ทหารใหม่ที่ฮ่องเต้พระราชทานให้เข้าร่วมในทัพไป๋หู่กำลังอยู่ในระหว่างการฝึกซ้อม แม้ฝูซิ่นเล่อที่หายดีแล้ว แต่ในฐานะที่ฝูซิ่นฮวาเป็นกุนซือและผู้บัญชาการ นางก็ยังต้องเข้ากองทัพมาดูแลเรื่องระเบียบวินัยต่าง ๆ ร่วมกับฝูซิ่นเล่อด้วย
พลทหารใหม่ทุกคนพอจะทราบมาบ้างแล้วว่า กุนซือแห่งทัพไป๋หู่ที่ควบตำแหน่งผู้บัญชาการเป็นสตรี และเป็นโหวหญิงคนแรกแห่งแผ่นดินต้าจิน แต่ในวันที่นางขี่ม้านำทัพกลับเข้าเมืองหลวง พวกเขาอยู่ระหว่างการคัดเลือกทหารใหม่จึงไม่ได้เห็นหน้าค่าตาของนาง แต่ละคนจินตนาการไปว่าสตรีที่ใช้ชีวิตในกองทัพ คงเป็นสตรีเก่งกล้าและแข็งแกร่งองอาจไม่แพ้บุรุษ คาดไม่ถึงว่ากุนซือฝูที่ได้เห็นในวันนี้ จะกลายเป็นสตรีรูปร่างผอมบางท่าทางอ่อนแอขี้โรค
ทัพไป๋หู่อยู่ภายใต้การบัญชาการของสตรีเช่นนี้ได้อย่างไร
“ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นใครมาจากไหน หรือเคยใช้กฎระเบียบแบบใดมาก่อน ยามนี้เมื่อมาอยู่ในทัพไป๋หู่ก็ต้องยึดมั่นในกฎเกณฑ์เดียวกันกับเรา” เฉาเทียนประกาศ “และกฎข้อแรกที่พวกเจ้าทุกคนต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ ที่นี่ท่านกุนซือมีอำนาจเด็ดขาดเทียบเท่าท่านแม่ทัพ ขัดคำสั่งท่านกุนซือมีโทษเท่าขัดคำสั่งท่านแม่ทัพ และโทษของการฝ่าฝืนคำสั่งท่านแม่ทัพ คือตาย!”
พลทหารใหม่ต่างลอบมองหน้ากัน ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เฉาเทียนประกาศนั้นเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงคำขู่กันแน่ พวกเขารู้ดีว่าในหลาย ๆ กองทัพ การขัดคำสั่งของแม่ทัพอาจนำมาซึ่งโทษประหาร แต่การขัดคำสั่งของกุนซือแห่งทัพไป๋หู่นั้นต้องโทษประหารด้วยหรือ?
บางทีเรื่องที่ว่านี้อาจเป็นเพียงคำขู่ เพื่อให้พลทหารใหม่เคารพยำเกรงกุนซือผู้อ่อนแอก็เป็นได้
ฝูซิ่นฮวาเดินดูทหารใหม่กองหนึ่งที่กำลังซ้อมรบ แม้หน้าที่ของนางคือการวางกลศึก แต่ก็ต้องทำความรู้จักกับเหล่าทหาร เพื่อให้รู้พื้นฐานความสามารถของทหารแต่ละกอง รวมไปถึงจุดอ่อนจุดแข็งและความสามารถที่โดดเด่น จะได้เลือกใช้ทหารได้เหมาะสมกับสถานการณ์
“ทหารกองนี้มีจำนวนเท่าไหร่” ฝูซิ่นฮวาหันมาถามเฉาเทียนที่เดินอยู่ข้างกาย
“หนึ่งพันคนขอรับ” เฉาเทียนตอบ
“โดยรวมเป็นอย่างไรบ้าง”
“เกือบทั้งหมดเป็นทหารใหม่ ต้องฝึกฝนทั้งเรื่องระเบียบวินัยและฝีมือในการต่อสู้”
“คงอีกพักใหญ่กว่าฝีมือจะพัฒนา” ฝูซิ่นฮวาประเมินจากการมองเหล่าทหารที่ดูเหมือนจะยังจับอาวุธไม่ถูกวิธีด้วยซ้ำ
ใกล้กันนั้นพลทหารกลุ่มหนึ่งท่าทางยโสโอหังคล้ายอันธพาลข้างถนน ไม่สนใจฝึกซ้อมเช่นทหารคนอื่น มัวแต่นั่งกวัดแกว่งอาวุธในมือเล่น พูดคุยหยอกล้อกัน ไม่ได้จริงจังกับการฝึกแม้แต่น้อย
“ดูสิว่าใครมา” คนที่ท่าทางยโสที่สุดเอ่ยกับพวกพ้องของตน “ใช่กุนซือฝูคนงามหรือเปล่า”
ว่าแล้วพวกเขาก็พากันหัวเราะ ฝูซิ่นฮวาเห็นพลทหารกลุ่มนั้นไม่สนใจฝึกซ้อม ทั้งยังมองนางด้วยสายตาดูแคลนคล้ายไม่ยอมรับในตัวนาง ดวงตาคมจึงจับจ้องไปยังกลุ่มคนเหล่านั้น
“เหตุใดคนกลุ่มนั้นจึงไม่ฝึกซ้อม” ฝูซิ่นฮวาถาม “หัวหน้ากองอยู่ที่ใด ไยไม่ดูแลทหารของตน”
เฉาเทียนมีสีหน้าเอือมระอาก่อนจะเอ่ยตอบ “คนที่กำลังหัวเราะคือจงหาน บุตรชายคนเล็กของเสนาบดีจง เป็นหัวหน้ากองของทหารกองนี้ขอรับ”
“ที่แท้เป็นน้องชายคนเล็กของฮองเฮานี่เอง” ฝูซิ่นฮวาพึมพำเบา ๆ “ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน เมื่อมาเป็นทหารในกองทัพข้า ก็ต้องเคารพในกฎกติกาของกองทัพ เส้นสายใด ๆ ก็ใช้ที่นี่ไม่ได้ทั้งนั้น”
ว่าแล้วฝูซิ่นฮวาก็เดินเข้าไปหาจงหานพร้อมกับเฉาเทียนและทหารองครักษ์กลุ่มใหญ่
“พวกเจ้าเป็นทหารใหม่ เหตุใดจึงมัวมานั่งเล่น ไม่สนใจการฝึกซ้อม” ฝูซิ่นฮวาถาม
จงหานลุกขึ้นแล้วเข้ามาหานางด้วยรอยยิ้มเยาะ ท่าทางคล้ายคนไม่ได้รับการอบรบสั่งสอน
“สตรีบอบบางเช่นกุนซือไม่ควรออกมาเดินตากแดดตากลมเช่นนี้ เกรงว่าจะป่วยไข้ไม่สบาย แล้วจะไม่มีใครช่วยวางกลศึกให้กองทัพ” จงหานพูดจาด้วยน้ำเสียงยียวน เจตนายั่วโทสะฝูซิ่นฮวา
“ข้าทำหน้าที่ในส่วนของข้าได้ดีเสมอ แต่เกรงว่าเจ้าอาจจะยังไม่เข้าใจหน้าที่ในส่วนของตน” นางเอ่ยเสียงเรียบ “พลทหารอื่นซ้อมรบ แต่หัวหน้ากองเช่นเจ้ากลับเล่นสนุก สนทนาเฮฮากับพวกพ้องเป็นเรื่องที่สมควรแล้วหรือ”
“ข้าก็แค่พักผ่อน” จงหานกล่าว “บิดาของข้าส่งข้าและไพร่พลหนึ่งพันนายมาเข้าร่วมกองทัพ เพื่อเป็นตัวแทนของฮองเฮา ไม่ได้ส่งมาเป็นพลทหารชั้นต่ำอย่างที่เจ้าเข้าใจ”
“ทหารใหม่ก็คือทหารใหม่ ไม่สำคัญว่าเจ้าจะมาจากตระกูลใด ฐานะสูงส่งแค่ไหน เมื่อเจ้าเข้าร่วมกับกองทัพ เจ้าก็คือทหารของข้า ข้าสั่งให้ฝึกซ้อม เจ้าก็ต้องฝึกซ้อม”
“ถ้าข้าไม่ทำตามคำสั่ง ท่านกุนซือคนสวยจะเช่นไรกับข้า”
“ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งข้า มีโทษเท่ากับไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของแม่ทัพ”
“โทษนั้นคือ...?”
“ตาย”
น้ำเสียงของฝูซิ่นฮวานิ่งเรียบ จงหานมองหญิงสาวราวกับนางกำลังพูดเรื่องตลกแล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ข้าเป็นน้องชายร่วมสายเลือดของฮองเฮา บิดาข้าเป็นเสนาบดีและเป็นพ่อตาของฮ่องเต้ เจ้าอาศัยอำนาจใดมาสั่งฆ่าข้า” จงหานถาม
“อาศัยอำนาจที่ข้าเป็นกุนซือและผู้บัญชาการของทัพไป๋หู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ