เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 220

เย่เฉินไม่สนใจหรอกว่าเหอเหวินเจี้ยนทำงานที่บริษัทไป๋ลี่กี่ปี ทุ่มเทเสียสละให้กับบริษัทมาเท่าไหร่

ตอนนี้เย่เฉินต่างหากที่เป็นเจ้าของตัวจริงที่ชักใยอยู่เบื้องหลังไป๋ลี่ เขาไม่ชอบใครก็ไล่ออกได้ทั้งนั้น!

ทว่าจะให้เลิกจ้างเหอเหวินเจี้ยนไปแบบนี้ เขาชักจะสบายไปหน่อย

ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็นึกถึงตู้ลึกลับในสนามกอล์ฟอวี๋ซานของหลิ่วอวี่เจ๋อ

นี่เป็นข้อมูลที่เย่เฉินแอบได้ยินตอนซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมของหวังเจียเหยาตอนอยู่ญี่ปุ่น

หลังจากกลับประเทสแล้วเขาก็ให้หลิวเจิ้งคุนลองไปสืบดู แต่ว่าที่สนามกอล์ฟแห่งนั้นต้องสมัครสมาชิกก่อน สถานที่บางแห่งถือว่าเป็นสถานที่ของกลุ่มคนในบางระดับ หลิวเจิ้งคุนไม่สามารถเหยียบย่างเข้าไปใกล้ได้แม้แต่น้อย

ทันทีที่ฝืนบุกเข้าไป หรือไม่ก็ใช่วิธีอื่นในการไปฉกเอามา เย่เฉินก็กลัวว่าจะรังแต่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเปล่าๆ

เขาเองก็สามารถใช้หวังเจียเหยาไปเข้าใกล้ตู้นั้นได้ แต่เขาไม่อยากจะนัดเจออีกฝ่าย เพราะว่าทุกครั้งที่ทั้งสองคนเจอกันตามลำพังเหมือนจะมีเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นเกิดขึ้นบ่อยๆ…

ตอนนี้เขาสามารถใช้เหอเหวินเจี้ยนเข้าใกล้ตู้นั้นได้

ดังนั้นเย่เฉินถึงได้เดินไปหาหวังเอ้อร์เชอแล้วกล่าว “ไอ้หนุ่ม คำพูดที่ฉันกำลังจะพูดกับนายในตอนนี้จำไว้ให้ดีๆ ล่ะ เดี๋ยวนายโทรหาเหอเหวินเจี้ยนอานาย เขาอาจถามนายเรื่องนายเป็น LGBTQ+ หรือเปล่า ให้นายตอบว่าไม่ใช่ แล้วบอกว่าเจ้านายของนายหลิ่วอวี่เจ๋อ ต้องการจะแกล้งนายให้ได้ บังคับให้นายแชร์โพสต์นี้ลงในโซเชียล”

หวังเอ้อร์เชอชะงักไป “เจ้านายของผมคือหลิ่วอวี่เจ๋อเหรอ?”

เย่เฉินพยักหน้า “นายบอกว่าหลังจากที่ไป๋ลี่เลิกจ้างนายแล้ว นายก็ไปเป็นคนขับรถของชุนเฟิงถูกส่งให้ไปขับรถให้หลิ่วเฟิ่งและหลิ่วอวี่เจ๋อ หลิ่วอวี่เจ๋อรู้ว่านายเคยทำงานที่ไป๋ลี่ก็เลยเอาแต่รังแกนาย แถมยังเอานายไปดื่มเหล้าที่บาร์ด้วย แต่ถึงแม้ว่านายจะโดนรังแก แต่ก็แอบได้ยินความลับของหลิ่วอวี่เจ๋อเข้า เขามีตู้อยู่ที่สนามกอล์ฟอวี๋ซาน ในตู้ซ่อนเอกสารลับต่างๆ มากมายของบริษัทชุนเฟิง นายไปบอกเหอเหวินเจี้ยนว่าทันทีที่เขาได้เอกสารพวกนี้มา ก็จะสามารถโจมตีชุนเฟิงได้!”

หวังเอ้อร์เชอถือเป็นคนฉลาด แค่พูดครั้งเดียวเขาก็พยักหน้ารับ “ผมเข้าใจแล้วครับ พี่เย่!”

“โทรศัพท์สิไป” เย่เฉินสั่ง

หวังเอ้อร์เชอรีบร้อนโทรหาเหอเหวินเจี้ยนทันที

และเป็นไปตามที่คาด ประโยคแรกที่อีกฝ่ายกล่าวก็คือ “หลานชายนายเป็นอะไรไป? ทำไมจู่ๆ ก็เกิดชอบผู้ชายขึ้นมาเสียอย่างนั้น? นายรู้หรือไม่ว่าทำแบบนี้พ่อแม่ของนายจะประสาทเสียเอา! เร็วๆ เลยรีบจัดการแก้ไขให้กลับมาเป็นแบบเดิมเลย”

หวังเอ้อร์เชอกล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณอาครับ ผมไม่ชอบผู้ชาย ผมชอบผู้หญิง! ที่ต้องแชร์ลงโซเชียลแบบนั้นเพราะเจ้านายของผมเข้าแกล้งผม บังคับให้ผมแชร์อะไรแบบนั้นออกไป”

“เจ้านายของนาย? นายไปทำงานแล้วเหรอ? นายกะจะออกจากเทียนไห่ไปเที่ยวที่เมืองนอกไม่ใช่หรือไง?” เหอเหวินเจี้ยนถาม

ผู้เป็นหลานชายตอบ “ครับ ผมไปทำงานเป็นคนขับรถที่บริษัทศัตรูคู่อาฆาตของอาอย่างชุนเฟิงไงครับ”

“บริษัทเอ๊กซ์เพรสชุนเฟิง!” เหอเหวินเจี้ยนตกใจ “งั้นเจ้านายที่นายบอกว่ารังแกนายคือใครล่ะ?”

“หลิ่วอวี่เจ๋อ!” หวังเอ้อร์เชอกล่าวพลางระบายยิ้ม

เหอเหวินเจี้ยนกล่าว “ที่แท้ก็ไอ้เด็กเลวคนนั้นนี่เอง คราวก่อนเขาก็บังคับห้ามฉันรับฉินหงเหยียนเข้าทำงาน ฉันไม่ไว้หน้าเขา ที่เขาจงใจล่วงเกินทำให้นายขายหน้าอย่าบอกนะว่าเพราะเรื่องนี้?”

หวังเอ้อร์เชอปรายตามองเย่เฉิน แล้วเขาก็รีบกล่าวกับโทรศัพท์ที่เปิดลำโพงอยู่ หลังจากสบตาของเย่เฉิน

“ใช่ๆ ผมพูดถึงอา บอกว่าอาเป็นอาผม เขาถึงได้เริ่มรังแกผมแล้วก็มอมเหล้าผม แล้วให้ผมแต่งหญิง แล้วให้ผมแชร์ลงในโซเชียลว่าผมเป็น LGBTQ+! คุณอา อารู้ไหมครับเมื่อกี้แม่ผมก็โทรมา อารู้ไหมครับว่าแม่พูดว่าอะไร? แม่…”

หวังเอ้อร์เชอพูดไปพูดมา น้ำเสียงก็เริ่มสั่นเครือ

ในตอนนี้เย่เฉินขมวดคิ้ว หวังเอ้อร์เชอไม่กล้าพูดเหลวไหลอะไรอีก

“ไอ้เด็กปากสว่าง” เย่เฉินส่ายหน้า

ทว่าถึงเจ้าเด็กนี้จะปากสว่างแต่ตอนเวลาโกหกนี่ พูดได้เป็นอย่างๆ ธรรมชาติสุดๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)