ผู้บริหารระดับสูงในบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปถ้าไม่ใช่พวกเห็นแก่ผลประโยชน์ตัวเอง ก็เป็นคนที่แอบชอบฉินหงเหยียน
พวกเขาต่างก็ไม่อนุญาตให้ฉินหงเหยียนทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ พวกเขาจะต้องแยกหล่อนกับเย่เฉินออกจากกันให้ได้
ดังนั้นพวกเขาถึงได้พร้อมใจกันไปฟ้องพ่อบ้านฟาง
ไม่นานนักเย่เฉินที่เพิ่งจะมาเก็บของที่โรงแรมไคว่หมิ่น เตรียมจะย้ายไปพักที่บ้านของแฟนสาว
ก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อบ้านฟาง
เย่เฉินขมวดคิ้วเขาเคยพูดเอาไว้ว่าถึงจะหย่ากับหวังเจียเหยาแล้ว เย่เฉินก็หวังว่าจะมีชีวิตแบบคนธรรมดา
ถ้าไม่มีเรื่องอะไรไม่ต้องรบกวนเขา
ดูไปแล้วพ่อบ้านฟางน่าจะมีเรื่องสำคัญ ถึงได้โทรหาเย่เฉิน
“ทำไมล่ะ?” เย่เฉินรับสาย
พ่อบ้านฟางกล่าวว่า “คุณชายสาม พวกผู้ถือหุ้นของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเมื่อครู่บีบบังคับฉินหงเหยียน ให้หล่อนเลือกว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์กับคุณ หรือจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัท พวกเขายังบอกอีกว่าตอนนี้ฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงของคุณแล้วจริงไหมครับ?”
เย่เฉินพยักหน้า “อืมเพิ่งเกิดเรื่องเมื่อคืนเอง ตอนนี้อย่าเพิ่งบอกคุณปู่ล่ะ”
“ครับคุณชาย”
พ่อบ้านฟางเป็นเพียงแค่ลูกน้องคนหนึ่ง เขาย่อมไม่กล้าถามอะไรมากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเย่เฉินอยู่แล้วแล้วจึงถามต่อ
“งั้นผมควรจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดีครับ? จะให้เข้าข้างฉินหงเหยียนบอกให้พวกผู้ถือหุ้นหุบปากไปไหมครับ?”
เย่เฉินครุ่นคิดว่าถ้าหากว่าพ่อบ้านฟางทำแบบนี้ เช่นนั้นแล้วหลิ่วอวี่เจ๋อก็จะต้องหาเรื่องบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปต่อจนบริษัทล้มละลายแน่
ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว คนจำนวนมากในบริษัทหัวเซิ่งก็จะต้องเสียหายอย่างมากเพราะเรื่องนี้ ฉินหงเหยียนเองก็จะซวยตามไปด้วยไม่ช้าหรือเร็ว
อีกอย่างหนึ่งเย่เฉินก็อยากจะรู้ว่าฉินหงเหยียนจะเลือกทางเดินไหนกันแน่
“เอาตามที่พวกผู้ถือหุ้นว่าแล้วกัน” เย่เฉินสั่ง
ที่จริงแล้วตอนนี้พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องช่วยเหลือบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปอีกแล้ว หลังจากโดนหลิ่วอวี่เจ๋อปล่อยข่าวโจมตีมานานขนาดนี้ ชื่อเสียงเหม็นฉาวโฉ่ อีกทั้งตัวบริษัทในเครือเองก็ไม่ได้มีความสามารถในการแข่งขันอะไรมากมาย
ต่อให้ฉินหงเหยียนเป็นประธานบริษัทต่อก็คงจะเป็นได้ไม่นาน
“ครับ!”
หลังจากที่พ่อบ้านฟางกดวางสายแล้วก็โทรหาฉินหงเหยียนทันที
“ท่านฟาง”
“คุณฉิน”
“อย่าเลยค่ะ คุณเรียกฉันว่าเสี่ยวฉินก็ได้ค่ะ”
“เสี่ยวฉินเอ้ย พวกเสี่ยวถูเขาโทรศัพท์หาผมเพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นของบริษัท ได้ยินมาว่าตระกูลหลิ่วหาเรื่องหัวเซิ่งเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเย่เฉินเหรอ?”
“ค่ะ”
“ผมได้ยินมาว่าตอนนี้คุณเป็นแฟนของเย่เฉิน คุณคิดว่าเรื่องที่เย่เฉินโดนไล่ออกจากตระกูลเป็นเรื่องโกหกใช่ไหมล่ะ? ผมในฐานะที่เป็นพ่อบ้านตระกูลฟางขอยืนยันกับคุณตามตรงเลยว่า เย่เฉินโดนขับออกจากตระกูลแล้วจริงๆ อีกทั้งเขาจะเหยียบเท้าเข้าอังกฤษไม่ได้อีกตลอดไป ถ้าหากว่าคุณคบหากับเขาเพราะเขาเป็นทายาทเศรษฐีล่ะก็ คุณคงคิดผิดแล้ว”
ที่พ่อบ้านฟางพูดแบบนี้เพราะเขาเองก็อยากจะลองใจฉินหงเหยียน ยังไงเสียเย่เฉินก็เคยเสียเปรียบผู้หญิงมาแล้วเพราะเรื่องนี้
ฉินหงเหยียนรีบร้อนกล่าวทันที “ท่านฟางฉันไม่สนใจหรอกค่ะว่าเขาจะเป็นทายาทเศรษฐีหรือเปล่า ฉันชอบตัวเขาไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจนก็ไม่ได้ส่งผลอะไรเรื่องที่เราจะคบหากัน”
พ่อบ้านฟางที่อยู่อังกฤษใบหน้าฉาบไปด้วยความสบายใจ ในที่สุดโชคดีเหลือเกินที่คุณชายสามก็ได้เจอคู่ชีวิตของเขาแล้ว
พ่อบ้านฟางกล่าว “เสี่ยวฉินผมชื่นชมคุณมากนะ ผู้หญิงแบบคุณมีไม่เยอะแล้ว ทว่าโลกความเป็นจริงมันโหดร้ายนัก ผมเองก็ไม่อยากจะให้บริษัทต้องสูญเสียผลประโยชน์เพราะความสัมพันธ์ของคุณ ตอนนี้ผมให้ทางเลือกคุณสองทาง หนึ่งคือเลิกกับเย่เฉินแล้วไม่ติดต่ออะไรกันอีก เพื่อบอกให้คนตระกูลหลิ่วได้เห็นแล้วไปเป็นประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปต่อ หรือไม่อย่างนั้นคุณก็ลาออกจากตำแหน่งเถอะ!”
ฉินหงเหยียนที่อยู่ในห้องทำงานประธานบริษัทกัดริมฝีปาก น้ำตาเอ่อคลอในดวงตา
พ่อบ้านฟางถอนหายใจ “ผมรู้ว่าคุณเริ่มทำงานจากตำแหน่งเลขา ต่อสู้ฝ่าฝันในอวิ๋นโจวมาถึง 7 ปีกว่าจะมีวันนี้ คุณลองชั่งใจให้ดีๆ ว่าเพื่อเย่เฉินเพียงคนเดียวแล้วคุ้มค่าให้คุณท้องความพยายามตลอด 7 ปีที่ผ่านมาของคุณหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)