ตอน ตอนที่ 196 ไม่ต้องให้สินสอดแม้แต่แดงเดียว! จาก เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 196 ไม่ต้องให้สินสอดแม้แต่แดงเดียว! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
สวี่ฉู่หมิงเดิมคิดว่าตนเองสามารถสวมบทบาท ‘นักฆ่า’หรือ ‘โจร’ ดังนั้นสามารถเขย่าขวัญคนอื่นให้ล่าถอยไปได้
ทันทีที่เห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นอ่อนแอบอบบาง อีกทั้งที่เดินมาก็คุกเข่าขอยืมเงิน ดูท่าทางแล้วคงจะเจอเรื่องลำบากมา
เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอันตรายแน่ๆ แล้ว สวี่ฉู่หมิงถึงได้เดินมา
สวี่ฉู่หมิงมองชายอ่อนวัยอย่างประเมินในทีแล้วถาม “น้องชาย ทำไมนายถึงมาขอยืมเงินพวกเราได้ล่ะ?”
เย่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจ อยู่กันดีๆ ทำไมจู่ๆ ถึงได้มีคนขอยืมเงินได้นะ
ชายอ่อนวัยตอบอย่างตรงไปตรงมา “เมื่อครู่ผมตอนที่ผมอยู่ว่ายทานใช้กล้องส่องทางไกลเห็นพวกคุณกำลังกินข้าวบนเรือ ผมก็รู้เลยว่าพวกคุณเป็นคนมีเงิน เงินแค่แสนเดียวมันก็แค่เงินค่าอาหารมื้อเดียวของพวกคุณเท่านั้น ดังนั้น ผมเลยกระโดดลงแม่น้ำหวงผู่ จากนั้นก็ปีนขึ้นเรือมาขอให้พวกคุณช่วย
ผมเป็นนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยกฎหมาย นี่คือใบปริญญาของผม ผมไม่ใช่คนตกงานไร้การศึกษา ผมมีเงินเดือน ผมได้เงินเดือนละหมื่น พวกคุณให้ผมยืมหนึ่งแสน ผมจะต้องหาเงินคืนพวกคุณได้แน่!”
สวี่ฉู่หมิงรับสมุดใส่ใบปริญญาที่เปียกซ่กมาแล้วเล่มนั้น พลิกๆ ดูจากนั้นก็กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“มีความกล้า และมีเป้าหมาย ใช้ได้นี่”
เย่เฉินพอจะมองออกว่าคนผู้นี้ฉลาดมากทีเดียว คนที่สามารถกินข้าวบนเรือสำราญลำนี้ได้ เงินแค่แสนเดียวไม่น่าจะมีความสำคัญอะไร
แต่เขาสามารถปีนขึ้นเรือลำนี้ใสได้ ก็พอจะพิสูจน์ความรู้ความสามารถของเขาได้แล้ว
เย่เฉินถาม “ทำไมนายถึงต้องยืมเงินแสนก้อนนี้ให้ได้ล่ะ? คนที่บ้านป่วยเหรอ?”
นักเรียนที่จบมหาวิทยาลัยกฎหมาย เงินเดือนก็สูง ถ้าหากว่าไม่ได้ตกที่นั่งลำบากจริงๆ ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายมีค่าดั่งทอง เขาไม่มีทางคุกเข่าเพื่ออ้อนวอนขอเงินใครแน่
ชายอ่อนวัยคนนั้นกล่าว “ไม่ครับ เป็นเงินค่าสินสอด ผมอยากแต่งงานกับแฟนแล้ว แต่ที่บ้านหล่อนอยากได้สินสอดเป็นห้องชุดหนึ่งแห่ง รถหนึ่งคันแล้วก็เงินสองแสน ผมซื้อรถซื้อบ้านแล้ว อีกทั้งซื้อสดด้วย ผมใช้เงินเก็บทั้งชีวิตของพ่อแม่ และเงินที่ได้จากการทำงาน ประหยัดอดออมมาตลอดสองปีนี้ของตัวเองรวมกันซื้อของสองอย่างนี้ อีกทั้งผมยังไปขอยืมคนนั้นคนนี้มาไม่น้อยแล้วเหมือนกัน
ผมมันไร้ค่า ทำทุกวิถีทางแล้ว ขอยืมเงินญาติสนิทมิตรสหายทั้งหมด รวมๆ กันแล้วหามาได้แค่แสนเดียวเท่านั้น ตอนนี้ขาดไปแค่แสนเดียว ขาดแค่แสนเดียวเท่านั้น ผมก็จะรวบรวมเงินสินสอดได้มากพอแต่งงานได้แล้ว ผมขอร้องพวกคุณล่ะครับ ให้เงินผมยืมหนึ่งแสน ผมขอสาบานว่าจะต้องคืนพวกคุณแน่นอน!”
ชายอ่อนวัยผู้นั้นขอร้องอ้อนวอน จากความรู้ในด้านโหงวเฮ้งรวมไปถึงจิตวิทยาแล้ว เขาพอจะตัดสินได้ว่าคนผู้นี้ไม่ได้โกหก
สวี่ฉู่หมิงพยักหน้ารับ เหมือนว่าเขาเองก็ชื่นชมชายผู้นี้เช่นกัน
“พ่อหนุ่มน้อย นายมีความกล้าแบบนี้ แถมยังเป็นนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยกฎหมายที่ดีที่สุดของประเทศเรา สามารถวางศักดิ์ศรีตัวเองลงเพื่อเงินทอง คุกเข่าขอร้องคนได้ ฉันชื่นชมนายนะ! นายอาจจะไม่เท่าไหร่ แค่เงินสินสอดยังหาไม่ได้ แต่ว่านายอาจจะแค่ขาดโอกาสเฉยๆ”
วันนี้ นายโชคดีจะได้เจอฉัน ฉันจะให้โอกาสนาย! เงินแสนนี้ ฉันให้นายยืม ไม่เพียงเท่านั้นฉันจะรับนายมาทำงานที่บริษัท แล้วจะให้เงินเดือนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว!”
หนุ่มน้อยดีใจอย่างยิ่งด้วยเขาคาดคิดไม่ถึง “จริงเหรอครับ? ขอบคุณครับเถ้าแก่! ขอบคุณครับเถ้าแก่! ดีเหลือเกินในที่สุดผมก็จะได้แต่งงานกับถิงถิงแล้ว”
หนุ่มน้อยเองก็ละทิ้งศักดิ์ศรี แล้วโขกศีรษะลงเพื่อขอบคุณชายสูงวัย
ส่วนสวี่ฉู่หมิงนั้นกลับยืนนิ่งสูบบุรี่ด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง ถือแก้วไวน์แล้วกล่าว “ขอแค่ติดตามฉันสวี่ฉู่หมิง ต่อให้เป็นนางฟ้า ฉันก็จะช่วยให้นายได้หล่อนเป็นเมีย! กลับกันถ้าล่วงเกินฉัน ต่อให้เป็นเมียที่นายรักนักหนา ฉันก็มีปัญญาทำให้หล่อนทิ้งนาย!”
สวี่ฉู่หมิงพูดจาวางท่า ในวินาทีนี้เขาเหมือนเฉินว่านเสียนในหนังฮ่องกงเรื่อง ‘เจ้าพ่อตลาดหุ้น’ ที่เย่เฉินเคยดูเป็นเพื่อนคุณย่าของหวังเจียเหยา
เย่เฉินวางท่าทีขึงขัง “นี่คือเรือสำราญของฉัน ฉันได้บอกให้นายไปแล้วหรือไง?”
สวี่ฉู่หมิงขมวดคิ้ว “เด็กนี่มายืมเงิน ยืมเงินแล้วทำไมไม่ปล่อยให้เขาไป หรือว่าจะให้เขากินข้าวด้วย?”
เย่เฉินกล่าว “คุณให้เขายืมเงิน ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย”
สวี่ฉู่หมิงหัวเราะร่วน “ดูแล้วนายอยากจะแย่งฉันเป็นคนดี เงินแสนนี้ นายอยากให้เขายืมเหรอ?”
เย่เฉินกลอกตาใส่สวี่ฉู่หมิง “ใครบอกว่าผมจะให้เขายืมเงิน?”
เย่เฉินเดินไปหาเฉิงว่านหลี่แล้วกล่าว “นายเป็นถึงบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยกฎหมาย เงินเดือนหมื่นหยวนก็ถือว่าเยอะมากแล้วนะ ด้วยความรู้และความกล้าของนาย คงจะมีอนาคตที่สดใส วันนี้นายกลับทำผิดกฎหมายทั้งที่รู้แก่ใจ บุกรุกเรือส่วนตัวของคนอื่นแล้วมาคุกเข่าอ้อนวอน? เพื่อเงินสินสอดแม่งแสนเดียว! นายไม่รู้สึกว่าหนังสือที่ร่ำเรียนมาสิบกว่าปีเสียเปล่าเหรอ!”
เฉิงว่านหลี่ก้มหน้า “ผมมันไร้ประโยชน์จริงๆ กระทั่งเงินสินสอดสอแสนยังไม่มีปัญหาหามา แต่ผมใช้เงินซื้อบ้านไปราคาตั้งหลายล้าน แฟนผมกับผมเราสองคนเป็นคนอวิ๋นโจว คุณก็รู้ว่าบ้านที่อวิ๋นโจวแพงขนาดไหน ผมจนปัญญาแล้วจริงๆ ที่บ้านแฟนผมพูดว่าเงินสินสอดต้องครบสองแสนจะขาดไปสักแดงเดียวก็ไม่ได้”
เย่เฉินตะโกนกร้าว “นายก็ไม่ต้องให้สินสอดสักแดงเดียว!”
เฉิงว่านหลี่และสวี่ฉู่หมิงตาเบิกกว้างและอ้าปากค้าง
เย่เฉินกล่าวต่อ “เรื่องเงินสินสอดเป็นสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจที่สุดเลย ขนาด Bill Gates แต่งงานยังไม่เห็นต้องมีสินสอนเลย ภรรยาของเขาก็ไม่ได้ให้สินสอดเขาเหมือนกัน ไม่ว่าประเทศไหนๆ ที่ฉันไปก็ไม่เห็นจะมีของเหลวไหลเลอะเทอะอย่างเงินสินสอดนี่เลย!
นายทำงานยังไม่ถึงสองปีเลย เงินเดือนหมื่นเดียว ไม่กินไม่ดื่มก็ยังแค่สองแสนสี่ นายจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านราคาเป็นล้าน รถราคาเป็นแสน! ถ้านายต้องมีของพวกนี้หล่อนถึงจะยอมแต่งงานกับนาย งั้นนายเคยคิดไม่ว่าหล่อนแต่งงานกับนายหรือแต่งกับเงินและบ้านของนาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)