เหมยฮวาบัญชาการ นิยาย บท 85

ฝูซิ่นเล่อและกองทัพไล่ตามทัพต้าเจามาจนถึงเมืองหลวง ประชาชนต่างพากันแตกตื่นหนีตายอลหม่าน ทว่ากลับไม่มีการเผาทำลายบ้านเมืองหรือทำร้ายประชาชน ฝูซิ่นเล่อมาอย่างนักรบและต่อสู้อย่างนักรบ เขานำทหารเข้าต่อสู้เฉพาะกับทหารต้าเจา โดยมีทหารจากเมืองทั้งสิบหกเข้าต่อสู้ร่วมกับทหารของต้าจิน

เสวียนชิงที่อยู่ในวงล้อมของทหารองครักษ์พยายามเล็งยิงฝูซิ่นเล่อด้วยเกาทัณฑ์ ทว่าฝูซิ่นเล่อกลับใช้ทวนสกัดเกาทัณฑ์ไว้ได้ทุกดอก เพียงระยะเวลาไม่ถึงอึดใจ อาชาร่างสูงใหญ่ของฝูซิ่นเล่อก็กระโจนเข้ามาหาเสวียนชิงและทหารองครักษ์

แม่ทัพใหญ่แห่งทัพไป๋หู่ต่อสู้กับองครักษ์ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนของเสวียนชิง ในขณะที่องค์ชายรองยังไม่ละความพยายามที่จะยิงเขา ระยะเวลาการต่อสู้ระหว่างฝูซิ่นเล่อกับองครักษ์ของเสวียนชิงดำเนินไปไม่ถึงหนึ่งเค่อ องครักษ์ของเสวียนชิงก็ไม่สามารถขวางระหว่างแม่ทัพใหญ่แห่งทัพไป๋หู่กับองค์ชายรองแห่งต้าเจาได้อีกต่อไป ทวนแข็งแกร่งที่นำความตายมาสู่เหล่าทหารองครักษ์ บัดนี้วางพาดอยู่บนบ่าของเสวียนชิง เพียงแค่ฝูซิ่นเล่อสะบัดข้อมือ ศีรษะขององค์ชายรองผู้นี้ก็จะหลุดออกจากร่างทันที

ทุกการเคลื่อนไหวในต้าเจาหยุดนิ่ง ทหารสองฝ่ายตรึงกำลังอยู่คนละฟาก ระยะห่างเพียงไม่กี่จั้ง

ระหว่างช่องว่างนั้นเองที่องค์ชายรองพ่ายแพ้แก่แม่ทัพแห่งทัพไป๋หู่

ขณะที่ฝูซิ่นเล่อมองสบตาเสวียนชิง ทหารต้าจินก็มองศัตรูด้วยแววตาของผู้มีชัย ในขณะที่ทหารต้าเจามีแววหวาดกลัวฉายชัดในดวงตา ทั้งหมดต่างมองไปรอบ ๆ รู้แน่ชัดแล้วว่าตนไม่สามารถเอาชนะต้าจินได้ ฝืนสู้ต่อไปก็มีแต่จะต้องเสียเลือดเนื้อโดยเปล่า เพราะไม่ว่าจะมองไปทางทิศใดก็ล้วนเห็นแต่ความพ่ายแพ้

ในที่สุดพลทหารฝ่ายต้าเจาคนหนึ่งก็ทิ้งดาบลงบนพื้น ตามด้วยคนต่อ ๆ มาที่ทยอยกันทิ้งดาบอย่างยอมจำนน เสียงโลหะกระทบพื้นถนนดังทั่วบริเวณ แววตาของเสวียนชิงดูสิ้นหวังเป็นครั้งแรกขณะที่ทหารของฝูซิ่นเล่อเข้ามาจับตัวเขาลงจากหลังม้า

“มันจบแล้ว” ฝูซิ่นเล่อพูดเสียงเรียบ ก่อนหันไปหาทหารของตนพร้อมชูทวนขึ้น

ทหารฝ่ายต้าจินส่งเสียงโห่ร้องดังก้องให้แก่ชัยชนะ ตลอดหลายเดือนที่ต่อสู้กันมา ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับชัยชนะเสียที

ฝูซิ่นเล่อนำทหารโอบล้อมพระราชวังต้าเจา เพื่อควบคุมตัวฮ่องเต้และเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ไว้ได้ทัน ก่อนที่จะหลบหนีออกจากพระราชวังไปได้

ไม่นานนักองครักษ์ของจินเกาหยางก็นำตัวเสวียนชิวที่บาดเจ็บสาหัสเข้ามาในท้องพระโรงแห่งต้าเจา สกุลเสวียนจึงได้รู้ซึ้งถึงความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง ยามนี้อย่าว่าแต่บ้านเมือง เกรงว่าแม้แต่ชีวิตก็คงรักษาไว้ไม่ได้อีกต่อไป

“พวกเจ้าได้ละเมิดสัญญาการเชื่อมสัมพันธไมตรีโดยการก่อสงครามขึ้น เป็นเหตุแห่งความสูญเสียที่มิอาจประเมินได้ ข้าฮฝูซิ่นเล่อ แม่ทัพใหญ่แห่งทัพไป๋หู่ รับราชโองการจากองค์จักรพรรดิแห่งต้าจินมาปราบศัตรูที่คิดทำลายแคว้นของเรา ในนามแห่งองค์จักรพรรดิ ข้าขอตัดสินโทษประหารเก้าชั่วโคตรแก่ราชวงศ์เสวียน!”

เกิดเสียงร่ำไห้จากบรรดาพระสนมทั้งหลายดังระงมไปทั่วท้องพระโรง มีเพียงสนมหลัว ซินเอ๋อร์ และองค์หญิงซวงเอ๋อร์เท่านั้นที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ และมีเพียงทั้งสามคนที่รอดพ้นจากโทษประหารเก้าชั่วโคตร

ฝ่ายราษฎรทั้งหลายแห่งต้าเจานั้นกลับไม่รู้ว่าตนควรรู้สึกเช่นไรในยามนี้ ทั้งที่เป็นฝ่ายแพ้สงคราม ฮ่องเต้และเชื้อพระวงศ์ทั้งหมดถูกประหารพร้อมตัดหัวเสียบประจานอยู่หน้าเมือง แต่พวกเขากลับรู้สึกราวกับได้ชีวิตใหม่ที่รอดพ้นจากเงื้อมมือทรราช

เจ้าเมืองทั้งสิบหกแห่งต้าเจา นำโดยเจ้าเมืองจินเจา ได้นำทหารของตนเข้าปลอบขวัญประชาชนให้มิต้องหวั่นเกรงต่อทหารต้าจิน ประชาชนทั้งหลายต่างออกจากบ้าน ร่วมพูดคุยกับทหารฝ่ายของตนที่เลือกต่อสู้เคียงข้างทหารทัพไป๋หู่

ฝูซิ่นเล่อออกมาประกาศต่อประชาชนว่า นอกจากราชวงศ์เสวียนแล้ว จะมิมีผู้ใดถูกทำร้ายด้วยน้ำมือของทหารต้าจินอีก แม้กระทั่งทหารของทัพต้าเจาที่เคยรบราฆ่าฟันกันมาก็ตาม

“ดูเหมือนที่นี่จะขาดแคลนทุกสิ่ง” ฝูซิ่นเล่อพูดกับเจ้าเมืองจินเจา

ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรืออย่างไรที่เจ้าเมืองผู้นี้ใช้แซ่หลัว เช่นเดียวกับฮูหยินผู้เฒ่าผู้เป็นย่าของเขา ฝูซิ่นเล่อจึงให้ความเกรงใจเจ้าเมืองจินเจาผู้นี้เป็นพิเศษ

“ยามสงคราม อดีตฮ่องเต้ขูดรีดภาษีทุกสิ่งจากประชาชน ข้าวที่ปลูก สัตว์ที่เลี้ยงไว้ ผ้าที่ทอได้ ล้วนต้องส่งเข้ากองทัพจนหมดสิ้น คำว่าขาดแคลนยังน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเขาได้รับ” เจ้าเมืองจินเจาตอบอย่างเวทนา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ