เหมยฮวาบัญชาการ นิยาย บท 37

ในค่ายช่วยเหลือชาวเมืองมีผู้คนอาศัยอยู่ราวหกร้อยชีวิต เพราะชาวเมืองที่เดือดร้อนจากการโดนเผาเมืองได้อพยพหนีไปเมืองข้างเคียงบ้างแล้ว แต่เมื่อนำมารวมกับทหารจากทัพไป๋หู่อีกห้าพันนายก็นับว่าเป็นจำนวนคนไม่น้อย ในแต่ละวันต้องหมดเงินไปกับค่าเสบียงอาหารและเครื่องนุ่มห่มเป็นจำนวนมาก แต่จะไม่จ่ายก็ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือชาวบ้านล้วนต้องกินอาหารให้อิ่มท้อง ส่วนหนึ่งเพราะต้องใช้แรงงานในการฟื้นฟูเมือง และอีกส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันมิให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่อาจตามมา หากขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม

ฝูซิ่นฮวาอยู่ในกระโจมที่ประชุมเพื่อหารือเรื่องดังกล่าวกับเจ้าเมืองหลันเจา และขุนนางเมืองข้างเคียงของต้าจินที่ฮ่องเต้มีราชโองการให้มาช่วยฟื้นฟูเมือง

“เสบียงที่ขนมาจากเมืองเว่ยหยางนั้นมีจำกัด หลันเจาเองก็ยังไม่สามารถเพาะปลูกได้ เกรงว่าจะไม่สามารถเลี้ยงดูทหารและชาวบ้านไปได้ตลอดรอดฝั่ง” ฝูซิ่นเล่อพูดอย่างเครียดจัด แต่ไหนแต่ไรมา กองทัพของเขาไม่เคยต้องอดอยาก ทหารกล้าทัพไป๋หู่ต้องได้กินอิ่มท้องเสมอ แต่ยามนี้ดูเหมือนจะมีปัญหาเรื่องเสบียงอาหารเสียแล้ว

“มีพ่อค้าจากแคว้นอวิ๋นนำข้าวสารมาขายจำนวนมากขอรับ แต่ราคาสูงเกินไป” เจ้าเมืองหลันเจารายงาน สีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน

“เท่าไหร่” ฝูซิ่นฮวาถาม

“ถังละห้าตำลึงขอรับ”

“ไอ้พวกบัดซบ!” นายทหารคนหนึ่งสบถ “พอรู้ว่าเราขาดแคลนก็ฉวยโอกาสขึ้นราคา จงใจขูดรีดกันชัด ๆ”

“ข้าวถังหนึ่งน่าจะพอให้คนกินได้หกสิบคนต่อมื้อ ข้าคำนวณถูกหรือไม่” ฝูซิ่นฮวาถามอย่างใจเย็น ขณะใช้ไม้แหลมขีดเขียนอะไรลงในกระบะทรายเพื่อคำนวณทุกอย่างไปด้วย

“ถูกขอรับ”

“ตอนนี้เรามีทหารและชาวเมืองที่ต้องดูแลราวห้าพันหกร้อยคน หนึ่งมื้อต้องใช้ข้าวประมาณเก้าสิบสามถึงเก้าสิบสี่ถัง หนึ่งวันต้องใช้ไม่ต่ำกว่าสองร้อยแปดสิบถัง เท่ากับว่าเราต้องจ่ายค่าข้าวเป็นเงินหนึ่งพันสี่ร้อยตำลึงต่อวัน ยังไม่รวมค่าผักปลาและเนื้อสัตว์อีก” ฝูซิ่นฮวาเริ่มพรมนิ้วลงบนโต๊ะอย่างที่นางชอบทำเวลาใช้ความคิด

“ผักปลาและเนื้อสัตว์แม้จะกินอยู่อย่างประหยัด แต่โดยรวมต่อวันก็ยังเป็นเงินไม่น้อยกว่าสองพันสองร้อยตำลึง” ฝูซิ่นเล่อคำนวณ

เจ้าเมืองหลันเจามีสีหน้าเครียดจัด เมืองเล็กที่ถูกเผาทำลายจนเหลือแต่เถ้าถ่านต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการฟื้นฟู แล้วตอนนี้ยังมีค่าอาหารที่ต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องทหารที่มาทำงานและชาวเมืองอีก เขาเดาใจกุนซือฝูไม่ออกเลยว่านางจะตัดสินใจเช่นไร

“ได้” ฝูซิ่นฮวาเอ่ยขึ้น ทุกคนในที่ประชุมตกอยู่ในความเงียบ ขณะมองมาที่นางเป็นตาเดียว “ข้าจะให้เงินสำหรับเป็นค่าเสบียงอาหารวันละสองพันสามร้อยตำลึง ทุกคนต้องได้กินอาหารเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวข้า ท่านอ๋อง พลทหาร หรือชาวเมืองทั้งหลาย”

“ท่านกุนซือ!” ชุนเหลียง ขุนนางเมืองข้างเคียงเอ่ยขึ้น “งบประมาณมากมายถึงเพียงนั้น เราจะจ่ายได้สักกี่วัน!”

“ไม่กี่วันหรอก” ฝูซิ่นฮวาตอบ

“หมายความว่าท่านจะไม่เลี้ยงดูชาวเมืองหลันเจาแล้วหรือขอรับ” เจ้าเมืองหลันเจาถามอย่างสิ้นหวัง

“ท่านเจ้าเมืองโปรดอย่ามองเจตนาข้าผิดไป” ฝูซิ่นฮวายิ้มตอบ “ที่ข้าบอกว่าไม่กี่วัน หมายความว่าเราจะเสียค่าอาหารมากมายถึงเพียงนั้นแค่ไม่กี่วันเท่านั้น”

เมื่อนางพูดจบประโยค ทุกคนในที่ประชุมก็ได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของกุนซือ ผู้ใดที่เคยร่วมรบกับนางมาก่อนคงพอเดาได้ว่า ยามใดก็ตามที่ฝูซิ่นฮวายิ้มเช่นนี้ นางย่อมต้องมี ‘แผนร้าย’ อยู่ในใจแล้ว

“แม่ทัพ” ฝูซิ่นฮวาเรียกน้องชายของนาง “ข้าจะซื้อข้าวจากพ่อค้าแคว้นอวิ๋นในราคาถังละห้าตำลึง ให้คนของเรากระจายข่าวออกไปให้ทั่ว คนรู้มากเท่าไหร่ยิ่งดี”

“ขอรับท่านพี่” ฝูซิ่นเล่อรับคำ ชายหนุ่มไม่เคยกังขาในแผนการของผู้เป็นพี่ หากนางบอกว่าทำได้ก็คือต้องทำได้ เพราะคนอย่างฝูซิ่นฮวา หาใช่คนที่จะยอมเสียเปรียบใครง่าย ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ