“เชื่อหรือยังล่ะ? น้องชาย?”
เย่เฉินจงใจเหล่มองจินฉ่าว
จินฉ่าวหัวเสียจนควันจะออกหู “อ๊า อิจฉาตาร้อน”
ในเวลานี้เหวินเชี่ยนเชี่ยนก็เปิดปากกล่าว “ดีแล้วใกล้จะถึงเวลาเที่ยงแล้ว หงเหยียน วันนี้พวกเธอเพิ่งมาถึงเทียนไห่ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องเลี้ยงข้าวพวกนายสักหน่อย ไปสิ!”
เหวินเชี่ยนเชี่ยนและจินฉ่าวนั่งรถไปด้วยกัน เย่เฉินและฉินหงเหยียนขับรถของพวกเขาเอง พวกเขาสี่คนก็มาถึงร้านอาหารที่เรียกว่าปาโย่วเอ้อเฟินจืออีอย่างรวดเร็ว
ร้านอาหารแห่งนี้พูดได้ว่าร้านอาหารตะวันตกชั้นยอดในว่ายทานสามารถนั่งชมวิวแม่น้ำหวงผู่ไปพร้อมๆ กับกินอาหารได้
ดังนั้นถึงได้มีร้านอาหารชื่อนี้ เป็นเพราะว่าภาพยนตร์อิตาลีเรื่องหนึ่งมีชื่อนี้ ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารอิตาลีแห่งหนึ่ง
หลังจากทั้งสี่คนทรุดตัวลงตรงที่นั่งริมหน้าต่างแล้ว จินฉ่าวก็เอาแต่หาโอกาสหาเรื่องเย่เฉินอยู่ตลอด
“เย่เฉิน เสื้อของนายแบรนด์อะไร? ทำไมถึงไม่เห็น Logo เลย? แบรนด์ Uniqlo หรือ H&M นะ? ”
เหวินเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะคิกคักอยู่ด้านข้าง
เหวินเชี่ยนเชี่ย ฉินหงเหยียนและจินฉ่าวประโคมแบรนด์เนมกันทั้งตัว ไม่ใช่ Chanel ก็ Gucci
ย้อนมองเย่เฉินรวมๆ กันทั้งตัวอาจจะไม่ได้เสื้อผ้าของพวกเขาตัวเดียวด้วยซ้ำไป
มีผู้ชายต่างชาติวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ดูจากชุดที่เขาสวมใส่แล้ว เหมือนจะไม่ใช่พนักงานบริการ แต่น่าจะเป็นหัวหน้าเชฟของที่นี่
เขาถือเมนูเดินตรงดิ่งมาหาพวกเขาทั้งสี่คน “ไม่ทราบว่าทั้งสี่ท่านต้องการอะไร?”
“ฮ่าๆ หัวหน้าเชฟมาด้วยตัว ต้องสั่งอาหารต้องใช้ภาษาอังกฤษ คิดว่าคงจะมีบางคนตกใจจนอกสั่นขวัญแขวนเสียแล้วมั้ง!”
จินฉ่าวหัวเราะร่วนเพราะเขาคิดว่าภาษาอังกฤษของเย่เฉินน่าจะไม่ดีเท่าไหร่
เหวินเชี่ยนเชี่ยนแสร้งทำเป็นปลอบ แต่ที่จริงแล้วกำลังเยาะเย้ยเย่เฉิน “ไม่เป็นไร นายไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษก็ได้ ใช้นิ้วชี้เอาก็ได้แล้วพูดว่า this (อันนี้) ก็ได้แล้ว”
“ฮ่าๆ…”
จินฉ่าวหัวเราะจนตัวโยน เขาเคยเห็นคนไปร้านอาหารพูดแต่คำว่า this เพราะไม่รู้ชื่ออาหารภาษาอังกฤษ
คนที่ทำแบบนั้นจะต้องดูน่าขันอย่างมาก ถือเป็นการกระทำแบบหนึ่งของพวกตลาดล่าง
ฉินหงเหยียนเห็นทั้งสองคนดูถูกเย่เฉินแบบนี้ก็รู้สึกไม่ยุติธรรมกับแฟนตนเอง
หล่อนรู้ว่าเย่เฉินอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก กับเย่เฉินแล้วภาษาอังกฤษก็เหมือนภาษาแม่ของเขา เผลอๆ ถนัดกว่าภาษาจีนด้วยซ้ำไป เขาจะใช้ภาษาอังกฤษในการสั่งอาหารไม่ได้ได้ยังไง?
ฉินหงเหยียนเปิดปากเอ่ย “เย่เฉินเขา…”
ใครจะรู้ ในตอนที่ฉินหงเหยียนกำลังจะออกตัวแทนเย่เฉินนั้นเอง เย่เฉินก็พูดกับเหวินเชี่ยนเชี่ยนว่า “ได้ ขอบคุณคุณเหวินที่สอนวิธีนี้กับผม ง่ายดีทีเดียว ผมชอบ”
ฉินหงเหยียนยิ้มบางๆ ดูแล้วเย่เฉินคงไม่คิดจะหักหน้าเหวินเชี่ยนเชี่ยนแล้ว
ฉินหงเหยียนโลดแล่นในสังคมมาหลายปีขนาดนี้ เห็นผู้ชายที่หักหน้าคนอื่นอย่างรุนแรงเพียงเพราะโดนดูถูก
คนอย่างเย่เฉินที่สุขุมนุ่มลึก เป็นคนในสังคมชั้นสูงที่ทำอะไรตามใจตัวเองก็ได้ แล้วยังอายุน้อยขนาดนี้ มีไม่เยอะ
เป็นตระกูลที่ลึกลับไม่เหมือนใคร เด็กที่ได้รับการฟูมฟักดูแลจากตระกูลนี้แตกต่างจากคนในตระกูลอื่นๆ เป็นคนละเรื่องกันเลยทีเดียว
อาหารจีนกับอาหารตะวันตกนั้นต่างกัน เพราะอาหารจีนสามารถสั่งอาหารให้คนทั้งโต๊ะโดยคนเพียงคนเดียวได้
แต่อาหารตะวันตกต้องต่างคนต่างสั่ง
เมื่อทั้งสามคนสั่งอาหารเสร็จ หัวหน้าเชฟก็หันมาถามเย่เฉินว่าเขาต้องการสั่งอาหารอะไร
เย่เฉินดูชื่ออาหารละรูป แล้วก็ทำตามที่เหวินเชี่ยนเชี่ยนสอน เขาชี้อาหารเรียกน้ำย่อยในนั้นแล้วพูดว่า “this!”
“ฮ่าๆ”
จินฉ่าวและเหวินเชี่ยนเชี่ยนต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)