จินเกาหยางประคองร่างของชายามาส่งที่รถม้า เห็นนางท่าทางอ่อนเพลียก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ เมื่อคืนที่ผ่านมา นางแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน รู้ตัวอีกทีก็ฟ้าสางเสียแล้ว จึงต้องรีบลุกมาแต่งเนื้อแต่งตัวเตรียมพร้อมออกเดินทาง
“ยามอยู่บนรถม้าก็นอนหลับพักผ่อนเสีย เมื่อคืนเจ้าแทบไม่ได้นอนเลย” จินเกาหยางบอกด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ดังแต่ก็ไม่เบา สาวใช้สองคนที่เขาให้ติดตามไปดูแลฝูซิ่นฮวาต่างพากันก้มหน้าด้วยความเขินอายแทนพระชายา
“ท่าน!”
ผิวแก้มของฝูซิ่นฮวาเปลี่ยนเป็นสีชมพูจาง ๆ นางเอื้อมมือมาบิดเนื้อที่ต้นแขนสามีหน้าไม่อายไม่เบานัก บ่าวไพร่ในตำหนักเห็นต่างก็พากันอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าตั้งแต่ท่านอ๋องเกิดมาเคยมีใครกล้าบิดเนื้อของเขาอย่างที่พระชายาทำหรือไม่ เกรงว่าแม้แต่ไทเฮาก็ไม่เคยทำเสียด้วยซ้ำ
บ่าวไพร่หลายคนลอบมองฝูซิ่นฮวาด้วยความเป็นห่วง หากเป็นผู้อื่นเพียงแค่เดินเฉี่ยวชายผ้า จินเกาหยางยังจ้องด้วยสายตาคาดโทษ แต่นี่พระชายาถึงกับบิดเนื้อของท่านอ๋อง ไม่รู้ว่าท่านอ๋องของพวกเขาจะว่าอย่างไร
ทว่าจินเกาหยางกลับหัวเราะ ทั้งยังชะโงกหน้าไปจูบแก้มฝูซิ่นฮวาโดยไม่สนใจสายตาของผู้ใด จนนางอยากจะตีปากเขานัก
“ดูแลตัวเองให้ดี แล้วข้าจะรีบตามไป” เขากระซิบเสียงนุ่ม พร้อมกับเอื้อมมือมาปัดเส้นผมที่ปรกหน้าฝูซิ่นฮวาอย่างแผ่วเบา
“ข้าจะรอท่านตามไปสมทบ” นางกระซิบตอบพร้อมรอยยิ้ม
จินเกาหยางโน้มตัวลงประทับจุมพิตลงบนหน้าผากเนียนดุจหยกของฝูซิ่นฮวา เขาช่วยส่งนางขึ้นรถม้า ก่อนหันมาหามู่จิ่วที่เตรียมพร้อมออกเดินทางเช่นกัน
“ดูแลนางให้ดี” จินเกาหยางสั่ง แม้จะมีสาวใช้สองคนตามไปดูแล แต่เขาก็ยังไม่วางใจ จึงให้มู่จิ่วซึ่งเป็นคนที่เขาไว้ใจที่สุดตามไปพร้อมกับฝูซิ่นฮวา
“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมจะดูแลพระชายาเป็นอย่างดี” มู่จิ่วรับคำ
เด็กหนุ่มคำนับผู้เป็นนายแล้วกระโดดขึ้นรถม้าไปนั่งข้างคนบังคับ จินเกาหยางมีคำสั่งให้เคลื่อนขบวน ใจหายไม่น้อยที่ต้องจากชายาของตน ยิ่งได้เห็นนางแหวกม่านรถม้าออกมาโบกมือให้ เขาก็ยิ่งอยากทิ้งภาระหน้าที่ทุกสิ่ง แล้วตามไปพร้อมกับนางเสียตั้งแต่ตอนนี้
น่าเศร้าที่คำว่าภาระหน้าที่ต่อประชาชนยังค้ำคอเขาอยู่ ชายหนุ่มจึงได้แต่มองตามขบวนรถม้าค่อย ๆ เคลื่อนออกจากตำหนัก จนกระทั่งลับสายตาไป
“เฮ้อ”
บรรดาบ่าวไพร่ต่างได้ยินผู้เป็นนายถอนหายใจเสียงดัง ท่านอ๋องกับพระชายาเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่เท่าไหร่ กลับต้องแยกจากกันด้วยกิจการบ้านเมือง ทั้งน่าเห็นใจและน่ายกย่อง จนพวกเขาต่างเอาใจช่วยให้ท่านอ๋องรีบจัดการงานในเมืองเว่ยหยางให้เสร็จสิ้นโดยไว เพื่อจะได้ตามไปสมทบกับพระชายาดังที่ใจปรารถนา
รถม้าที่ฝูซิ่นฮวานั่งมา นางได้รับพระราชทานจากฮ่องเต้ ภายในกว้างขวางใหญ่โต ทั้งยังบุด้วยผ้านวมหนานุ่มทั้งคัน ทำให้แทบไม่รู้สึกถึงแรงกระแทก ซูจื่อลู่กับซูก้านลู่ สาวใช้สองพี่น้องที่ติดตามมา เห็นพระชายาท่าทางอ่อนเพลียก็รีบจัดที่ทางให้นางได้นอนพัก หาผ้ามาให้นางห่ม ทั้งยังดูแลหาเตาอุ่นมือมาไว้ใกล้ ๆ ฝูซิ่นฮวาที่ปกติแล้วต้องคอยดูแลตัวเองอยู่ในกองทัพ ไม่ค่อยมีใครปรนนิบัติจึงรู้สึกขอบคุณสองสาวใช้ นางมอบกำไลหยกให้สองพี่น้องคนละวง ก่อนจะเอนกายลงนอนแล้วหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
หลังจากเดินทางมาอย่างช้า ๆ ราวสามสัปดาห์ ในที่สุดฝูซิ่นฮวาก็มาถึงเมืองหลันเจา ทหารจำนวนหนึ่งล่วงหน้ามาที่นี่ก่อนแล้ว และได้ตั้งค่ายสำหรับพักอาศัยอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดังเช่นที่ฝูซิ่นฮวาคุ้นตา
“ข้าให้ทหารเตรียมกระโจมของท่านพี่ไว้แล้ว” ฝูซิ่นเล่อพูดพลางพาพี่สาวไปส่งยังกระโจมที่พัก “แต่มันอาจจะอึดอัดสักหน่อย”
ฝูซิ่นฮวาเลิกคิ้วเมื่อมองไปยังกระโจมของตน ในความคิดของหญิงสาว กระโจมนี้มีขนาดกำลังพอดีสำหรับให้นางอยู่กับสาวใช้อีกสองคน ไม่เห็นจะมีสิ่งใดให้น่าอึดอัด ฝูซิ่นฮวาจึงมองน้องชายคล้ายกำลังตั้งคำถาม
ฝูซิ่นเล่อเห็นสายตาของผู้เป็นพี่ก็เข้าใจว่านางจะถามอะไร ชายหนุ่มพยักพเยิดให้นางมองไปรอบ ๆ กระโจม หญิงสาวมองตามไปอย่างสงสัย ไม่นานนักก็เข้าใจทุกสิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ