ทั้งสองคนพูดไปพลางหัวเราะแล้วเดินออกจากวิลล่าที่เพิ่งซื้อใหม่ ขับรถไปที่บูทีคของ POLTRONA FRAU ของเทียนไห่
POLTRONA FRAU เป็นรอยัลแบรนด์ของอิตาลี เมื่อ 100 ปีก่อนพวกเขาก็ทำเฟอร์นิเจอร์ให้ราชวงศ์ของอิตาลี่
ร้อยปีมานี้สามารถพูดได้ว่าราชวงศ์ทั้งยุโรปใช้เฟอร์นิเจอร์แบรนด์นี้
วิลล่าที่ฉินหงเหยียนซื้อมาใหม่นี้ตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรปพอดี
บวกกับที่หญิงสาวเองก็เป็นคนทะเยอทะยาน อยากจะประสบความสำเร็จสักครั้งในเทียนไห่และกลายเป็นราชินีของวงการธุรกิจ แบรนด์นี้เหมาะสมกับหญิงสาวอย่างที่สุดแถมเย่เฉินยังเป็นคนเลือกให้หญิงสาวเองด้วย
เตียงของแบรนด์นี้มีมูลค่าหลายหมื่นไปถึงหลายแสน สัมผัสสบายอย่างยิ่ง
ก่อนจะมาเย่เฉินก็โทรศัพท์มานัดล่วงหน้าเอาไว้แล้ว จึงมีเซลล์ผู้หญิงออกมาต้อนรับด้วยตนเอง
“คุณและคุณนายเย่ คุณลองดูเตียงนี้นะคะ เตียงนี้ออกแบบโดย ROBERTO LAZZERONI โดยใช้หนังแกะคัดพิเศษของ FRAU มาบุเตียงค่ะโดยที่ทางคุณลูกค้าสามารถเลือกสีเองได้ ส่วนบริเวณหัวเตียงสามารถสามารถสั่งทำเล็กใหญ่และเลือกรูปแบบมุมหัวเตียงได้ ตอนนี้กำลังจัดโปรโมชั่นมีมูลค่าเพียง 99999 หยวน”
เย่เฉินปรายตามองเล็กน้อยก็รู้สึกว่าดีไซน์เตียงดีมากทีเดียว
ใช้เงินแสนหยวนเพื่อซื้อเตียงหนึ่งหลัง ถึงแม้ว่าจะฟุ่มเฟือยมากไปเสียหน่อย แต่เงินนี้เป็นเงินของจินฉ่าวจึงไม่ต้องเสียดาย
เย่เฉินทรุดตัวนั่งลงลองสัมผัสดู “สบายมากทีเดียว คุณจะลองเอนตัวดูไหม?”
ฉินหงเหยียนกอดอก ขณะยืนอยู่ข้างเตียงแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข “ไม่ต้องหรอกแค่คุณชอบก็พอแล้ว”
ฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงอายุ 30 ปีไม่เหมือนกับเด็กผู้หญิงอายุสิบกว่าขวบ
ถ้าหากเป็นเด็กสาวอายุเพียงสิบกว่าขวบจะซื้อเตียงล่ะก็ คาดว่าคงจะกระโดดขึ้นเตียงไปแล้ว แต่คนที่วางมาดเป็นนางพญาอย่างหล่อนก็ไม่ย่อมไม่อยากจะทำเรื่องเหมือนเด็กๆ
ในเมื่อฉินหงเหยียนไม่อยากจะลอง หน้าที่ที่เหมือนจะดูเป็นเด็กๆ ก็ยกให้เย่เฉินเป็นคนจัดการก็แล้วกัน
เย่เฉินนั่งลงบนเตียงแล้วลองทดสอบความนุ่มของฟูก “ฟูกนี่สบายใช้ได้เลย”
ทว่าในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง
“หน้าไม่อาย! หญิงโฉดชายชั่ว!”
สีหน้าฉินหงเหยียนฉายแววโทสะ เย่เฉินเองก็หันไปมอง
พวกเขาสองคนตกตะลึงไป
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อ!
คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินและหวังเจียเหยาจะมาพบกันอีกครั้งในเทียนไห่!
หวังเจียเหยาสวมชุดกระโปรงสีขาว บนตัวกระโปรงปักไข่มุกสีเงินกระจายเต็มกระโปรง ดูเป็นนางฟ้าเหมือนอย่างเคย
กำไลข้อมือ ตุ้มหู ทำให้เจ้าตัวดูเป็นลูกคุณหนูที่บอบบางร่ำรวย
เย่เฉินสังเกตที่นิ้วนางของหวังเจียเหยา หญิงสาวสวมแหวนอยู่และแน่นอนว่าแหวนที่หญิงสาวสวมใส่อยู่นั้น ไม่ใช่แหวนที่เจ้าหล่อนได้มาจากเย่เฉิน
นี่แสดงให้เห็นว่าหวังเจียเหยาตกปากรับคำจะแต่งงานกับหลิ่วอวี่เจ๋อ!
“เธอก็ยังสวยแบบนั้นเหมือนเดิม”
เย่เฉินทอดถอนใจ ส่วนท้องของหญิงสาวยังไม่นูนจนเห็นเด่นชัดนัก ยังเหมือนเด็กสาวทั่วๆ ไป
ถ้าหากไม่รู้เรื่องที่หวังเจียเหยาเคยทำมาก่อน แค่เจอหน้าครั้งแรกเขาก็น่าจะชอบหญิงสาวกระมัง?
เย่เฉินลุกออกจากเตียงแล้วถาม “คุณมาอยู่ที่เทียนไห่ได้ยังไง?”
เย่เฉินยังคิดว่ากิ่นที่เด็กจะคลอด หวังเจียเหยาจะอยู่ที่อวิ๋นโจวเพื่อเตรียมผดุงครรภ์ อย่างไรเสียมารดาของหญิงสาวก็อยู่ที่นั่นคงจะดูแลหญิงสาวได้ดี
หลิ่วอวี่เจ๋อเองก็ประหลาดใจมาก คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเย่เฉินและฉินหงเหยียนที่นี่
ตอนนี้เขาไม่สามารถมีลูกได้ เย่เฉินเป็นคนน่าสงสัยที่สุด แต่หลิ่วอวี่เจ๋อก็เคยคิดมาก่อน ว่าเรื่องนี้จะใช่ฝีมือของเย่เฉินหรือเปล่า?
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามแผนการของเขาก็จะไม่เปลี่ยนไป
“ฮ่าๆ เย่เฉินคิดไม่ถึงเลยว่าแกจะมากล้าโผล่หัวมาที่นี่”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวพลางหัวเราะเหยียดหยาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)