อีกอย่างเขาไม่ได้อยากจะเป็นประธานบริษัทแม้แต่น้อย เหมือนที่คุณหม่าไม่ได้สนใจในตัวเงินอย่างไรอย่างนั้น
คุณปู่ของเย่เฉินรู้เรื่องฉินหงเหยียนจากพ่อบ้านฟาง
ก่อนนี้หญิงสาวยอมลงจากตำแหน่งประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเพื่อเย่เฉิน
ปู่ของเย่เฉินชื่นชมหญิงสาวผู้นี้มาก และดีใจมากที่ในที่สุดหลานชายตนเองก็ได้เจอผู้หญิงที่ไม่หลงใหลในทรัพย์สินเงินทอง
ปู่ของเย่เฉินกล่าวต่อ “ได้ แต่ว่าบริษัทไป๋ลี่มีมูลค่าตลาดเกินกว่าหมื่นล้าน จะให้ฉินหงเหยีนเป็นประธานบริษัทเลยคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ถ้าทำแบบนี้ต่อให้หลานอยากจะปกปิดสถานะ ทำตัวเป็นคนธรรมดา คิดว่าก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ปู่จะให้น้องสี่ของหลานมารับตำแหน่งประธานบริษัทก่อน ให้หล่อนบริหารงานไปพักหนึ่งแล้วจากนั้นค่อยๆ ให้ส่งมอบบริษัทให้ฉินหงเหยียนแล้วกัน”
เย่เฉินรู้สึกว่าปู่ของตนเองวางแผนถี่ถ้วน บวกกับที่เขาก็ไม่ได้เจอน้องสาวคนที่สี่ของตนเองนานแล้ว หวังอย่างมากว่าหญิงสาวจะมาที่เทียนไห่
“ครับ ขอบคุณนะครับคุณปู่”
วางสายเสร็จเย่เฉินก็เดินกลับไปที่ห้องนอนอีกครั้ง เขามองฉินหงเหยียนที่กำลังหลับสนิท เอื้อมมือไปลูบผมยาวสลวยของหญิงสาวขณะมองเสี้ยวหน้าที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนของสตรีเพศแล้วกล่าวกับตัวเอง
“หงเหยียนคุณจะได้เป็นประธานบริษัทไป๋ลี่ในเร็วๆ นี้แล้วนะ คุณจะได้กลายเป็นท่านประธานหญิงที่สวยที่สุดในเทียนไห่แล้ว ช่วยอดทนต่ออีกหน่อยนะครับคนดี คุณคือผู้หญิงของผม ผมจะทำให้คุณได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ!”
……
ริมทะเล แสงอาทิตย์ หาดทราย ต้นมะร้าว ชุดแต่งงาน และช่อบูเกต์
เย่เฉินในชุดสูทกำลังจูงมือหวังเจียเหยา หวังเจียเหยาใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่องเป็นครั้งที่สามแล้ว
“ที่รักในที่สุดพวกเราก็ได้แต่งงานกันอีกครั้งแล้ว ฉันรู้ว่าคุณรักฉันที่สุด ชนาดฉันแต่งงานกับฟางเชากับหลิ่วอวี่เจ๋อแล้ว คุณยังยินยอมจะแต่งงานกับฉันเลย”
ซูหลานที่แต่งตัวเต็มยศวิ่งโร่มาหาเขาแล้วส่งยากรดโฟลิคให้เขา กล่าวพลางระบายยิ้ม
“ลูกเขยคนดี นี่คือกรดโฟลิคช่วยป้องกันระบบบประสาทและสมองให้กับเด็กทารก ลูกคนแรกของพวกเธอเป็นลูกสาวไม่ใช่เหรอ? สู้ๆ เข้านะจะได้มีลูกชายอีกสักคน จะได้มีคนสืบทอดทรัพย์สินมูลค่าแสน้านของตระกูลเย่ของเธอไง ฮ่าๆ”
หวังยหวนหยวนเองก็สวมชุดเกาะอกสีชมพู เหยียบทรายด้วยเท้าเปล่าช้าๆ ด้วยใบหน้าหงอยๆ
“ฮึ พี่เขย พี่น่ะรักแค่พี่เจียเหยา ฉันไปศัลยกรรมให้สวยเท่าพี่เจียเหยาที่เกาหลีมาก็แล้ว แต่พี่ก็ยังไม่ยอมเลือกฉัน แต่งงานกับพี่สาวฉันอีกแล้ว”
เย่เฉินมองหวังหยวนหยวนใบหน้าของหล่อนสวยงามกว่าที่ผ่านมาจริงๆ แต่รูปร่างทรวดทรงนั้นก็ยังสวยเหมือนที่ผ่านมา
เขามองไปรอบๆ พลันรู้สึกว่าโลกตรงหน้าเลือนลาง แสงอาทิตย์จู่ๆ ก็ทิ่มแทงดวงตาแต่กลับสามารถลืมตามองได้อย่างง่ายดาย
เขาพบว่าหวังเจียเหยา ซูหลาน หวังจื้อหย่วนและคุณนายหวัง ใบหน้าพวกเขาต่างก็แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม
ซ่งหงเย่เองก็กำลังยิ้มแย้ม!
รอยยิ้มของหญิงสาวทำให้สัมผัสได้ถึงความเจ้าเล่ห์ อีกทั้งคนที่มาส่งหล่อนเข้าร่วมงานแต่งงานคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจิ้งปินอดีตสามีของหล่อน!
พวกเขาสองคนจูงมือกันเหมือนว่าจะคืนดีกันแล้ว!
เย่เฉินลนลาน จู่ๆ เขาก็สะบัดมือหวังเจียเหยาทิ้งแล้วตะคอก “ทำไมผมต้องแต่งงานกับคุณอีกรอบด้วย? ฉินหงเหยียนล่ะ? แฟนของผมคือฉินหงเหยียน!”
“หล่อนตายแล้ว!” หวังเจียเหยาตะคอกเย่เฉิน “หล่อนโดนคนตระกูลหลิ่วทำร้ายจนตายแล้ว พวกนายไม่มีทางได้อยู่ด้วยอีกตลอดไป!”
“ไม่! ไม่! ไม่!”
เขาตะโกนจนสุดเสียง
เย่เฉินลุกขึ้นจากเตียง เหงื่อแตกพลั่ก
ในครรลองสายตาของเขามืดสนิท เย่เฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู นี่เป็นเวลาตีสอง ส่องโทรศัพท์ที่สว่างน้อยๆ ไปที่ฉินหงเหยีนที่กำลังตกอยู่ในห้วงนิทรา
“ฟู่ว…ที่แท้ก็แค่ฝันไป”
เย่เฉินหอบหายใจถี่กระชั้น ยังคิดว่าภาพที่ตนเองเห็นเมื่อครู่เป็นเรื่องจริง
เขาเดินลงจากเตียงแล้วมาที่ห้องรับแขก รินน้ำเปล่าใส่แก้วยกดื่มจนหมด จากนั้นก็รินแก้วที่สองต่อ
“ทำไมถึงได้ฝันประหลาดแบบนี้นะ! ฉันไม่แต่งงานกับหวังเจียเหยาอีกรอบหรอก กระทั่งมองหน้ายังไม่อยากจะเห็นเลย”
เย่เฉินถือแก้วน้ำ หยิบโทรศัพท์แล้วเปิดวีแชท ทันใดนั้นเองก็เห็นโมเมนท์วีแชทของฉินหงเหยียน!
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? บล็อคผมไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ก่อนนี้ในวันแต่งงานของหลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยา หญิงสาวก็บล็อคเขาเอาไว้ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเย่เฉินก็ไม่เคยเห็นโมเม้นท์วีแชทของหญิงสาว และไม่สามารถส่งข้อความหาหญิงสาวได้
แต่ว่าวันนี้จู่ๆ เย่เฉินก็เห็นโมเม้นท์วีแชทของหวังเจียเหยาขึ้นมา
นี่แปลว่าหวังเจียเหยาเลิกบล็อคเขาไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)