เขาไม่อยากจะข้องแวะกับผู้หญิงที่แขวะคนเก่งแบบนี้
เย่เฉินขอโทษซูมู่เสวี่ย “ขอโทษด้วยครับ ผมคิดว่าคุณคือพี่สาวเขา”
พอได้ยินคนขับรถของซูมู่หลินพูดแบบนี้ ซูมู่เสวี่ยก็เกิดริษยาขึ้นมา
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ในแวดวงคนร่ำรวยของเมืองหลวงทุกคนต่างก็พูดถึงซูมู่ชิง ไม่เคยมีใครพูดถึงหล่อนซูมู่เสวี่ยด้วยซ้ำ
จนตอนนี้คิดไม่ถึงว่าคนขับรถตัวเล็กๆ จะมองหล่อนเพียงเพราะเข้าใจผิดว่าหล่อนเป็นซูมู่ชิง
นี่จะทำให้หล่อนทนได้ยังไง!
ซูมู่เสวี่ยหัวฟัดฟัวเหวี่ยง แต่ก็จะระบายอารมณ์มากก็ไม่ได้ กล่าวแล้วเอ่ยพลางยิ้ม
“เหอะๆ ฉันไม่ได้สวยเหมือนซูมู่ชิง แต่ซูมู่ชิงสวยขนาดไหนจะมีประโยชน์อะไร? หล่อนเคยทำอะไรให้ตระกูลอะไรเราบ้าง? สี่ปีก่อน ตระกูลจัดแจงหาคู่แต่งงานให้หล่อน แต่หล่อนไม่ยอมรับ หนีไป แล้วผลเป็นยังไง? พอกลับมาก็ท้องโย้แล้ว ลูกใครก็ไม่รู้ จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องอะไร ตอนอายุน้อยใครจะไม่เคยทำผิดบ้างล่ะ? ทำแท้งให้จบๆ ไปก็ดีแล้ว แต่ว่าหล่อนกลับขัดขืนความต้องการของพ่อ ดึงดันจะคลอดลูกออกมาให้ได้!
คลอดลูกออกมาแล้วก็น่าจะพอได้แล้ว แต่ยังมีหน้ายืนกรานว่าจะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต แต่จะอยู่เลี้ยงลูกแบบนี้ตลอดไปอีก ไม่ว่าจะใครมาขอดูตัวก็ไม่ยอมเจอ ตอนนี้หล่อนมีลูกาวอายุ 3 ขวบ คนที่มีฐานะเหมือนๆ กันใครจะอยากได้หล่อน? ก็มีแค่มีพี่เฉิงเจี๋ยที่รักหล่อนหัวปักหัวปรำเท่านั้นแหละ
แต่ว่าวันนี้พอพี่เฉิงเจี๋ยมา หล่อนไม่ยอมแม้แต่จะมาเจอหน้ากัน ไม่ไว้หน้าพี่เฉิงเจี๋ยเลย เสียมารยาทเกินไปแล้ว!”
ซูมู่เสวี่ยร่ายความผิดของซูมู่ชิงออกมาเป็นข้อๆ
แต่พอได้ยินคำพูดพวกนี้ของซูมู่เสวี่ยแล้ว เย่เฉินก็ตื่นตระหนกซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
“ซูมู่ชิงตั้งท้องแล้วเหรอ? หรือว่าจะเป็นลูกเรา?”
เย่เฉินไม่รู้ว่า ‘เด็กเหลือขอ’ ที่ซูมู่ชิงพูดถึงจะใช่ผลลัพธ์ครั้งนั้นระหว่างเย่เฉินและซูมู่ชิงหรือไม่นะ
“สามขวบ… ฉันมีลูกสาวอายุสามขวบเหรอ?”
เย่เฉินใจเต้นระรัวเร็ว เดิมทีครั้งนี้เขาตั้งใจว่าจะพบหน้าซูมู่ชิง เพื่อขอโทษหล่อนสักหน่อย
คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เขาจะมีโอกาสได้มีลูกสาวอายุสามขวบเสียอย่างนั้น!
และในเวลานี้เอง สีหน้าของพ่อแม่ของซูมู่หลินก็ดูไม่ใคร่สู้ดีนัก
แม่ของซูมู่หลินกล่าว “เฉิงเจี๋ยเอ้ย สบายใจเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปขึ้นไปบนตึกเอง ต่อให้ต้องลาก ฉันก็จะลกหล่อนลงมาให้ได้!”
แต่ทันใดนั้นเองซูมู่หลินก็ขวาทางมารดาตนเอง “เฮ้อ แม่ครับ อย่าขึ้นไปทะเลาะกับพี่เขาเลยครับ ให้คนขับรถของผมขึ้นไปดีกว่า”
“คนขับรถของลูก?”
แววตาของทุกคนจับจ้องไปที่เย่เฉินทันที
เย่เฉินเองก็ประหลาดใจใอย่างมาก
ตอนหลี่เฉิงเจี๋ยมองเย่เฉินด้วยแววตาไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด
เพราะเมื่อครู่เย่เฉินกล่าวกับซูมู่เสวี่ยว่า ‘คิดว่าหล่อนเป็นซูมู่ชิงถึงได้คอยแอบมองหญิงสาว’
ในฐานะที่เป็น ‘ว่าที่คู่หมั้น’ ของซูมู่ชิง เขาไม่มีทางยอมให้ผู้ชายคนอื่นมองหญิงสาวที่เขาชอบด้วยแววตาชื่นชมอย่างนี้
ซูมู่เสวี่ยกล่าวพลางยิ้ม “จะใช้เขา? เรียกให้ซู่มู่ชิงลงมาเหรอ? เลิกล้อเล่นที ต่อให้นายมู่หลินเรียกพี่สาวนายลงมาเอง พี่สาวนายก็อาจจะไม่ลงมาก็ได้นะ”
ซูมู่หลินยิ้มแล้วกล่าว “ดังนั้นน่ะ ถ้าหากว่าพี่สาวผมไม่ยอมลงมา ก็ให้คนขับรถผมอุ้มหล่อนลงมาแล้วกัน แม่เองก็ทำอะไรพี่สาวผมไม่ได้”
คนตระกูลซูเข้าใจนิสัยของซูมู่ชิง รู้ดีแก่ใจไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไรก็ไม่สามารถกล่าวกับซูมู่ชิง สุดท้ายแล้วอาจจะต้องใช้ไม้แข็งถึงจะลากตัวหล่อนลงมาได้
ดังนั้นแม่ซูมู่หลินก็ไม่คัดค้านอะไรอีก “อืมได้ งั้นให้เด็กนี่ขึ้นไปแล้วกัน”
“ซูมู่ชิง… สุดท้ายก็จะได้เจอคุณแล้ว”
เย่เฉินดีใจมาก เขาเองก็อยากจะเห็นหน้าของซูมู่ชิงตั้งนานแล้ว
ระหว่างทางที่บินมาจาก Texas กลับมาถึงเมืองหลวง เย่เฉินก็อยากจะได้เห็นรูปถ่ายของซูมู่ชิง แต่น่าเสียดายที่ไอ้บ้านั่นไม่ยอมให้เขาดูสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)