เหมยฮวาบัญชาการ นิยาย บท 46

ฝูซิ่นฮวายิ้มให้ซินเอ๋อร์คล้ายจะเป็นมิตร ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับให้ความรู้สึกเยือกเย็น ราวกับดวงตาคมคู่นั้นต้องการมองผู้ที่อยู่เบื้องหน้าให้ทะลุไปถึงความกลัวที่อยู่ลึกที่สุดในหัวใจ

ครู่หนึ่งกว่าซินเอ๋อร์จะรู้สึกตัวว่าตนหวาดกลัวดวงตาของฝูซิ่นฮวา

“ได้ยินว่าเจ้าเป็นลมอยู่กลางถนน เป็นอะไรหรือไม่เล่า ให้ข้าตามหมอหลวงมาตรวจดูอาการเสียหน่อยดีหรือไม่” ฝูซิ่นฮวาถาม

“ซินซินไม่เป็นอะไรแล้วเพคะพระชายา เพียงแค่หิวข้าวจนเป็นลมไปเท่านั้น” ซินเอ๋อร์ตอบ

“เช่นนั้นก็กินอะไรเสียหน่อย” หลิวฮูหยินกล่าว “นี่ยามโหย่ว แล้ว พวกเราก็กินข้าวเสียด้วยกันเถิด”

“เจ้าค่ะท่านย่า” ฝูซิ่นฮวาตอบรับ ในขณะที่จินเกาหยางกับฝูซิ่นเล่อยังคงจ้องมองซินเอ๋อร์ไม่วางตา

ซินเอ๋อร์ลอบยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเดินตามทุกคนไปยังห้องที่บรรดาสาวใช้ตั้งสำรับไว้รอ

ทุกคนต่างนั่งล้อมวงกันบนโต๊ะอาหาร ฝูซิ่นฮวาและฝูซิ่นเล่อนั่งขนาบข้างฮูหยินผู้เฒ่า จินเกาหยางนั่งต่อจากฝูซิ่นฮวา เป็นเหตุให้ซินเอ๋อร์ต้องนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างแม่ทัพหนุ่มกับเว่ยหยางอ๋อง

ช่างเป็นการวางที่นั่งที่ดียิ่งนัก

ระหว่างรับประทานอาหาร ฮูหยินผู้เฒ่าไถ่ถามเรื่องความเป็นอยู่ของซินเอ๋อร์ รวมทั้งเรื่องที่อยู่อาศัยและการทำมาหากิน ฝ่ายซินเอ๋อร์ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี จึงสามารถตอบคำถามของฮูหยินผู้เฒ่าได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ไม่ติดขัดแม้แต่น้อย

“เจ้าอยากจะกลับหลันเจาหรือไม่ ข้าจะให้เงินเจ้าเป็นค่าเดินทางกลับไปบ้านเกิด” ฮูหยินผู้เฒ่าลองหยั่งเชิง

“หากฮูหยินผู้เฒ่าจะกรุณา เช่นนั้นก็ให้ข้าน้อยได้ตอบแทนด้วยการอยู่รับใช้จวนสกุลฝูก่อนสักสองสามปี แล้วค่อยลากลับบ้านเกิดได้หรือไม่เจ้าคะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะออกมาเบา ๆ “ดี เด็กคนนี้รู้จักกตัญญู เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าคอยอยู่รับใช้ท่านแม่ทัพเป็นอย่างไร”

ซินเอ๋อร์หันไปมองฝูซิ่นเล่อ ชายหนุ่มเหลือบมองนางเล็กน้อยก่อนจะกล่าว

“ให้นางอยู่รับใช้ท่านย่าเถอะขอรับ ข้ามีพลทหารคอยรับใช้แล้ว”

“อะไรกัน พลทหารละเอียดรอบคอบเท่าสตรีเสียเมื่อไหร่” ฮูหยินผู้เฒ่าว่า “ให้ซินซินคอยอยู่รับใช้ข้างกายเจ้านั่นแหละ ย่ากับพี่สาวเจ้าจะได้ไม่ต้องเป็นกังวล”

“หากจะทำให้ท่านย่าคลายกังวลได้ ข้าก็ขอน้อมรับขอรับ” ฝูซิ่นเล่อตอบ

“ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่า ขอบคุณท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ ซินซินจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” ซินเอ๋อร์พูดออกมาด้วยความยินดี

“เช่นนั้นกินข้าวมื้อนี้เสร็จแล้ว เจ้าก็ปรนนิบัติล้างเท้า อาบน้ำให้ท่านแม่ทัพด้วยแล้วกัน”

รอยยิ้มของสาวใช้คนใหม่พลันชะงัก แม้นางจะเป็นเพียงองค์หญิงที่เกิดจากสนมเล็ก ๆ แต่ตลอดชีวิต นางยังไม่เคยต้องล้างเท้าให้ผู้ใดมาก่อน

“มีอะไรรึ เหตุใดจึงทำหน้าเช่นนั้น” ฝูซิ่นฮวาถาม

“หามิได้เจ้าค่ะ” ซินเอ๋อร์พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “ข้าน้อยเพียงแค่ดีใจที่จะได้มีโอกาสรับใช้ท่านแม่ทัพ”

ว่าแล้วนางก็หันไปส่งยิ้มหวานให้ฝูซิ่นเล่อ แม่ทัพหนุ่มมองนางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปกินข้าวต่อโดยไม่กล่าวถ้อยคำใด ๆ ออกมาอีกเลย

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฝูซิ่นฮวาและจินเกาหยางก็ลาฮูหยินผู้เฒ่ากลับเมืองเว่ยหยางโดยไม่ได้ค้างคืนเช่นทุกครั้ง ฝูซิ่นเล่อเดินตามออกมาส่งพี่สาวและพี่เขยขึ้นรถม้าที่หน้าจวน โดยมิให้ผู้ใดติดตามมาด้วย

“แล้วข้าจะให้ทหารลับคอยส่งข่าวให้ท่านพี่เป็นระยะ” ฝูซิ่นเล่อพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะเป็นเสียงกระซิบ

“ได้ ข้าจะรอฟังข่าวคราวของซินเอ๋อร์จากเจ้า” ผู้เป็นพี่ตอบ

เรื่องที่ซินเอ๋อร์เดินทางมาถึงจวนเสนาบดีจง จินเกาหยาง ฝูซิ่นฮวา และฝูซิ่นเล่อ ต่างทราบเรื่องตั้งแต่เมื่อคืน เพราะนับแต่จงหุยส่งนักฆ่ามาลอบสังหารฝูซิ่นฮวา จินเกาหยางและฝูซิ่นเล่อก็ให้คนของพวกเขาที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี คอยสอดแนมจวนเสนาบดีจงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าใครจะเข้าจะออกจากจวนหรือพูดคุยวางแผนอะไรกัน จึงไม่อาจรอดพ้นสายตาของพวกเขาไปได้

“จำไว้นะน้องข้า อย่าได้หลงเสน่ห์นางเป็นอันขาด ตั้งแต่อดีตมา มีกษัตริย์และแม่ทัพจำนวนไม่น้อยที่ต้องพ่ายแพ้แก่กลศึกหญิงงาม เตียวเสี้ยน เคยล่มเมืองได้ฉันใด ซินเอ๋อร์ก็ล่มเมืองได้ฉันนั้น”

“ขอรับ ท่านพี่ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ชมชอบสตรีที่ปั้นแต่งใบหน้าและกิริยามารยาทจนเกินงามอยู่แล้ว”

“ดีมากน้องข้า แต่หากแม้มีครั้งใดที่เจ้าจะหวั่นไหวให้กับความงามของนาง ก็จงท่องเอาไว้ว่านางคือสตรีเช่นข้า และสตรีเช่นพี่สาวของเจ้ามีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวดั่งจิ้งจอกร้าย อย่าได้หลงกลหรือสงสารนางเป็นอันขาด”

ฝูซิ่นฮวาไม่ลืมที่จะกล่าวตักเตือนน้องชาย ด้วยทราบดีว่าความสงสารของบุรุษที่มีต่อสตรีมักนำพาความเดือดร้อนมาสู่ตัวบุรุษผู้นั้นเอง อีกทั้งบุรุษจำนวนไม่น้อยยังมีอนุภรรยาเพียงเพราะความสงสารอีกต่างหาก

“คนละเอียดรอบคอบอย่างเจ้า มีหรือจะไม่สังเกตเห็นพิรุธของนาง” จินเกาหยางพูดเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์วางยาพิษในข้าวสาร ยามนั้นฝูซิ่นฮวาเพียงแค่ได้ยินว่าพ่อค้าตัวปลอมผู้นั้นจะขนข้าวสารมาเพิ่ม นางยังรู้ว่าชายผู้นั้นเป็นพ่อค้าตัวปลอม แล้วมีหรือที่นางจะดูไม่ออกว่าซินเอ๋อร์ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นเป็นคนที่ต้าเจาส่งมา

“หรือเจ้าไม่ได้สังเกตถึงพิรุธของนาง” จินเกาหยางถาม

“สังเกตเจ้าค่ะ” ฝูซิ่นฮวาตอบ “ยามที่นางตอบคำถามท่านย่า นางตอบเร็วเกินไป พูดคล่องราวกับเตรียมตัวมาอย่างดี ซึ่งตามปกติแล้วคนเราจะไม่พูดสวนเช่นนั้น”

“หากนางตอบช้าเล่า เจ้าจะสังเกตหรือไม่”

“ก็สังเกตได้นะเจ้าคะ คนโกหกจะตอบคำถามช้า เพราะต้องคิดมากกว่าคนที่พูดความจริงขั้นหนึ่ง”

“สรุปว่า ไม่ว่านางจะตอบเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป เจ้าก็จับพิรุธนางได้อยู่ดี” จินเกาหยางยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจในตัวภรรยา

“ว่าแต่ท่านพี่เถอะ ซินเอ๋อร์งามถูกใจท่านหรือไม่” ฝูซิ่นฮวาแกล้งถาม เมื่อนึกถึงสายตาที่จินเกาหยางมองซินเอ๋อร์

“หากแม้มิใช่เพราะแผนการของเจ้า แม้เพียงหางตาข้าก็คงไม่เหลียวแลนาง” จินเกาหยางตอบพลางกอดภรรยาไว้ในอ้อมแขน

“เชื่อได้หรือเจ้าคะ”

“เจ้านั่งอยู่ด้วยทั้งคน ข้าหรือจะกล้ามองนาง”

“หมายความว่าถ้าข้าไม่อยู่ ท่านพี่จะมองนางหรือ”

“ก็ไม่มองอยู่ดี”

“เหตุใดล่ะเจ้าคะ ในเมื่อนางงดงามถึงเพียงนั้น”

“โลกใบนี้เจ้างดงามที่สุดสำหรับข้า” จินเกาหยางตอบพลางส่งยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยาในอ้อมกอด

ฝูซิ่นฮวายิ้มละมุนก่อนซบหน้าลงบนอกของสามี “โลกใบนี้ ท่านพี่ก็คือบุรุษที่ดีที่สุดสำหรับข้าเช่นกันเจ้าค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ