จินเกาหยางเหลือบไปเห็นฝูซิ่นฮวากำลังควบม้ามาหาตน ผ้าคลุมที่เคยเป็นสีเงินยามนี้แดงฉานด้วยโลหิตของนาง บ่งบอกให้รู้ว่าฝูซิ่นฮวาบาดเจ็บมากเพียงใด ชายหนุ่มไม่รอช้า รีบงัดทวนเสวียนชิวจนหลุดจากมือแล้วควบม้าทะยานไปหาชายาของตน
“เหมยเหมย! เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” จินเกาหยางถามอย่างร้อนรน
“ข้าไม่เป็นอะไร ท่านพี่ล่ะเจ้าคะ”
“ข้าปลอดภัยดี” จินเกาหยางเอื้อมมือไปที่ไหล่ด้านหลังของฝูซิ่นฮวาที่ยังมีหัวธนูฝังอยู่ แล้วเขาก็ชะงักมือกลับ ไม่กล้าที่จะสัมผัส ด้วยกลัวว่าอาจทำให้นางต้องเจ็บ
“เจ้าต้องออกไปจากที่นี่” จินเกาหยางกล่าว ใบหน้าของฝูซิ่นฮวาซีดเซียวลงจนน่าหวั่นใจ หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างไม่ดื้อดึง เพราะแจ้งแก่ใจดีว่า ยามนี้หากตนยังดันทุรังอยู่ต่อก็รังแต่จะเป็นภาระให้ผู้อื่น
“จินเกาหยาง!” เสวียนชิวตามจินเกาหยางมาจนได้ ผู้ถูกเรียกถอนหายใจอย่างรำคาญใจยิ่งนัก
เหตุใดพวกสกุลเสวียนจึงน่ารำคาญเช่นนี้!
“ยังไม่รีบตามกองทัพเจ้าไปอีกหรือ ป่านนี้วิ่งหนีออกนอกแคว้นไปแล้วกระมัง” จินเกาหยางว่า
“ระหว่างเจ้ากับข้ายังไม่รู้แพ้รู้ชนะ!”
“เช่นนั้นเจ้ามีวิชาอะไรจะมาสู้กับข้า บอกไว้ก่อนว่าข้าเบื่อวิชาทวนไม่เอาไหนของเจ้าเต็มทีแล้ว”
“เช่นนั้นก็มาสู้กันด้วยกระบี่!”
“ย่อมได้” จินเกาหยางชักกระบี่ออกมาก่อนจะหันไปหาฝูซิ่นฮวา “เจ้ากลับไปที่ค่ายก่อน”
“ขอข้าอยู่ดูก่อนสักนิดเถิดท่านพี่ ท่านชนะเมื่อใด ข้าจะรีบกลับไปทันที”
“เช่นนั้นข้าจะรีบทำให้มันจบโดยไว” จินเกาหยางลูบศีรษะฝูซิ่นฮวา ก่อนหันไปหาองครักษ์ของนาง “คุ้มกันพระชายา”
“พ่ะย่ะค่ะ/เพคะท่านอ๋อง!”
จินเกาหยางและทหารองครักษ์ลงจากหลังม้า ตรงเข้าหาเสวียนชิวที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาพร้อมทหารองครักษ์ของตน ต่างฝ่ายต่างไม่รีรอ ตีรันฟันแทงกันอย่างหนักหน่วง โลหิตในกายพลุ่งพล่านหมายเอาชีวิตของกันและกัน
เจ้านายสู้กับเจ้านาย องครักษ์สู้กับองครักษ์ เหตุการณ์ดูชุลมุนวุ่นวายไปหมด ฝูซิ่นฮวานั่งอยู่บนหลังม้าจึงมองเห็นการต่อสู้ของจินเกาหยางและเสวียนชิวได้อย่างชัดเจน
เสวียนชิวหมุนกระบี่เป็นเกลียวเข้าใส่จินเกาหยาง วิชากระบี่ของเขาเป็นวิชาเก่าแก่ ชื่อวิชาเกลียวกระบี่พันเล่ม บิดาของฝูซิ่นฮวาเคยเล่าว่า คนรู้วิชาโบราณนี้มีอยู่ไม่มาก เพราะตำราหายสาบสูญไปตามกาลเวลา แต่สกุลฝูมีอยู่เล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นของที่ได้รับตกทอดมาจากต้นตระกูล และได้รับการคัดลอกใหม่อยู่เรื่อย ๆ เพื่อป้องกันการเสื่อมสลาย
แน่นอนว่าวิชาน่าสนใจเช่นนี้ ฝูซิ่นฮวาย่อมจดจำได้ขึ้นใจ
จินเกาหยางวรยุทธ์สูงส่ง สามารถรับมือกับเสวียนชิวได้ ทั้งที่เขาดูเหมือนจะไม่รู้จักวิชาเกลียวกระบี่พันเล่มนี้ด้วยซ้ำ หากเป็นผู้อื่นคงโดนเกลียวกระบี่ฟันนับแผลไม่ถ้วนไปแล้ว แต่จินเกาหยางกลับยังคงรับมือได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังพยายามหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายเพื่อโจมตี
แต่ฝูซิ่นฮวาคร้านจะรอต่อไปแล้ว
“เบี่ยงหลบทางขวาแล้วฟันที่ปลายกระบี่ จะสามารถหยุดเกลียวกระบี่ได้!” ฝูซิ่นฮวาตะโกนลั่น
จินเกาหยางได้ยินเช่นนั้นก็เบี่ยงกายหลบไปทางขวา ทำให้สามารถหลบเกลียวกระบี่ของเสวียนชิวได้ รัชทายาทแห่งต้าเจาตื่นตะลึง ด้วยนึกไม่ถึงว่าฝูซิ่นฮวาจะรู้จุดอ่อนวิชาของเขา
จินเกาหยางฟาดกระบี่ลงบนปลายกระบี่ของเสวียนชิวอย่างรวดเร็ว จนอีกฝ่ายเสียจังหวะ ถูกเกลียวกระบี่ของตนเล่นงานจนกายหมุนคว้าง ก่อนตกลงกระแทกพื้น ทว่าเขาล้มเพียงไม่นานก็สามารถพลิกกายกลับมาต่อสู้ได้ใหม่
“สกัดพลังจากเท้าขวา! โจมตีอกข้างซ้าย! ใช้ปลายกระบี่ดึงกระบี่จากมือของเสวียนชิว!”
จินเกาหยางทำตามทุกขั้นตอนที่ฝูซิ่นฮวาสั่ง ยามนี้เสวียนชิวทั้งล้มทั้งถูกฝ่ามือของจินเกาหยางทำลายพลังปราณที่อกซ้าย แล้วยังถูกดึงกระบี่หลุดจากมือ ร่างสูงล้มลงกระแทกพื้นดิน ใบหน้าโกรธแค้นเงยขึ้นมองฝูซิ่นฮวาที่บัญชาการต่อสู้ของสามีอยู่บนหลังม้าด้วยสายตาชิงชัง ก่อนพยายามลุกขึ้นแล้วหันมาเอ่ยวาจายั่วยุจินเกาหยาง
“เว่ยหยางอ๋อง! หากเจ้ายังหลงเหลือความเป็นชายชาติทหารอยู่บ้าง จงออกมาจากใต้กระโปรงของสตรี เลิกฟังคำของนางแล้วสู้กันให้สมศักดิ์ศรีเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ