แม่ทัพที่เพิ่งนำทัพออกศึกจนได้รับชัยชนะกำลังนั่งเปลือยแผงอกท่อนบน ขณะนั่งเช็ดบาดแผลให้ตนเองเงียบ ๆ อยู่ในกระโจมที่หมอกำลังรักษาทหารที่บาดเจ็บ
ฝูซิ่นฮวาช่วยหมอดูแลทหารอยู่ในกระโจม เมื่อหญิงสาวหันมาเห็นจินเกาหยางนั่งเช็ดแผลให้ตนเองตามลำพัง คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากัน
“ท่านแม่ทัพมานั่งทำอะไรตรงนี้ แล้วเหตุใดจึงไม่มีหมอมาช่วยท่านทำแผลสักคน” ฝูซิ่นฮวาถามขณะมองหาหมอ “หมอ! มาดูแผลให้ท่านแม่ทัพหน่อย”
“ซิ่นฮวา” จินเกาหยางเรียกขณะจับมือนางเบา ๆ “แผลข้าไม่ได้ลึกมาก ให้หมอไปดูคนที่เจ็บหนักกว่าข้าก่อนเถิด”
“แต่...”
“ข้าไม่เป็นอะไรจริง ๆ แต่ถ้าเจ้าจะเมตตาก็ช่วยข้าเช็ดแผลสักหน่อย เจ้าน่าจะมือเบากว่าข้า”
ฝูซิ่นฮวาถอนหายใจเล็กน้อย แล้วจึงลงนั่งข้างจินเกาหยาง พร้อมทั้งรับผ้าขาวมาจากมือเขา หญิงสาวใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด บรรจงเช็ดแผลให้ชายหนุ่ม ปากก็คอยถามเขาอยู่ตลอดเวลาว่าเจ็บหรือไม่ นางเช็ดแรงเกินไปหรือเปล่า จินเกาหยางลอบยิ้ม ใจจริงก็อยากจะแกล้งทำเป็นเจ็บหนักให้นางสงสาร ทว่ากลับทำไม่ได้ เหตุเพราะมีสายตาของเหล่าทหารนับร้อยคู่กำลังมองมา
ช่างน่าหน่ายใจนัก เป็นแม่ทัพ อ่อนแอต่อหน้าสตรีได้ แต่จะอ่อนแอให้ทหารในกองทัพเห็นไม่ได้ แล้วยามนี้เขาต้องมาอยู่ต่อหน้าสตรีกับทหารใต้บังคับบัญชาในคราวเดียวกัน
ไม่ได้การ! เขาอุตส่าห์ยอมเจ็บตัวขนาดนี้แล้ว ต้องกอบโกยจากบาดแผลนี้ให้ได้มากที่สุด!
“ข้าจะกลับไปที่กระโจม” จินเกาหยางพูดหลังจากฝูซิ่นฮวาเช็ดทำความสะอาดบาดแผลให้เขาเสร็จ
“แต่หมอยังไม่ได้มาดูแผลให้ท่านเลยนะเจ้าคะ” ฝูซิ่นฮวาแย้ง
“แผลเล็กน้อย แค่ใส่ยา พันแผลก็เรียบร้อยแล้ว จริงไหมหมอ” จินเกาหยางหันไปถามหมอที่อยู่ใกล้ ๆ
“ขอรับ เดี๋ยวข้าจะจัดยาสำหรับใส่แผล และยาสำหรับกินเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดให้” ผู้เป็นหมอตอบ
“ขอบใจ” จินเกาหยางกล่าว ก่อนจะหันไปหาคนสนิทของตน “มู่จิ่ว เจ้าอยู่รอรับยาจากท่านหมอ แล้วตามกลับไปช่วยข้าทำแผลที่กระโจม”
“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” มู่จิ่วประสานมือรับคำ
จินเกาหยางทำทีเดินออกจากกระโจมโดยไม่สนใจฝูซิ่นฮวา เขาเห็นสายตาของกุนซือสาวก็รู้ดีว่านางเป็นห่วงเขา ย่อมไม่มีทางปล่อยเขาไปทำแผลตามลำพังแน่
“ท่านแม่ทัพ” เสียงฝูซิ่นฮวาเรียกมาจากด้านหลัง
เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ
จินเกาหยางยิ้มร้าย ก่อนจะหันกลับไปหาฝูซิ่นฮวาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“มีอะไรหรือ?” เขาแสร้งถาม
“ข้าจะไปช่วยท่านทำแผล” ฝูซิ่นฮวาตอบ
มู่จิ่วที่ถือยาและอุปกรณ์ทำแผลก้มหน้ายิ้ม เขาอยู่รับใช้จินเกาหยางมาตั้งแต่เด็ก มีหรือจะไม่รู้ว่าภายใต้สีหน้าท่าทางเช่นนั้น จินเกาหยางแอบซ่อนสิ่งใดไว้
“ไม่เป็นไร ข้าให้มู่จิ่วทำก็ได้” จินเกาหยางตอบโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ในน้ำเสียง
“ข้าช่วยหมอดูแลทหารในค่ายอยู่เป็นประจำ พอจะทำแผลเป็นอยู่บ้าง ให้ข้าช่วยเถิด”
จินเกาหยางนิ่งไปเล็กน้อย ทำทีเป็นครุ่นคิดราวกับเกรงใจ
“ให้ข้าช่วยเถอะเจ้าค่ะ” ฝูซิ่นฮวาพูดซ้ำ
“เช่นนั้นก็รบกวนเจ้าแล้ว” จินเกาหยางค้อมศีรษะให้นางน้อย ๆ ก่อนจะเดินนำกลับไปยังกระโจมของตน ที่อยู่ติดกับกระโจมของฝูซิ่นฮวา
เมื่อเดินเข้ามานั่งในกระโจม มู่จิ่วก็รีบวางขวดยาและอุปกรณ์ทำแผลลงบนโต๊ะ ก่อนหันมายิ้มน้อย ๆ ให้แม่ทัพและกุนซือสาว
“กระหม่อมจะไปต้มยาให้ท่านอ๋อง” มู่จิ่วกล่าวก่อนจะรีบออกจากกระโจมไปอย่างรู้หน้าที่ แต่กลับลืมหยิบยาที่อ้างว่าจะนำไปต้มออกไปด้วย ฝูซิ่นฮวาเห็นมู่จิ่วลืมก็ตะโกนเรียก แต่เด็กหนุ่มกลับไม่สนใจ รีบวิ่งออกจากกระโจมไปเสียอย่างนั้น
“อย่าเพิ่งเลย” จินเกาหยางพูดเสียงนุ่ม ขยับศีรษะเข้ามาใกล้ฝูซิ่นฮวาแล้วกระซิบเบา ๆ ข้างใบหูขาวสะอาดของนาง “อยู่ต่ออีกสักนิดเถิด”
ฝูซิ่นฮวารู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า นางมองจินเกาหยางราวกับพยายามจะอ่านเขาให้ออก ในขณะที่จินเกาหยางเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้นางมากขึ้นทุกที...ทุกที...
“ท่านแม่ทัพ” ฝูซิ่นฮวาขยับกายหนีพลางเบือนหน้าไปทางอื่น นางกำลังใจเต้นแรงที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้เคยรู้สึกมา จนกลัวว่าจินเกาหยางอาจจะได้ยิน
“เจ้าใจเต้นแรง” จินเกาหยางพูดเบา ๆ ราวกับได้ยินจริง ๆ
“ข้า...” ฝูซิ่นฮวาอ้ำอึ้ง
ในที่สุดนางก็ตัดสินใจกระชากมือกลับ จินเกาหยางแสร้งทำเป็นขยับกายตามแรงกระชากของหญิงสาว แล้วส่งเสียงร้องออกมา
“โอ๊ย!”
“ท่านแม่ทัพ!” ฝูซิ่นฮวาลนลานเข้ามาประคองเขาไว้จนร่างกายแนบชิดกัน
เป็นครั้งแรกที่จินเกาหยางมีโอกาสได้แนบชิดกับฝูซิ่นฮวา ร่างของนางนุ่มนิ่มเสียจนเขาอยากจะฉวยโอกาสโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน แต่ต้องยับยั้งชั่งใจ เพราะคิดได้ว่าหากทำเช่นนั้น ก็เท่ากับทรยศต่อความไว้วางใจของนาง และยังอาจทำให้นางจับได้ว่าแท้จริงแล้วเขามิได้เจ็บแผลสักเท่าไหร่
“ข้าขอโทษ เจ็บมากไหมเจ้าคะ” หญิงสาวถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร” เขาตอบเสียงค่อย แสร้งทำสีหน้าเจ็บปวด
“ท่านต้องดื่มยา มิฉะนั้นจะยิ่งปวด” ฝูซิ่นฮวาหันไปมองห่อยาบนโต๊ะ “ข้าจะไปต้มยาให้ ท่านรออยู่ที่นี่ อย่าขยับตัวมาก แล้วข้าจะรีบมา”
ครั้งนี้ฝูซิ่นฮวาไม่รอให้จินเกาหยางได้คัดค้าน นางรีบวิ่งออกจากกระโจมเพื่อไปต้มยาให้เขา ทันทีที่ร่างของนางวิ่งพ้นกระโจมไป จินเกาหยางก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ
นับว่าบาดแผลที่ได้มานี้ช่างคุ้มค่ายิ่งนัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ