ะ แล้วรีบกลับออกไปอย่างรู้หน้าที่ จินเกาหยางค่อยๆ ตักโจ๊กป้อนฝูซิ่นฮวาทีละคำอย่างใจเย็น รอให้นางกินจนเสร็จ ตัวเขาจึงค่อยกินบ้าง จากนั้นจึงประคองร่างบางลงนอนบนเตียงเพื่อให้นางได้พักผ่อน โดยที่จินเกาหยางยังไม่ยอมลุกไปไหน เขานั่งอยู่ข้าง ๆ นาง สีหน้าครุ่นคิดบางสิ่งจนฝูซิ่นฮวาอดถามไม่ได้
“ท่านพี่คิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ”
“คิดเรื่องเจ้า” จินเกาหยางตอบตามตรง
“เรื่องข้า?”
“ใช่” ผู้เป็นสามีพยักหน้ารับ “เมื่อคืนนี้เป็นครั้งแรกของเจ้า พอเช้ามา เจ้าก็ป่วย ข้าจึงสงสัยว่าต้องทำบ่อย ๆ หรือเปล่า ร่างกายเจ้าจึงจะคุ้นชิน ต่อไปจะได้ไม่ป่วยหลังจากข้ากอดเจ้าอีก”
สีหน้าท่าทางของเขาจริงจังมาก ดูเหมือนว่าเขาจะคิดเช่นนั้นจริง ๆ หาใช่เพียงหยอกล้อนางเล่น ๆ
ฝูซิ่นฮวาไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เมื่อได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อาการไข้ของฝูซิ่นฮวาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว วันต่อมานางจึงเข้าไปถวายพระพรไทเฮาในวังหลวง ฝ่ายไทเฮาก็ดีพระทัยยิ่งนัก ที่ได้เห็นสะใภ้คนใหม่มาเข้าเฝ้า หากสีหน้าซีดเซียวของอีกฝ่ายทำให้พระนางไม่ค่อยสบายพระทัยนัก
ดูท่าว่าจินเกาหยางคงจะเอาแต่ใจกับฝูซินฮวาไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ