เหมยฮวาบัญชาการ นิยาย บท 87

หลังชนะสงครามได้ราวสิบห้าวัน ฝูซิ่นเล่อก็เป็นผู้เดินทางล่วงหน้ากลับไปยังเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าเจาก่อน เหตุเพราะฝูซิ่นฮวายังมิอาจเดินทางได้ เพียงไม่นานนักก็มีราชโองการจากจินหยางหลงประกาศให้ต้าเจาเป็นส่วนหนึ่งของต้าจิน และแต่งตั้งเจ้าเมืองจินเจาขึ้นเป็นอ๋องปกครองต้าเจา ราชทินนาม ‘หนิงอันอ๋อง’ ในฐานะที่เจ้าเมืองจินเจาเป็นผู้นำที่ต้องการต่อสู้เพื่อให้เกิดความสงบสุขในต้าเจา

ส่วนฝูซิ่นฮวาได้เลื่อนขั้นจากโหวหญิงเป็นกั๋วกงหญิงคนแรกของต้าจิน หญิงสาวได้แต่เอ่ยถ้อยคำสรรเสริญฮ่องเต้ด้วยท่าทีอ่อนแรงยามรับราชโองการ ทำไม่ได้แม้กระทั่งนั่งคุกเข่ารับราชโองการ แต่กระนั้นก็หามีผู้ใดกล้าเอาความกับนาง เพราะฮ่องเต้กำชับมาด้วยพระองค์เองว่า ห้ามมิให้ฝูซิ่นฮวาทำสิ่งใดที่จะกระทบกระเทือนหลานคนแรกของพระองค์เป็นอันขาด

ส่วนประชาชนต้าเจานั้น จินหยางหลงให้งดเก็บภาษีสามปี พร้อมพระราชทานเครื่องนุ่งห่ม ยา และอาหารมาให้ สร้างความปีติยินดีแก่เหล่าราษฎร จนทั่วหล้าล้วนสรรเสริญในพระเมตตาของเจ้าเหนือหัวองค์ใหม่ของตน

ฝูซิ่นฮวาย้ายจากค่ายทหารมาอยู่ในพระราชวังต้าเจา โดยมี ‘หลัวฝูหรง’ หรืออดีตพระสนมหลัวผู้เป็นบุตรีของหนิงอันอ๋องคอยดูแล

“ช่างบังเอิญยิ่งนักที่ท่านและบิดาใช้แซ่เดียวกับท่านย่าของข้า” ฝูซิ่นฮวากล่าวหลังดื่มยาหมดถ้วย

ยามนี้นางนอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่ที่เคยเป็นเตียงของฮองเฮามาก่อน แม้ที่นี่มิอาจเรียกได้ว่าหรูหราเท่าพระราชวังต้าจิน แต่ก็อยู่สบายกว่าในค่ายทหาร

“อาจเป็นลิขิตจากสวรรค์ก็ได้เพคะ” หลัวฝูหรงยิ้มละมุน

“คงจะใช่” ฝูซิ่นฮวายิ้มตอบ

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ขอพระชายามองหม่อมฉันเป็นญาติคนหนึ่ง มีอะไรที่ลำบากกายลำบากใจยามอยู่ที่นี่ ขอให้บอกหม่อมฉันโดยไม่ต้องเกรงใจ”

“ได้ หากมีสิ่งใดลำบากกายลำบากใจ ข้าจะบอกท่าน ท่านป้า”

หลัวฝูหรงนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนคลี่ยิ้มออกมาอย่างยินดี ที่ฝูซิ่นฮวาให้เกียรติยกย่องเรียกขานนางดังคนในครอบครัว

“พระชายา ผลไม้เพคะ” เสียงใส ๆ ของซินเอ๋อร์นำมาก่อนตัว

ยามนี้นอกจากฝูซิ่นฮวาจะมีอดีตพระสนมคอยดูแลแล้ว ยังมีอดีตองค์หญิงคอยปรนนิบัติถึงสองคน นั่นก็คือสองพี่น้องซินเอ๋อร์และซวงเอ๋อร์

ซินเอ๋อร์ทำหลายอย่างได้คล่องแคล่ว เพราะเคยสวมบทบาทเป็นสาวใช้ของฝูซิ่นเล่อมาก่อน ในขณะที่ซวงเอ๋อร์ยังเงอะงะ เนื่องด้วยยังมิเคยต้องปรนนิบัติผู้ใด ทว่านางนั้นน่าเอ็นดูยิ่ง พยายามทำทุกอย่างตามพี่สาว ทั้งยังคอยถามฝูซิ่นฮวาอยู่ตลอดเวลาว่านางทำเช่นนั้นดีหรือไม่ ทำเช่นนี้ถูกหรือเปล่า จนฝูซิ่นฮวาเริ่มชมชอบหญิงสาวทั้งสองมากขึ้นทุกที

“คุณหนูทั้งสองช่วยกันดูแลพระชายา จนพวกเราแทบไม่มีอะไรให้ทำแล้วนะเจ้าคะ” ซูจื่อลู่บ่นเบา ๆ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่มีคนมาแย่งหน้าที่ในการปรนนิบัติฝูซิ่นฮวาไป

ซินเอ๋อร์หัวเราะ ก่อนหันมายิ้มให้ซูจื่อลู่และซู่ก้านลู่ที่ยืนหน้างออยู่

“พวกเจ้าจะน้อยใจไปไย ข้ากับน้องทำได้แค่ดูแลพระชายายามที่นางยังอยู่ที่นี่ หากพระชายาเสด็จกลับต้าจินเมื่อใด นางก็เป็นของพวกเจ้าสองคนเหมือนเดิมแล้ว”

ฝูซิ่นฮวาชะงักไปเล็กน้อย เดี๋ยวนี้นางกลายเป็นสิ่งของให้สาวใช้แย่งชิงกันแล้วหรือ?

“เหมยเหมย” จินเกาหยางเดินเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้ม หลัวฝูหรงและคนอื่น ๆ เห็นดังนั้นก็รีบหลีกทางให้เขาเดินมานั่งข้างเตียงที่ฝูซิ่นฮวานอนอยู่ได้สะดวกยิ่งขึ้น

“ข้าไปพูดคุยกับประชาชนมา” จินเกาหยางเล่า

ความที่เขากำลังจะได้เป็นฮ่องเต้ต่อจากพระเชษฐา ฝูซิ่นฮวาจึงอยากให้จินเกาหยางผูกมิตรกับประชาชนที่นี่ไว้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความศรัทธาในตัวเขา เช่นเดียวกับที่ศรัทธาฮ่องเต้จินหยางหลง ต่อไปในภายภาคหน้าจะได้ไม่เสียการปกครอง

“ที่นี่ยังขาดแคลนอยู่มาก แม้ได้รับของพระราชทานแล้วก็ยังไม่เพียงพอ เห็นทีเรากลับต้าจินกันเมื่อใด ข้าคงต้องส่งของมาช่วยเหลือผู้คนที่นี่เพิ่ม” จินเกาหยางกล่าว หลัวฝูหรงและบุตรีได้ยินต่างก็พากันยิ้มด้วยความชื่นชม

“อย่าลืมเรื่องการฟื้นฟูเมืองที่ถูกเผาทำลายด้วยนะเจ้าคะ” ฝูซิ่นฮวาเตือน

“เรื่องสำคัญเช่นนี้ข้าย่อมไม่ลืม” จินเกาหยางตอบ “วันนี้หมอหลวงมาดูอาการให้เจ้าหรือยัง”

“มาแล้วเจ้าค่ะ ท่านป้าฝูหรงให้คนต้มยามาให้ข้าดื่มแล้วด้วย”

“ขอบคุณท่านป้าที่ช่วยดูแลเหมยเหมยแทนข้า” จินเกาหยางเรียกหลัวฝูหรงตามชายาของตน พร้อมค้อมศีรษะให้ท่านป้าที่รีบค้อมศีรษะตอบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ