เขาตั้งใจจะไปคุยกับเย่เฉินด้วยด้วยสถานะของปู่ เพื่อหลานสาวของตนเอง!
ทว่าในเวลานี้เองจู่ๆ คนใช้ก็เดินเข้าไปในห้องแล้วกล่าว “นายท่าน สวี่ฉู่หมิงจากเมืองเสินเฉิงส่งการ์ดแต่งงานมาครับ”
ซูมู่หลินเอื้อมมือไปรับการ์ดเชิญมา แล้วโบกมือใส่คนใช้เป็นสัญญาณบอกให้อีกฝ่ายออกไป
จากนั้นก็กล่าวพร้อมระบายยิ้ม “ฉันจำได้ว่าสวี่ฉู่หมิงอายุตั้ง 50 กว่าแล้วไม่ใช่เหรอ? ภรรยาเขาเพิ่งตายไปได้ไม่กี่ปี คิดไม่ถึงว่าเขาจะแต่งงานใหม่เร็วขนาดนี้ นี่มันเป็นหลักฐานของว่าเขามันคนโลเลชัดๆ คุณปู่ครับผมว่าตระกูลซูของเราต่อไปไม่ต้องช่วยเขาแล้วล่ะครับ เกิดวันไหนเราพลาดกันขึ้นมา คนประเภทนี้ก็ไม่มีทางช่วยเราหรอกครับ”
ตระกูลซูกับสวี่ฉู่หมิงไม่ได้ไม่รู้จักกันไปเสียทีเดียว เพราะว่าสวี่ฉู่หมิงนั้นเคยได้รับความช่วยเหลือจากซูเจิ้นหางมาก่อน
หลายปีมานี้เขาได้กลายเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของเมืองเสินเฉิงได้อย่างง่ายดายนั้น ส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นต้องยอมรับว่าเป็นฝีมือของตระกูลซู
ทันทีที่ซูเจิ้นหางถูกใจใครก็จะช่วยลงทุนให้อย่างลับๆ ทันทีเพื่อรักษาสถานะภาพของตระกูลในประเทศแห่งนี้
ตอนแรกเขาเห็นว่าสวี่ฉู่หมิงเป็นคนที่มีความสามารถมากพอในการทำธุรกิจ ดังนั้นถึงได้เสนอตัวให้ความช่วยเหลือเขา เหมือนที่เคยช่วยเย่ฉงไห่เมื่อสิบปีก่อน
แต่เพราะหวังว่าในอนาคตวันไหนกาดว่าสวี่ฉู่หมิงร่ำรวย หรืออาจจะสิบปีหลังจากนี้ทายาทของเขาเก่งกล้าอาจจะพอช่วยคนรุ่นหลังของตระกูลซูได้
ซูเจิ้นหางไม่หันมองการ์ดแต่งงานด้วยซ้ำ ด้วยคนในระดับอย่างเขาไม่มีทางไปร่วมงานแต่งงานง่ายๆ แน่
ซูเจิ้นหางกล่าว “ลองหาเวลาว่างๆ ไปเมืองเสินเฉิงสักหน่อย”
ซูมู่หลินกล่าว “ผมไม่ไปหรอกครับ ผมไม่สนิทกับเขา คุณปู่ให้ซูมู่ชิงไปสิครับแต่ว่าพูดถึงสวี่ฉู่หมิงคนนี้เหมือนว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเย่เฉินอยู่นะครับ”
“เหรอ?” พอพูดถึงเย่เฉิน ซูเจิ้นหางก็สนใจเรื่องนี้ทันที
ซูมู่หลินกล่าว “คุณปู่จำได้ไหมครับว่าตอนนี้เย่เฉินมีแฟนคนหนึ่งน่ะครับ? หล่อนชื่อฉินหงเหยียนเป็นผู้บริหารหญิงที่สวยที่สุดในเทียนไห่ที่เคยออกทีวีคนนั้นน่ะครับ หล่อนเป็นคนเมืองเสินเฉิง อีกทั้งได้ยินมาว่าหล่อนเคยเป็นแฟนกับสวี่ฉู่หมิง ฮ่าๆ คิดออกแล้ว ฉินหงเหยียนมีน้องสาวเป็นแอร์โฮสเตสด้วยครับ ชื่อฉินเสี่ยวตั่ว สวยมากทีเดียว
“爷爷,您说许楚明娶的会不会是秦小朵?姐姐被叶辰抢走了,就娶她妹妹,哈哈,许楚明这老狗,这样的事,肯定做得出来,哈哈!”
“คุณปู่ครับ คุณปู่ว่าสวี่ฉู่หมิงแต่งงานกับฉินเสียวตั่วหรือเปล่าครับ? พี่สาวโดนเย่เฉินแย่งไปแล้ว เลยแต่งงานกับน้องสาวหรือเปล่า ฮ่าๆ สวี่ฉู่หมิงไอ้เดียรัจฉาน กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้อยู่แล้ว ฮ่าๆ”
ซูเจิ้นหางขมวดคิ้วแล้วมองซูมู่หลิน “ห้ามพูดเหลวไหล สวี่ฉู่หมิงไม่ได้ต่ำต้อยแบบที่cdพูด เขาเป็นคนที่มั่นคงอยู่นะ”
“ฮ่าๆ ในโลกนี้มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้บ้าง ผมพนันว่าเขาต้องแต่งกับฉินเสี่ยวตั่วแน่!”
เดิมทีซูมู่หลินไม่ตั้งใจจะเปิดการ์ดแต่งงาน แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มอยากรู้บ้างแล้ว
เขาอยากจะดูว่าสวี่ฉู่หมิงจะไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขนาดนั้นเลยจริงหรือเปล่า ถึงขั้นที่ว่าไม่ได้ฉินหงเหยียน ก็หันไปคว้าเอาฉินเสี่ยวตั่วที่อายุยังน้อยไม่ทันโลกอะไร
ดังนั้นซูมู่หลินจึงเปิดการ์ดแต่งงานดูอย่างสนอกสนใจ
แต่เมื่อเห็นเนื้อหาบนการ์ดแต่งงานเขาก็ต้องตกใจ!
“เรียนเชิญ ‘ท่านซู: ซูเจิ้นหาง’ มาเข้าร่วมงานพิธีมงคลสมรส ณ Grand Sky Light Hotel Shenzhen ในวันที่ 15 เดือนมีนาคม ในเวลา 18:00 น. เจ้าบ่าว: สวี่ฉู่หมิง เจ้าสาว: ฉินหงเหยียน!
ฉินหงเหยียน! คิดไม่ถึงว่าเจ้าสาวคือฉินหงเหยียน! ทำไมเจ้าสาวถึงเป็นฉินหงเหยียนไปได้!”
หลังจากเห็นชื่อเจ้าสาวแล้ว ซูมู่หลินก็โวยวายอกมาเสียงดัง!
เย่เฉินเป็นศัตรูคู่แค้นของซูมู่หลิน เขาย่อมต้องรู้เรื่องราวในชีวิตของเย่เฉินเป็นอย่างดี รู้เรื่องหวังเจียเหยา แล้วย่อมต้องรู้เรื่องฉินหงเหยียนด้วย!
ฉินหงเหยียนในตอนนี้เป็นคู่หมั้นของเย่เฉินนี่นา!
แต่ว่าทำไมหล่อนถึงไปแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงได้?
“อะไรนะ?”
คราวนี้กลายเป็นซูเจิ้นหางที่ปกติจะนิ่งๆ ตกใจแทน “แกจะบอกว่าฉินหงเหยียนคนที่กำลังจะแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงอยู่รอมร่อคนนี้เป็นแฟนคนปัจจุบันของเย่เฉินเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)