พอนึกถึงเรื่องที่เย่เฉินจัดการอันธพาลที่หวังจื้อเฉียงส่งไปจัดการเขาได้อย่างง่ายดาย คนตระกูลหวังก็เริ่มกังวล
หวังจื้อเฉียงกล่าวต่อ “ทุกท่าน เดียรัจฉานที่ชื่อเย่เฉินมีความสามารถในการต่อยตีอยู่บ้าง ฝีมือเขาไม่ธรรมดาเลย ผมเดาว่าเขาอาจไปหาเศรษฐีในอวิ๋นโจวแล้วสมัครเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว ทุกท่านครับ ใครจะสามารถตัดอาชีพทางนี้ของเขาได้บ้างครับ?”
แล้วทั้งงานก็ตกอยู่ในความเงียบ เศรษฐีในอวิ๋นโจวมีมากจนเกินไป ใครก็ไม่กล้าพูดว่ารู้จักคหบดีทั้งอวิ๋นโจวและยังมีสิทธิ์ห้ามพวกเขา
แต่ในเวลานี้เอง หญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งเงียบอยู่นาน จู่ๆ ก็เปล่งเสียงหัวเราะที่ทรงเสน่ห์เย้ายวนใจออกมา
ทุกคนมองตามที่มาของเสียง พลันเห็นเจ้าของเสียงเป็นหญิงสาวงดงามในชุดสูทสีแดงกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่!
ดูไปแล้วหญิงสาวอายุเพิ่งจะสามสิบต้นๆ แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์สะพรั่งของหญิงสาวเต็มวัย
ผิวพรรณขาวผ่อง ริมฝีปากแดงเซ็กซี่ ชุดกระโปรงสั้นรัดรูป ชวนให้คนคิดไม่ดีด้วย
“โอ้ คุณฉินมาถึงเมื่อไหร่? เสียมารยาทแล้ว ต้องขอโทษด้วย!”
หลังจากที่หวังจื้อเฉียงเห็นหญิงสาวแล้วก็กุลีกุจอเดินไปหาอีกฝ่าย
หม่าเสินมองหญิงสาวผู้นี้อย่างหลงใหล ตบบ่าหวังจื้อเฉียงแล้วกล่าวถาม
“คุณหวัง คนสวยคนนี้คือใครครับ? ช่วยแนะนำหน่อย”
หวังจื้อเฉียงมองหม่าเสินด้วยสายตาเหยียดหยาม หม่าเสินนี่สังคมแคบจริงๆ ด้วย กระทั่งสุภาพสตรีผู้นี้เขาก็ไม่รู้จัก!
หวังจื้อเฉียงจึงกล่าวว่า “สุภาพสตรีท่านนี้ก็คือรองผู้บริหารบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปที่โด่งดัง ฉินหงเหยียน คุณฉิน!”
“อะไร? รองผู้บริหารบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเหรอ?”
พวกหม่าเสินตกใจ พวกเขาต่างก็รู้อิทธิพลของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปในเมืองอวิ๋นโจว
เป็นรองผู้บริหารของบริษัทแห่งนี้ได้ต้องไม่ธรรมดา
ฉินหงเหยียนอายุน้อยแบบนี้แต่เป็นรองผู้บริหารของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปทำให้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าหล่อนได้มีเส้นสายอะไรหรือไม่
จู่ๆ เย่เฉินก็ขมวดคิ้วมุ่นแล้วมองฉินหงเหยียนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วตกใจ “คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนจากบริษัทของเรา”
หวังจื้อเฉียงหัวเราะ “เศรษฐีในอวิ๋นโจวมีมาก เพื่อนของครอบครัวที่เรารู้จักยังมีไม่ถึงสองในสามด้วยซ้ำไป แต่หากมีคนบอกว่าตนเองรู้จักเศรษฐีทั้งอวิ๋นโจวแล้วยังสนิทสนมกับพวกเขาเป็นอย่างดี อย่างนั้นผมเชื่อเลยว่าทั้งเมืองอวิ๋นโจวคงจะมีแค่คุณฉินแค่คนเดียว!”
พอได้ยินคำพูดของหวังจื้อเฉียง หม่าเสินก็รีบเยินยออีกฝ่ายทันที “คุณฉินสวยขนาดนี้ เกรงว่าคงเป็นคนที่เศรษฐีทั้งอวิ๋นโจวอยากจะรู้จักกระมัง!”
ฉินหงเหยียนเลิกคิ้ว “ดูพวกคุณพูดกันเข้าเหมือนว่าฉันกับพวกเศรษฐีในอวิ๋นโจวมีอะไรในกอไผ่กัน”
“ต้องขอโทษด้วยครับผมปากพล่อยเอง”
หม่าเสินรีบก้มหัวเพื่อโค้งขอโทษอีกฝ่าย สายตาจับจ้องไปที่รองเท้าส้นสูงสีแดงของฉินหงเหยียนแล้วอดกลืนน้ำลายไม่ได้
หวังจื้อเฉียงมองฉินหงเหยียน “คุณฉินรบกวนคุณช่วยยื่นมือเข้ามาช่วยตัดทางทำมาหากินของเย่เฉินด้วยเถอะครับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)