เหมยฮวาบัญชาการ นิยาย บท 69

ฝูซิ่นฮวาจัดการให้ทหารลับส่งข่าวกลับไปยังเมืองหลวง เรื่องที่เสบียงถูกปล้นระหว่างทาง ที่ผ่านมานางคิดว่าตนวางกำลังในเส้นทางขนส่งเสบียงแน่นหนาแล้ว แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่มากพอ เมื่อต้องรับมือกับกองทัพที่บุกมาเพื่อปล้นเสบียงโดยเฉพาะ นางจึงจัดวางกำลังพลใหม่ เลือกทหารยอดฝีมือมาประจำตั้งแต่เมืองลั่วชิวมาจนถึงหลันเจาอย่างเงียบ ๆ

“เรื่องศพของทหารห้าพันนายที่เราเสียไป จัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง” ฝู่ซิ่นฮวาถามนายกองที่นางมอบหมายงานให้ไปจัดการ

“เรียบร้อยแล้วขอรับ”

ฝูซิ่นฮวาถอนหายใจออกมา สีหน้ายังไม่สู้ดีนัก แม้ทำศึกมามาก แต่นางก็ยังไม่เคยสูญเสียทหารมากถึงห้าพันนายภายในคืนเดียวมาก่อน ด้วยฝีมือการต่อสู้ของทหารทัพไป๋หู่นั้น ยากที่จะเอาชนะอยู่แล้ว หากแม้มิใช่เพราะเสวียนชิงนำกำลังพลที่มากกว่าถึงสิบเท่ามาละก็ นางมั่นใจว่าต่อให้นางมีทหารน้อยกว่าต้าเจาครึ่งหนึ่ง ทหารของนางก็ไม่มีวันพ่ายแพ้

“นี่คือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตข้า ข้าจะไม่ยอมให้พี่น้องของพวกเราต้องตายเปล่า” ฝูซิ่นเล่อพูดอย่างเจ็บแค้น “ต้าเจาต้องชดใช้!”

“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น” ฝูซิ่นฮวาวางมือลงบนบ่าของน้องชาย

“ยามนี้เราควรตามไปชิงเสบียงคืน หรือทำประการใดต่อไปขอรับ” นายทหารผู้หนึ่งถาม

“ของของเรา เราย่อมต้องทวงคืน สำคัญคือต้องรู้ก่อนว่าพวกนั้นเก็บเสบียงไว้ที่ใด” ฝูซิ่นฮวาใช้ความคิด “ส่งทหารลับไปสืบหาที่เก็บเสบียงของต้าเจาที่...”

“ท่านแม่ทัพ ท่านกุนซือขอรับ” ทหารยามที่เฝ้ายามหน้ากระโจมวิ่งเข้ามา “เจ้าเมืองจินเจาและเจ้าเมืองอื่น ๆ มาถึงแล้วขอรับ”

“เชิญเข้ามาได้”

เจ้าเมืองจินเจาและบรรดาเจ้าเมืองที่คิดจะร่วมศึกกับทัพไป๋หู่เดินเข้ามาในกระโจม แต่สิ่งที่ฝูซิ่นเล่อนึกไม่ถึงก็คือ การได้เห็นซินเอ๋อร์เดินเข้ามาพร้อมกับเจ้าเมืองทั้งหลาย

“องค์หญิงซินเอ๋อร์ ท่านมิได้เสด็จไปประทับที่จินเจาหรอกหรือ?” ฝูซิ่นเล่อถามขึ้น

“เดิมทีควรเป็นเช่นนั้น แต่ข้าอยู่ในลวี่เจากับเสวียนชิวมานานเกือบเดือน แม้เวลากว่าครึ่ง ข้าจะถูกจองจำ แต่ก็พอจะรู้เรื่องภายในกองทัพอยู่บ้าง ข้าจึงคิดว่าบางที ข้าอาจมีประโยชน์ต่อที่นี่” ซินเอ๋อร์ตอบ นัยน์ตาสุกใสจ้องมองไปยังฝูซิ่นเล่อแต่เพียงผู้เดียว “พวกท่านอย่าได้ห่วง ข้าไม่คิดเป็นไส้ศึกให้ต้าเจาเช่นที่ผ่านมาหรอก หรือต่อให้ข้าคิดเช่นนั้น ท่านกุนซือก็คงจะมองข้าออกได้ไม่ยาก”

ซินเอ๋อร์หันไปยิ้มให้ฝูซิ่นฮวาที่ยิ้มจาง ๆ ให้นาง

“เช่นนั้นท่านพอจะทราบหรือไม่ว่า พี่ชายของท่านเก็บเสบียงไว้ที่ใด” ฝูซิ่นฮวาถาม

“ข้าทราบ” หญิงสาวตอบ “เสบียงจากเมืองหลวงจะถูกส่งมาที่หมู่บ้านเฉ่าเยวียน หลังเมืองลวี่เจา”

“ท่านสามารถใช้เส้นทางเมืองหวงเจาลอบเข้าไปยังหลังเมืองลวี่เจาได้” เจ้าเมืองหวงเจากล่าว “ข้าและทหารหนึ่งพันนายจะนำทางท่านไป”

“ส่วนข้ากับทหารที่เชี่ยวชาญในพื้นที่เมืองลวี่เจาอีกหนึ่งพันก็จะไปกับพวกท่านด้วย” เจ้าเมืองลวี่เจากล่าว

ฝูซิ่นฮวาก้มลงมองแผนที่ ลากสายตาไปตามเส้นทางเมืองลวี่เจาและเมืองหวงเจา พลางพรมนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด

“เสบียงนี้หากชิงกลับมาได้ก็ให้ชิงกลับมา แต่หากแม้ไม่สามารถเอากลับมาได้ก็ต้องทำลายเสีย เพื่อมิให้เสบียงของเรากลายเป็นกำลังให้ทัพต้าเจา”

“ขอรับ”

“เป็นแม่ทัพฝูขอรับ”

“ฝูซิ่นเล่อหรือ” องค์ชายรองครุ่นคิด “การที่ฝูซิ่นเล่อนำทัพมาด้วยตัวเองเช่นนี้ คงหมายจะชิงเสบียงคืนเป็นแน่”

“เจ้าจงนำกำลังพลหนึ่งหมื่นไปรับมือกับฝูซิ่นเล่อที่ด้านหลังเมือง” ผู้เป็นพี่สั่งการ

“ทหารเพียงหนึ่งหมื่นจะพอหรือขอรับ” นายทหารผู้หนึ่งเอ่ยถามขึ้น “ฝูซิ่นเล่อนำกองทัพบุกมาถึงถิ่นแบบนี้ ย่อมต้องนำกำลังพลมาไม่ต่ำกว่าห้าหมื่น ทหารหนึ่งหมื่นจะต้านได้อย่างไร”

“ข้าเพียงต้องการให้พวกเจ้าถ่วงเวลาฝูซิ่นเล่อไว้ ระหว่างที่ข้าตัดแขนตัดขาของพวกมัน!”

“แสดงว่าเสด็จพี่กำลังคิดเช่นเดียวกับข้า” เสวียนชิงลุกขึ้นยืน มุมปากเหยียดยิ้มร้ายกาจไม่ต่างไปจากฝูซิ่นฮวา

ความจริงแล้วเสวียนชิวและเสวียนชิงก็เหมือนฝูซิ่นฮวากับฝูซิ่นเล่อ เมื่อคนพี่คิด คนน้องก็ตามทันความคิดของคนพี่ โดยที่ผู้เป็นพี่ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายให้มากความ

“ระวังตัวด้วย”

“เสด็จพี่อย่าได้ห่วง ข้าจะถ่วงเวลาฝูซิ่นเล่อไว้ให้นานที่สุด” เสวียนชิงคารวะพี่ชายของตน แล้วจึงเดินออกจากกระโจมไปอย่างไม่รีรอ

“เรียกรวมพล” เสวียนชิวสั่งการกับนายทหาร “ข้าจะบุกหลันเจาไปทักทายฝูซิ่นฮวา!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ