เย่เฉินและฉินหงเหยียนไม่เพียงแต่อยู่ในวิลล่าเฝยชุ่ยเหมือนสองคนนั้น แต่วิลล่าของพวกเขาสองคนยังอยู่ข้างกันอีก
ทั้งสี่คนกลายเป็นเพื่อนบ้านกัน!
หลิ่วอวี่เจ๋อถามเย่เฉิน “เย่เฉิน! นายจงใจซื้อบ้านข้างๆ ฉันล่ะสิ! นายตั้งใจจะทำอะไร! นายยังชอบเจียเหยาอยู่ใช่ไหม คิดจะฉวยโอกาสตอนที่ฉันไม่อยู่ไปยั่วยวนเมียฉันล่ะสิ!”
หลิ่วอวี่เจ๋อลนลาน ก่อนหน้านี้เย่เฉินและเขามีเรื่องกันใหญ่โต จึงไม่สามารถตัดความน่าจะเป็นที่อีกฝ่ายจะตามสืบเรื่องเขา
แต่เย่เฉินไม่เคยเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตามาก่อนดังนั้นเขาถึงไม่เคยตามสืบว่าอีกฝ่ายบ้านอยู่ไหน
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นศัตรูกันแล้วยังต้องมาเจอหน้ากัน ไม่เพียงเท่านั้นยังอาศัยอยู่ในเขตวิลล่าเดียวกันหนำซ้ำยังเป็นเพื่อนบ้านกันอีก
พอได้ยินหลิ่วอวี่เจ๋อพูดแบบนี้ หวังเจียเหยาก็ตัวแข็งไป
“หรือว่าเย่เฉินจงใจเลือกซื้อบ้านหลังข้างๆ ฉัน? คิกคิก ต่อให้ฉันทำผิดต่อเขาแต่หมอนี่ก็น่าจะยัง”
หวังเจียเหยารู้ว่าเย่เฉินเป็นคนรักใครรักจริง ในใจลึกๆ ก็หวังว่าเย่เฉินจะชอบตนเองอยู่
เดิมทีเจ้าหล่อนก็ชอบเป็นเจ้าหญิงให้พวกผู้ชายทะนุถนอม ผู้ชายคนเดียวไม่เพียงพอต่อความทะเยอะทะยานของตนเอง ไม่เพียงพอจริงๆ
และในเวลานี้เองฉินหงเหยียนจึงเปิดปากเอ่ย “ฉันเป็นคนเลือกวิลล่าเฝยชุ่ยเองไม่เกี่ยอวะไรกับเย่เฉิน พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกคุณสองคนอาศัยอยู่กันที่ไหน ถ้ารู้ล่ะก็ต่อให้พวกคุณขอร้องอ้อนวอนพวกเราก็ไม่ไปซื้อบ้านที่นั้นหรอก”
คำพูดนี้ของฉินหงเหยียนทำให้ความลิงโลดในใจของหวังเจียเหยาหายวับไปในพริบตา
แต่ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อก็ยังไม่วางใจ ภรรยาของตนเองอยู่ใกล้กับสามีเก่าขนาดนั้น เกิดวันไหนถ่านไฟเก่าเกิดคุขึ้นมาจะทำอย่างไร?
หลิ่วอวี่เจ๋อเป็นคนที่รักหน้าตัวเองอย่างมาก เขาเคยสวมเขาให้คนอื่นแต่ไม่ยอมให้คนอื่นสวมเขาให้ตนเอง!
จู่ๆ หลิ่วอวี่เจ๋อก็เกิดกังวลใจขึ้นมาแล้วถามเย่เฉินอีกครั้ง “เย่เฉิน วันมะรืนฉันกับหวังเจียเหยาจะแต่งงานกัน แล้วนายก็มาเทียนไห่พอดีแถมยังอยู่วิลล่าใกล้ๆ พวกเราขนาดนั้น เขาคงจะไม่ได้มาพังงานแต่งของพวกเราใช่ไหม? ฉันขอบอกนายไว้เลยนะว่าฉันไม่เชิญนายไปร่วมงานแต่งแน่!”
พวกเพื่อนๆ ของหลิ่วอวี่เจ๋อรู้จักหวังเจียเหยากันหมดแล้ว พวกเขายังชมว่าหญิงสาวเป็นคนสวยอีกด้วย
แต่หลิ่วอวี่เจ๋อปกปิดเรื่องที่หวังเจียเหยาเคยแต่งงานมาก่อน เขากลัวว่าเย่เฉินจะไปแฉเรื่องนี้ที่งาน
หวังเจียเหยาเองก็เหมือนจะรู้ใจว่าที่สามีว่าตนเองกังวลอะไร จึงกล่าวกับเย่เฉิน “นายมานี่หน่อย”
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนหวังเจียเหยาเรียกให้เขาเดินไปหา เขาก็คงไปแล้ว
แต่ตอนนี้เย่เฉินเป็นแฟนของฉินหงเหยียน เขาไม่มีทางว่าง่ายเชื่อฟังคำพูดของหวังเจียเหยาแบบนี้
เย่เฉินมองฉินหงเหยียน ถ้าแฟนสาวของเขาอนุญาตเขาอาจจะพอรับมาพิจารณาได้
หวังเจียเหยากล่าวด้วยโทสะ “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย! บอกให้แฟนนายสบายใจเถอะน่า ฉันไม่พลอดรักอะไรกับนายหรอก!”
ฉินหงเหยียนพอจะมองออกว่าอีกฝ่ายมีความลับบางอย่างจะพูด โดยไม่อยากให้หล่อนได้ยิน จึงหันไปกล่าวกับแฟนหนุ่ม “คุณไปเถอะค่ะ”
“อื้ม”
เย่เฉินเดินไปแล้วพวกเขาสองคนก็หลบไปอีกทาง
หวังเจียเหยากล่าวถาม “นายมาที่เทียนไห่ทำไม? จะเหมือนคราวก่อนที่ฉันแต่งงานกับฟางเชาใช่ไหม? ที่นายมาหาเรื่องถล่มงานแต่งของฉันทำให้ตระกูลหวังขายหน้า เพื่อล้างแค้นฉันให้ตัวเองสะใจใช่ไหม?”
เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม “ผมไม่ได้ไร้สาระแบบนั้นหรอก ไม่เคยคิดจะล้างแค้นคุณ แล้วยิ่งไม่กว่านั้นผมไม่เคยคิดจะไปร่วมงานแต่งงานของพวกคุณด้วยซ้ำไป ถ้าหากไม่ได้ยินจากปากพวกคุณ ผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกคุณจะแต่งงานกันวันมะรืน แต่ก็นะ ผมล่ะนับถือคุณจริงๆ เลย เพิ่งหย่ากับผมก็ไปแต่งเข้าตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยได้รวดเร็วแบบนี้ แถมยังหอบลูกในท้องของผมไปด้วย”
หวังเจียเหยากดเสียงเบาราวกระซิบ “เพื่อนของหลิ่วอวี่เจ๋อและครอบครัวของเขา ไม่มีใครรู้ว่าฉันเคยแต่งงานมาก่อน และไม่รู้เรื่องที่ฉันท้องด้วย ถ้าหากว่าตั้งใจจะทำให้สามีฉันขายหน้ากลางงานแต่งงานล่ะก็ ฉันขอแนะนำว่าอย่าดีกว่า! อย่างไรเสียเราก็เคยเป็นสามีภรรยามาสามปี นายอย่าตัดรอนกันนักเลย!”
เย่เฉินพูดไม่ออก “ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ผมไม่มีทางไปที่งานแต่งงานของพวกคุณ ผมเห็นคุณใส่ชุดเจ้าสาว แล้วพูดคำสาบานรักพวกนั้นแล้วมันขยะแขยง!”
“นาย…”
หวังเจียเหยาง้างมือขึ้นอยากตบหน้าอีกฝ่าย
แต่หล่อนก็คิดได้ว่าตนเองไม่ใช่ภรรยาของเขาอีกต่อไป ไม่มีคุณสมบัติจะไปตบตีเขาอีก
อีกทั้งฉินหงเหยียนก็อยู่ที่นี่ หล่อนเกรงว่าเกิดตนเองพลั้งมือไปตบเย่เฉิน ฉินหงเหยียนจะเดินมาสวนตนเองแทนชายหนุ่ม
หล่อนออกจะกลัวหญิงสาวคนนี้อยู่เล็กน้อย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)