เหมยฮวาบัญชาการ นิยาย บท 89

ผ่านไปครบหนึ่งเดือนที่จินเกาหยางและฝูซิ่นฮวาเดินทางกลับมายังต้าจิน

จินเกาหยางจัดการภาระหน้าที่ทั้งหลายในเมืองเว่ยหยางจนลุล่วงไปได้ด้วยดี ก่อนเข้ารับการแต่งตั้งเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่นาม ‘ฮ่องเต้หย่งเล่อ’ แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮาย่อมเป็นฝูซิ่นฮวา หญิงสาวในชุดพิธีการเต็มยศที่มีอายุครรภ์ครบเจ็ดเดือนมิอาจคุกเข่าถวายคำนับฮ่องเต้ได้ แต่ผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าอะไรนาง ในเมื่อฮ่องเต้เองยังไม่รับสั่งว่าอะไรสักคำ

ฝูซิ่นฮวาได้รับราชทินนามว่า ‘ฮองเฮาฝูอัน’ อันหมายถึงความสงบสุข นอกจากนั้นก็มิได้มีการแต่งตั้งตำแหน่งนางในใด ๆ เพิ่มอีก ไม่ว่าจะมีขุนนางพยายามทูลขอให้จินเกาหยางรับหญิงงามเข้ามาเป็นสนมมากมายเพียงใด เขาก็มิยอมรับผู้ใดเข้ามาแม้แต่คนเดียว

การเริ่มต้นรัชศกหย่งเล่อทำให้จินเกาหยางเหน็ดเหนื่อยกับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ไม่น้อย เนื่องจากยามนี้แผ่นดินของเขามิได้มีเพียงต้าจิน แต่ยังมีต้าเจารวมอยู่ด้วย เขาต้องเร่งฟื้นฟูเมืองของต้าเจาที่ถูกเผาทำลายและเยียวยาประชาชนทั้งหลาย เรียกได้ว่างานที่เคยทำแทนอดีตฮ่องเต้มีมากเพียงใด ยามนี้ยิ่งมากกว่าเดิมหลายเท่า แต่ก็ยังดีที่เขามีฝูซิ่นฮวาเป็นเพื่อนคู่คิด คอยช่วยเหลือในการตัดสินใจหรือแม้กระทั่งการแก้ปัญหาต่าง ๆ

ในช่วงแรกของการขึ้นเป็นฮ่องเต้ จินเกาหยางยังคงต้องรับมือกับบรรดาอ๋องทั้งหลายที่คิดจะช่วงชิงราชบัลลังก์ไปจากเขา ทว่าพี่น้องทั้งหลายของเขาคงจะลืมคิดไปว่า เขามีฮองเฮาจอมเจ้าเล่ห์อยู่เคียงข้าง ไม่ว่าอุบายใด ๆ ทั้งเขาและฝูซิ่นฮวาล้วนจัดการได้จนหมดสิ้น ขจัดเสี้ยนหนามที่เป็นพิษเป็นภัยออกไปได้ จนไม่เหลือผู้คิดคดทรยศอีกต่อไป

นับว่าเป็นงานที่เหน็ดเหนื่อยไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับฮ่องเต้องค์ใหม่ ในขณะที่อดีตฮ่องเต้อย่างจินหยางหลงกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ในตำหนักฤดูร้อน

ในแต่ละวันจินหยางหลงมักส่งจดหมายมาเยาะเย้ยน้องชายที่ต้องทำงานหนัก ในขณะที่ตนนั่งอ่านหนังสือจิบชาไปวัน ๆ บางทีก็ออกไปเที่ยวนอกตำหนักกับภรรยา สุขสบายทั้งกายและใจ

เรื่องโยนงานให้น้องแล้วตนนั่งมองอย่างสำราญใจ จินหยางหลงทำมาตั้งแต่เด็กจนติดเป็นนิสัยไปเสียแล้ว

“ท่านพี่เขียนจดหมายอันใดไปแกล้งฝ่าบาทอีกเจ้าคะ” สือกุ้ยเฟยที่บัดนี้กลับมาใช้ชื่อสือลี่อินตามเดิม เดินเข้ามาถามจินหยางหลงที่กำลังเขียนหนังสืออยู่

“ข้ากำลังเขียนจดหมายไปเล่าเรื่องที่เราสองคนเพิ่งไปเที่ยวชมภูเขาและบุปผางามมาด้วยกันระหว่างที่เกาหยางกำลังจัดการกับอ๋องเก้า” จินหยางหลงตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มระรื่น

“อ๋องเก้าเป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ ข้าได้ยินว่าเขาคิดเป็นกบฏต่อองค์ฮ่องเต้”

“ชายาและบุตรีถูกส่งไปอยู่ที่อารามแม่ชี บุตรชายถูกเนรเทศไปใช้แรงงานที่ชายแดน ส่วนตัวอ๋องเก้าถูกถอดยศแล้วให้ไปเฝ้าสุสานบรรพชน”

“ไม่น่าเลย”

“ใช่ ไม่น่าคิดลองดีกับคนอย่างจินเกาหยางและฝูซิ่นฮวา” จินหยางหลงกล่าว “ว่าแต่พวกเราเถิด ลี่อิน คราวหน้าจะไปเที่ยวชมที่ใดกันดี” จินหยางหลงกอดเอวภรรยาลงมานั่งบนตัก

“เจ้าจะต้องชอบที่นั่น ภายนอกดูเหมือนกระท่อมธรรมดาที่สร้างจากไม้ไผ่ ทว่าแข็งแรงและมีเครื่องเรือนทุกชนิดพรั่งพร้อม ตอนเช้าตรู่อากาศจะเย็นจัด แต่ยามบ่ายเย็นสบาย ไม่ร้อนไม่หนาว แดดก็ไม่แรงเพราะต้นไผ่สูงใหญ่ช่วยบังแดดไว้ ยิ่งหากมีฝนโปรยปราย กลิ่นไอดินจะหอมเข้ามาถึงในกระท่อมเชียวละ”

“ฟังแล้วน่าอยู่ยิ่งนักเจ้าค่ะ” สือลี่อินนึกภาพตาม

“เช่นนั้นเราย้ายไปอยู่ที่นั่นกันดีหรือไม่” จินหยางหลงถาม “ข้าเคยคิดมานานแล้วว่า หากแก่ตัวลงจะไปอยู่ที่กระท่อมป่าไผ่นั่น”

“ท่านพี่ไปที่ใด ข้าย่อมติดตามท่านไปทุกที” หญิงสาวซบใบหน้าลงบนอกของสามี

“ไม่ว่าข้าจะไปที่ใด ข้าย่อมพาเจ้าติดตามไปด้วย” ผู้เป็นสามีตอบ ขณะกระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นยิ่งขึ้น

ยามนี้ไม่ว่าสิ่งใดล้วนไม่สำคัญต่อทั้งสองเท่ากับการได้อยู่ร่วมกัน และไม่สำคัญว่าจะได้อาศัยอยู่สถานที่แบบไหน มีฐานะเช่นไร ขอเพียงพวกเขามีกันและกัน มีชีวิตที่สงบสุขร่วมกัน ก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตที่เหลืออยู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ