ในวินาทีนี้เย่เฉินก็คิดถึงหวังเจียเหยา
หวังเจียเหยาเองก็เป็นผู้หญิงที่รักแต่เงินทอง หลังจากแต่งงานแล้ว ทันทีที่ไม่มีเงินก็จะโดนหล่อนทิ้งไปเหมือนกัน!
แฟนคนนี้ของเฉิงว่านหลี่ก็เหมือนกัน ถ้าหากว่าหล่อนรักผู้ชายคนนี้จริงๆ ก็จะไม่สนใจเงินแสนที่ขาดไปหรอก
เฉินว่านหลี่นิ่งไปเมื่อโดนเย่เฉินสั่งสอน
ไหนเลยเขาจะไม่เคยพูดกับแฟนสาวตนเองแบบนี้!
เขาเคยถาม!
เขาถามหญิงสาววว่าเพียงแค่แสนเดียวได้หรือไม่ ถามหล่อนว่าทำไมต้องมีสินสอดสองแสนถึงจะได้ยอมแต่งงานกับเขา ถามว่าหญิงสาวรักเขาหรือไม่
แต่ว่าก็ไม่มีประโยชน์ หล่อนพูดกับเขาอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกผิดใดๆ ถ้าไม่มีเงินสินสอดสองแสนจะไม่ยอมแต่งงาน ถ้าไม่มีบ้านที่ไม่ไร้หนี้ก็จะไม่แต่งงาน อีกทั้งบ้านยังต้องมีชื่อของหล่อนด้วย!
สวี่ฉู่หมิงดื่มไวน์อึกหนึ่ง แล้ววางแก้วไวน์ลง “เย่เฉินนายทำอะไรน่ะ? นายไม่ช่วยเขาก็ควรจะเงียบไป คิดไม่ถึงว่าจะยั่วยุไม่ให้เสี่ยวเฉิงจ่ายเงินสินสอด? นี่เท่ากับว่านายกำลังบีบให้เขาสองคนเลิกกันไม่ใช่หรือไง? คนเราต้องโน้มน้าวให้คนรักพูดคุยกันไม่ใช่เลิกกัน หรือว่านายไม่เข้าใจเหตุผลนี้?”
เย่เฉินย้อนถามสวี่ฉู่หมิง “หรือคุณคิดว่าบ้านหนึ่งหลัง รถหนึ่งคันกับสินสอดสองแสนมันสมเหตุสมผลมากหรือไง?”
สวี่ฉู่หมิงตอบ “ก็ต้องสมเหตุผมสิ! เงินสินสอดสองแสนยังน้อยไปเลย ถ้าเป็นฉันต้องเริ่มที่ล้านหยวน! กระทั่งบ้านนายยังไม่มี ลูกสาวคนอื่นแต่งงานกับนายจะให้หล่อนกัดก้อนเหลือกินเหรอ?
สินสอดไม่กี่แสนยังไม่มี ไร้ประโยชน์! ขยะ! มีแค่ผู้ชายไร้ความสามารถถึงได้กลัวสินสอดราคาแพง!”
เย่เฉินยิ้มเย็น สวี่ฉู่หมิงมีเงิน เขาย่อมชอบพูดจาแบบนี้
ถ้าหากว่าเย่เฉินเป็นคนจนจริงๆ บางทีอาจจะรู้สึกว่าสวี่ฉู่หมิงพูดมีเหตุผลจริงๆ แต่ว่าเขาเคยเจอคนมามากมายเกินไป เคยเห็นเรื่องราวต่างๆ มาก็มากเช่นกัน คำพูดที่ตรรกะบิดเบี้ยวนี้ของสวี่ฉู่หมิงไม่อาจทำให้เขาสะทกสะท้านได้แม้แต่น้อย!
เย่เฉินชี้สวี่ฉู่หมิงแล้วกล่าว “มิน่าเด็กผู้หญิงตอนนี้ต่างก็เป็นพวกวัตถุนิยม ถึงได้ไม่เหลือบแลผู้ชายที่อายุเท่ากัน เพราะโดนผู้ชายแก่อย่างคุณล้างสมองไปแล้ว!
พวกผู้ชายสูงอายุที่อยู่สูงส่งร่ำรวย มีเงิน มีอำนาจอย่างคุณ เอาแต่ล้างสมองเป่าหูผู้หญิงที่อายุน้อยอยู่ได้ เอาแต่บอกให้หล่อนให้ไขว่คว้าหาชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่า ต่อให้ของพวกนั้นเดิมทีไม่ใช่สิ่งที่พวกหล่อนจะสามารถครอบครอง
จากนั้นพวกคุณก็จะสามารถเอาชนะข้อด้อยในเรื่องของอายุ แล้วแย่งผู้หญิงไปจากพวกผู้ชายอายุน้อยๆ สวี่ฉู่หมิง ผมล่ะก็คิดว่าคุณเป็นนักธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม ตอนนี้ถึงได้พบว่าคุณเป็นคนหน้าด้านแบบนี้!”
สวี่ฉู่หมิงหัวเสีย “นาย…เลอะเทอะ! นายมันคนจน ตัวเองไม่มีปัญญาแล้วยังโทษคนอื่นอีกเหรอ? ถ้าพวกนายมีความสามารถ ใครจะแย่งเมียนายไปได้ล่ะ?”
สวี่ฉู่หมิงเองก็ละอายใจมากแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดคำจาของเย่เฉินก็รู้สึกเหมือนแทงใจดำเขา
หลายปีมานี้ สวี่ฉู่หมิงเขาได้ครอบครองผู้หญิงอายุน้อยหน้าตาสะสวยจากเงินทองของเขา ในบรรดาหญิงสาวเหล่านี้มีบางส่วนที่มีสามีหรือแฟนหนุ่ม อีกทั้งยังรักและหลงหล่อนมาก
สวี่ฉู่หมิงเองก็เป็นเหมือนที่เย่เฉินพูด นอกเหนือจากข้อเสนอเรื่องการทำงานแล้ว ก็จะพูดถึงวิลล่า รถหรู ท่องเที่ยวหรือพวกของแบรนด์เนมเป็นต้น
บอกพวกหล่อนว่าผู้หญิงควรจะมีของพวกนี้ ชีวิตถึงจะคุ้มค่า
ถ้าหากว่าแฟนไม่สามารถหามาให้หล่อนได้ พวกหล่อนจะแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นไม่ได้
เมื่อโดนล้างสมองไปเรื่อยๆ สวี่ฉู่หมิงแทบจะไม่ต้องไล่ตามจีบหล่อน แต่ทันทีที่เจ้าหล่อนเริ่มคล้อยตามความคิดนี้แล้วเช่นนั้นการได้นอนกับสาวๆ เหล่านั้นก็เป็นเรื่องแน่เหมือนแช่แป้ง
ความจริงแล้ว ตอนนั้นสวี่ฉู่หมิงก็หลอกล่อให้ฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงของเขาด้วยวิธีการเดียวกัน!
ไม่เพียงเท่านั้น ในระยะเวลาสามปีนั้นที่เลี้ยงดูหล่อน สวี่ฉู่หมิงเองก็เอาแต่ล้างสมองหล่อนบอกหล่อนว่าไม่ต้องหาผู้ชายที่ชอบแต่จงหาผู้ชายที่มีความสามารถ
ดังนั้นสวี่ฉู่หมิงถึงได้มั่นใจว่าฉินหงเหยียนและเย่เฉินไม่มีทางคบหากันได้เกินครึ่งปี
“ความสามารถ?”
เย่เฉินย่อมมีความสามารถ ไม่ว่าจะต่อยตี วิวาท เปียโนหรือในขอบเขตความสามารถอื่นๆ เย่เฉินต่างก็ถือว่าเป็นระดับสุดยอด
แต่นี่คือเกิดขึ้นมาเพราะเขาได้รับความทุกข์ทรมานตั้งแต่เด็ก และได้รับการฝึกฝนอย่างเป็นมืออาชีพแต่เด็ก
ผู้ชายทั่วๆ ไปอายุ 20 กว่าปี เหมือนคนอย่างเฉิงว่านหลี่จะมีความสามารถอะไรได้?
เย่เฉินถามสวี่ฉู่หมิง “ตอนคุณอายุ 20 กว่าๆ มีความสามารถอะไรบ้าง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)