เหมยฮวาบัญชาการ นิยาย บท 84

จินเกาหยางเหลือบไปเห็นฝูซิ่นฮวากำลังควบม้ามาหาตน ผ้าคลุมที่เคยเป็นสีเงินยามนี้แดงฉานด้วยโลหิตของนาง บ่งบอกให้รู้ว่าฝูซิ่นฮวาบาดเจ็บมากเพียงใด ชายหนุ่มไม่รอช้า รีบงัดทวนเสวียนชิวจนหลุดจากมือแล้วควบม้าทะยานไปหาชายาของตน

“เหมยเหมย! เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” จินเกาหยางถามอย่างร้อนรน

“ข้าไม่เป็นอะไร ท่านพี่ล่ะเจ้าคะ”

“ข้าปลอดภัยดี” จินเกาหยางเอื้อมมือไปที่ไหล่ด้านหลังของฝูซิ่นฮวาที่ยังมีหัวธนูฝังอยู่ แล้วเขาก็ชะงักมือกลับ ไม่กล้าที่จะสัมผัส ด้วยกลัวว่าอาจทำให้นางต้องเจ็บ

“เจ้าต้องออกไปจากที่นี่” จินเกาหยางกล่าว ใบหน้าของฝูซิ่นฮวาซีดเซียวลงจนน่าหวั่นใจ หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างไม่ดื้อดึง เพราะแจ้งแก่ใจดีว่า ยามนี้หากตนยังดันทุรังอยู่ต่อก็รังแต่จะเป็นภาระให้ผู้อื่น

“จินเกาหยาง!” เสวียนชิวตามจินเกาหยางมาจนได้ ผู้ถูกเรียกถอนหายใจอย่างรำคาญใจยิ่งนัก

เหตุใดพวกสกุลเสวียนจึงน่ารำคาญเช่นนี้!

“ยังไม่รีบตามกองทัพเจ้าไปอีกหรือ ป่านนี้วิ่งหนีออกนอกแคว้นไปแล้วกระมัง” จินเกาหยางว่า

“ระหว่างเจ้ากับข้ายังไม่รู้แพ้รู้ชนะ!”

“เช่นนั้นเจ้ามีวิชาอะไรจะมาสู้กับข้า บอกไว้ก่อนว่าข้าเบื่อวิชาทวนไม่เอาไหนของเจ้าเต็มทีแล้ว”

“เช่นนั้นก็มาสู้กันด้วยกระบี่!”

“ย่อมได้” จินเกาหยางชักกระบี่ออกมาก่อนจะหันไปหาฝูซิ่นฮวา “เจ้ากลับไปที่ค่ายก่อน”

“ขอข้าอยู่ดูก่อนสักนิดเถิดท่านพี่ ท่านชนะเมื่อใด ข้าจะรีบกลับไปทันที”

“เช่นนั้นข้าจะรีบทำให้มันจบโดยไว” จินเกาหยางลูบศีรษะฝูซิ่นฮวา ก่อนหันไปหาองครักษ์ของนาง “คุ้มกันพระชายา”

“พ่ะย่ะค่ะ/เพคะท่านอ๋อง!”

จินเกาหยางและทหารองครักษ์ลงจากหลังม้า ตรงเข้าหาเสวียนชิวที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาพร้อมทหารองครักษ์ของตน ต่างฝ่ายต่างไม่รีรอ ตีรันฟันแทงกันอย่างหนักหน่วง โลหิตในกายพลุ่งพล่านหมายเอาชีวิตของกันและกัน

เจ้านายสู้กับเจ้านาย องครักษ์สู้กับองครักษ์ เหตุการณ์ดูชุลมุนวุ่นวายไปหมด ฝูซิ่นฮวานั่งอยู่บนหลังม้าจึงมองเห็นการต่อสู้ของจินเกาหยางและเสวียนชิวได้อย่างชัดเจน

เสวียนชิวหมุนกระบี่เป็นเกลียวเข้าใส่จินเกาหยาง วิชากระบี่ของเขาเป็นวิชาเก่าแก่ ชื่อวิชาเกลียวกระบี่พันเล่ม บิดาของฝูซิ่นฮวาเคยเล่าว่า คนรู้วิชาโบราณนี้มีอยู่ไม่มาก เพราะตำราหายสาบสูญไปตามกาลเวลา แต่สกุลฝูมีอยู่เล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นของที่ได้รับตกทอดมาจากต้นตระกูล และได้รับการคัดลอกใหม่อยู่เรื่อย ๆ เพื่อป้องกันการเสื่อมสลาย

แน่นอนว่าวิชาน่าสนใจเช่นนี้ ฝูซิ่นฮวาย่อมจดจำได้ขึ้นใจ

จินเกาหยางวรยุทธ์สูงส่ง สามารถรับมือกับเสวียนชิวได้ ทั้งที่เขาดูเหมือนจะไม่รู้จักวิชาเกลียวกระบี่พันเล่มนี้ด้วยซ้ำ หากเป็นผู้อื่นคงโดนเกลียวกระบี่ฟันนับแผลไม่ถ้วนไปแล้ว แต่จินเกาหยางกลับยังคงรับมือได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังพยายามหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายเพื่อโจมตี

แต่ฝูซิ่นฮวาคร้านจะรอต่อไปแล้ว

“เบี่ยงหลบทางขวาแล้วฟันที่ปลายกระบี่ จะสามารถหยุดเกลียวกระบี่ได้!” ฝูซิ่นฮวาตะโกนลั่น

จินเกาหยางได้ยินเช่นนั้นก็เบี่ยงกายหลบไปทางขวา ทำให้สามารถหลบเกลียวกระบี่ของเสวียนชิวได้ รัชทายาทแห่งต้าเจาตื่นตะลึง ด้วยนึกไม่ถึงว่าฝูซิ่นฮวาจะรู้จุดอ่อนวิชาของเขา

จินเกาหยางฟาดกระบี่ลงบนปลายกระบี่ของเสวียนชิวอย่างรวดเร็ว จนอีกฝ่ายเสียจังหวะ ถูกเกลียวกระบี่ของตนเล่นงานจนกายหมุนคว้าง ก่อนตกลงกระแทกพื้น ทว่าเขาล้มเพียงไม่นานก็สามารถพลิกกายกลับมาต่อสู้ได้ใหม่

“สกัดพลังจากเท้าขวา! โจมตีอกข้างซ้าย! ใช้ปลายกระบี่ดึงกระบี่จากมือของเสวียนชิว!”

จินเกาหยางทำตามทุกขั้นตอนที่ฝูซิ่นฮวาสั่ง ยามนี้เสวียนชิวทั้งล้มทั้งถูกฝ่ามือของจินเกาหยางทำลายพลังปราณที่อกซ้าย แล้วยังถูกดึงกระบี่หลุดจากมือ ร่างสูงล้มลงกระแทกพื้นดิน ใบหน้าโกรธแค้นเงยขึ้นมองฝูซิ่นฮวาที่บัญชาการต่อสู้ของสามีอยู่บนหลังม้าด้วยสายตาชิงชัง ก่อนพยายามลุกขึ้นแล้วหันมาเอ่ยวาจายั่วยุจินเกาหยาง

“เว่ยหยางอ๋อง! หากเจ้ายังหลงเหลือความเป็นชายชาติทหารอยู่บ้าง จงออกมาจากใต้กระโปรงของสตรี เลิกฟังคำของนางแล้วสู้กันให้สมศักดิ์ศรีเถอะ!”

“บุรุษควรอยู่เหนือสตรี แต่เจ้ากลับปล่อยให้สตรีอยู่เหนือตน คอยควบคุมและบงการทุกสิ่ง เช่นนี้แล้วจะไม่เรียกว่าเสียศักดิ์ศรีได้เช่นไร”

“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” จินเกาหยางส่ายหน้า “ฝูซิ่นฮวาหาได้ควบคุมและบงการข้าไปเสียทุกสิ่ง นางเพียงบอกว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดมิควรทำ ส่วนข้าจะทำตามหรือไม่นั้น นางไม่เคยก้าวก่าย”

“เป็นเพียงสตรี แต่กลับสอดมือมายุ่งเรื่องของบุรุษ นั่นก็เท่ากับหยามเกียรติของสามีแล้ว”

“ที่เจ้าพูดเช่นนี้เพราะเจ้ายังไม่เคยรักใคร และไม่เคยมีใครรักเจ้า”

เสวียนชิวถึงกับนิ่งไป ขณะมองจินเกาหยางที่มองเขาตอบด้วยสายตาที่ดูคล้ายกำลังเวทนา

“ฝูซิ่นฮวาชายาของข้า นางรักข้ายิ่งกว่าผู้ใด ทุกสิ่งที่นางบอกข้า ล้วนเป็นสิ่งที่นางบอกด้วยความหวังดี และที่ข้าทำตามนาง ก็เพราะเชื่อมั่นว่านางไม่มีวันบอกให้ข้าทำในสิ่งที่ตัวข้าจะต้องเดือดร้อน”

“...”

“ที่ข้าบอกว่ากลัวนาง หาใช่กลัวว่านางจะทำร้ายทุบตีข้า แต่ข้ากลัวความรู้สึกของนาง กลัวว่าจะทำให้นางต้องผิดหวัง กลัวว่าจะทำให้นางต้องเสียใจ หรือแม้กระทั่งกลัวว่าจะทำให้นางโกรธ”

พูดมาถึงตรงนี้ มุมปากของจินเกาหยางก็ยกยิ้มขึ้นน้อย ๆ ยามเมื่อพูดถึงฝูซิ่นฮวา แววตาของเขาอ่อนโยนยิ่งนัก

“สิ่งเหล่านี้คือความรัก น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีโอกาสได้รู้จักกับมัน”

ทันทีที่พูดจบ จินเกาหยางก็ควบม้าจากไป ทิ้งให้เสวียนชิวที่ถูกมัดมองตามเขาไปอย่างไม่เข้าใจ และไม่มีวันที่จะเข้าใจ

เพราะเสวียนชิวไม่เคยมีความรักดังเช่นที่จินเกาหยางกล่าว

รัชทายาทแห่งต้าเจาหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังหัวเราะเยาะจินเกาหยางที่กล้ายอมรับว่าตนกลัวภรรยา หรือกำลังหัวเราะเยาะตัวเองที่พ่ายแพ้ความรักของบุคคลทั้งสองที่เพิ่งจากไป หรือหัวเราะที่ตนกำลังจะต้องตาย ทั้งที่ยังไม่มีโอกาสได้รู้ด้วยซ้ำว่า ความรักที่แท้จริงดังเช่นที่จินเกาหยางและฝูซิ่นฮวามีให้กันและกันนั้นเป็นเช่นไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ