หวังเจียเหยาสวมชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ปรากฏตัวอยู่ที่หน้าบ้านเย่เฉิน แต่กลับพูดจาไม่น่าฟังแบบนี้
เย่เฉินไม่เหน็บแนมเรียกหล่อนว่า ‘คุณนายหลิ่ว’ อีก แต่เรียกชื่อของหล่อนจริงๆ
“หวังเจียเหยา! ช่วยระวังคำพูดด้วย! คุณด่าผม ผมไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคุณก็ได้ แต่อย่าว่าแฟนของผมแบบนี้!”
หวังเจียเหยาแค่นเสียง “ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดเสียหน่อย! นายรู้ไหมว่าแฟนของนายเป็นคนยังไง? นายคงต้องคิดว่าหล่อนเป็นผู้หญิงแกร่งที่ทำงานที่สุด เป็นคนที่พึ่งพาตัวเองได้ที่สุดและสูงส่งที่สุดในโลกนี้ล่ะสิ”
“ฉันจะบอกนายให้นะ ฉินหงเหยียนเป็นชู้ชาวบ้าน! หล่อนโดนผู้ชายอายุ 50 เลี้ยงมาถึงสามปี หล่อนมันหน้าไม่อาย…อุ๊ปส์”
ในตอนที่หวังเจียเหยากำลังพูดนั้น จู่ๆ ก็โดนเย่เฉินเอามืออุดปาก จากนั้นเขาก็คว้ามือของหล่อนลากเข้าไปในวิลล่าแล้วปิดประตู
หวังเจียเหยาโดนเย่เฉินลากไปจนถึงโซฟาในห้องรับแขก ก่อนจะยอมปล่อยหล่อน “นายทำอะไรน่ะ ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันพูดล่ะ?”
ถึงแม้ว่าเจ้าหล่อนจะขมวดคิ้วมุ่น ท่าทางดูไม่พอใจอย่างมาก แต่เมื่อครู่ที่หวังเจียเหยาโดนลาก หญิงสาวกลับดีใจอย่างมาก
ตั้งแต่หย่ากันแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันอีก ส่วนหวังเจียเหยายังคงจดจำช่วงเวลาที่สนิทสนมกับเย่เฉินได้ว่ามันมีความสุขขนาดไหน
คำพูดของหวังเจียเหยานั้นเท่ากับว่าแฉเรื่องส่วนตัวของฉินหงเหยียนอยู่ เย่เฉินย่อมไม่อยากให้หล่อนโพนทะนาเรื่องนี้ที่หน้าประตูบ้านเขา
เย่เฉินถามด้วยสีหน้าตกใจ “คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
เรื่องประเภทนี้ฉินหงเหยียนบอกแค่ตัวเองเท่านั้น หล่อนไม่มีทางบอกคนอื่นแน่ และยิ่งไม่มีทางบอกหวังเจียเหยา
หวังเจียเหยาเห็นเย่เฉินได้ยินเรื่องนี้ ไม่เพียงไม่อาละวาดไม่แปลกใจ แต่กลับกันเขากลับถามหล่อนว่ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ทันใดนั้นเองก็พบว่าเย่เฉินรู้เรื่องนี้นานแล้ว!
หวังเจียเหยาประหลาดใจอย่างมาก “นาย…รู้เรื่องที่ฉินหงเหยียนมีคนเลี้ยงด้วยเหรอ?”
ในเมื่อหวังเจียเหยาเองก็รู้เรื่องนี้เย่เฉินก็ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป
เย่เฉินผงกศีรษะ “อืม ตอนที่หล่อนสารภาพรักกับผมก็เคยสารภาพเรื่องนี้แล้ว”
หวังเจียเหยากระโดดออกมา แล้วกล่าวกับเย่เฉินด้วยโทสะ “นาย…นาย…นายรู้ว่าแม่นั่นเคยมีผู้ชายเลี้ยง นายยังคบหากับหล่อนอีกเหรอ! นายไม่รังเกียจเหรอ! เย่เฉินทำไมนายได้ใฝ่ต่ำแบบนี้นะ! ฉินหงเหยียนที่เคยโดนเลี้ยงนายยังรับได้ แล้วทำไมตอนนั้นไม่ยอมรับฉันล่ะ! ดึงดันจะหย่ากับฉันให้ได้!”
หวังเจียเหยารู้สึกว่าเรื่องที่ตนเองทำไป เล็กจ้อยกว่าฉินหงเหยียนมากนัก หล่อนนอนกับฟางเชาแค่ครั้งเดียว แต่ฉินหงเหยียนนั้นนอนกับผู้ชายคนอื่นมาตั้งสามปี
“เรื่องของคุณกับหงเหยียนไม่เหมือนกันเลยเข้าใจไหม! คุณน่ะมันมีชู้หลังจากที่เราเป็นแฟนกัน! ผมย่อมไม่มีทางอภัยให้คุณ!”
หวังเจียเหยาโกรธมาก โกรธจนไม่รู้จะโกรธอย่างไร หล่อนรู้สึกว่าตนเองพ่ายแพ้ให้ฉินหงเหยียนอีกครั้งแล้ว อีกทั้งแพ้แบบไม่ยุติธรรมอย่างมากเสียด้วย!
หวังเจียเหยากล่าว “ได้ตอนนี้นายสองคนเป็นแฟนกันล่ะสิ? นายคิดว่าหล่อนจะมีชู้ไม่ได้หรือไง? ตอนนี้หล่อนกำลังอยู่กับคนรักเก่าของหล่อนอยู่! นายมันคนโง่ โดนสวมเขาแล้วยังไม่รู้เรื่องอีก!”
เย่เฉินมึนงงไปเลย “คุณพูดอะไร? ตอนนี้หงเหยียนกำลัง…”
ก่อนหน้านี้ฉินหงเหยียนบอกแค่ว่านัดกินข้าว แต่ไม่ได้บอกว่ากินกับใคร
วงสังคมของฉินหงเหยียนกว้างเกินไป เพื่อนที่รู้จักนั้นก็มีมากเกินไป เย่เฉินจึงไม่ได้ถามอีกฝ่ายละเอียดไปทุกครั้ง
พอจะมองออกว่าหวังเจียเหยาน่าจะไปรู้อะไรมา ทันทีที่หล่อนเข้าบ้านก็รู้ว่าฉินหงเหยียนไม่อยู่บ้าน
มิฉะนั้นหล่อนไม่มีทางกล้าพูดไม่ดีมากมายขนาดนี้เกี่ยวกับฉินหงเหยียนในวิลล่าของอีกฝ่ายหรอก
หวังเจียเหยากล่าว “ถูกต้อง ผู้ชายคนนั้นที่เลี้ยงดูฉินหงเหยียนชื่อสวี่ฉู่หมิง เขาเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเสินเฉิง แถมยังสนิทกับปู่ของหลิ่วอวี่เจ๋อมากด้วยเป็นเพื่อนสนิทที่คบหากันมาหลายปี คิดว่าหล่อนถูกสามีฉันกดดันจนอับจนหนทาง ดังนั้นถึงได้กลับหาคนรักเก่าเพื่อขอให้ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้
เมื่อครู่อวี่เจ๋อโทรหาฉัน บอกว่าต่อไปห้ามยุ่งกับหวังเจียเหยาอีก ฉินหงเหยียนจะต้องทำเรื่องผิดต่อนายแน่ ตอนนั้นที่ฉันไปเปิดห้องกับฟางเชา นายยังจะยืนกระต่ายขาเดียวจะหย่ากับฉัน ขนาดโอกาสยังไม่ให้ฉันเลย! ครั้งนี้ทางที่ดีก็ทำแบบนั้นใส่ฉินหงเหยียนด้วยสิ! ถ้านายกล้าให้อภัยหล่อน ให้โอกาสหล่อน ฉันไม่มีทางปล่อยนายเอาไว้แน่!”
หวังเจียเหยาอยากจะเห็นเย่เฉินกับฉินหงเหยียนเลิกกันจะแย่ คนหนึ่งเป็นผู้ชายที่หล่อนชอบที่สุด ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงที่หล่อนเกลียดชังที่สุด พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันทำให้หวังเจียเหยารู้สึกไม่ดีสุดๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)