เหอเหวินเจี้ยนมีอายุ 40 กว่าปีแต่ก็ไม่ได้หัวล้านหรือลงพุง เขาสวมแว่นตา ท่าทางสุภาพเรียบร้อย
ฉินหงเหยียนเดินเข้าไปในห้องทำงาน ระบายยิ้มแล้วเป็นฝ่ายยื่นมือหาอีกฝ่าย “คุณเหอไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
“ไม่ได้เจอกันนานเลย”
เหอเหวินเจี้ยนรีบร้อนยื่นมือไปกุมมืออีกฝ่าย
เมื่อสัมผัสได้ถึงมือขวาที่นุ่มเนียนน่าสัมผัสของหญิงสาว เหอหวินเจี้ยนก็จับมืออีกฝ่ายอยู่นานไม่ยอมปล่อย ขณะที่ดวงตาก็จ้องฉินหงเหยียนเขม็ง
“หงเหยียนคุณสวยขึ้นกว่าเดิมอีกนะครับเนี่ย”
ก่อนนี้ทั้งสองคนเคยเจอหน้ากันที่ประชุมในโตรอนโต้ ตอนนั้นอาการโรคปอดของเหอเหวินเจี้ยนกำเริบพอดี แล้วตัวเขาก็ไม่ได้มียา
ฉินหงเหยียนที่เป็นคนแปลกหน้าเห็นเขาก็รีบชงกาแฟร้อนๆ ให้เขา ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
ตั้งแต่ตอนนั้นเหอเหวินเจี้ยนก็แอบชอบฉินหงเหยียน
สำหรับฉินหงเหยียนนั้นนี่เป็นแค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้น อีกทั้งหล่อนก็ดีกับผู้ชายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเหล่าผู้บริหารทั้งหลาย
ส่วนที่หญิงสาวมาที่เทียนไห่แล้วมาหาเขาเป็นคนสุดท้ายนั้น เพราะหล่อนรู้ว่า ชายตรงหน้าปรารถนาในตัวตนเองตนเอง อีกทั้งยังรุนแรงเสียด้วย
ถ้าหากไม่ถูกหลิ่วอวี่เจ๋อบีบบังคับจนสิ้นหนทาง หญิงสาวก็ไม่อยากจะเจอคนผู้นี้เท่าไหร่นัก อย่างไรเสียตอนนี้ตนเองก็มีแฟนแล้ว
“ขอบคุณนะคะที่ชม ดูแล้วคุณเหอสุขภาพแข็งแรงขึ้นมากเลยนะคะ”
ฉินหงเหยียนสางผม
เหอเหวินเจี้ยนที่ยังไม่ยอมปล่อยมือฉินหงเหยียนจนตอนนี้ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังใช้มืออีกข้างกุมมือทั้งสองข้างของฉินหงเหยียนแล้วกล่าว
“คิดถึงเมื่อสามปีก่อนที่พวกเราไปเล่นสกีที่แคนดาด้วยกัน คุณจำได้ไหมครับ? ตอนนั้นคุณยังเล่นสกีไม่เป็น เป็นผมนี่แหละที่ประคองคุณจากด้านหลัง สอนคุณเหมือนสอนเด็กหัดเดินทีละก้าวๆ เลย”
สีหน้าฉินหงเหยียนเก้อเขิน ภาพงดงามตอนไปเล่นสีที่ Lake Louise Ski Resort ก็ปรากฏวาบขึ้นมาในหัว
หิมะที่ขาวโพลนปกคลุมทะเลสาบ ป่าไม้ต่างๆ
ตั้งแต่คราวนั้นที่เหอเหวินเจี้นสอนตนเองจนเล่นสกีเป็นแล้วนั้น ฉินหงเหยียนก็ชอบกีฬาประเภทนี้อย่างมาก ในหน้าหนาวของทุกปีเจ้าหล่อนต้องไปเล่นสกีเสมอ
คราวนี้ที่ฉินหงเหยียนมาอ้อนวอนเขาจึงไม่กล้าจะชักมือกลับ จึงงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ทักษะในการเล่นสกีของคุณเหอเป็นถึงระดับของนักกีฬาอาชีพ ฉันจะลืมได้ยังไงคะ?” ตอนนี้ฉันมาที่เทียนไห่ หน้าหนาวพวกเราสามารถไปเล่นสกีกันที่เป๋ยไห่ได้นะคะ”
เหอเหวินเจี้ยนกล่าวอย่างดีอกดีใจ “ดี! ไว้พวกเราไปเล่นสกีด้วยกันที่เป๋ยไห่นะ”
“อื้ม…เอ่อ คุณไม่คิดจะเชิญให้ฉันนั่งเหรอคะ?” ฉินหงเหยียนกล่าวอย่างเก้อเขิน
“อ้อ ผมผิดเอง รีบนั่งลงเร็ว” เหอเหวินเจี้ยนกล่าว
พอรู้ว่าฉินหงเหยียนจะมา เหอเหวินเจี้ยนรีบชงชาเอาไว้นานแล้ว แถมยังสั่งให้ลูกน้องซื้อโซฟาสีแดงให้ฉินหงเหยียนโดยเฉพาะ
อีกทั้งยังมีเบาะพิงหลังที่สบายอย่างยิ่ง รวมไปถึงดอกไม้สดที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักอีกด้วย
เมื่อหญิงสาวทรุดตัวนั่งลงแล้ว เหอเหวินเจี้ยนก็เอ่ยปากถาม“ คุณมาที่เทียนไห่ได้กี่วันแล้ว?”
ฉินหงเหียนกล่าวตอบ “เพิ่งถึงได้ไม่กี่วัน”
“ได้ยินมาว่าคุณไปสมัครงานมาหลายบริษัทแล้ว ทำไมไม่มาสมัครกับผมก่อนล่ะ?” เหอเหวินเจี้ยนกล่าวถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)