ว่านเจิ้งหาวคนนี้ใจกล้าเกินไปแล้ว!
เฉินเย่กรุ๊ปซื้อธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์มากมาย แถมยังเป็นหุ้นใหญ่ของเดลิเวอรี่ถวนถวนด้วย
แค่เดลิเวอรี่ถวนถวนที่เดียวก็มีมูลค่าหลักแสนล้านแล้ว!
ถ้าได้หุ้นสามในสิบของเฉินเยากรุ๊ปมา อย่างน้อยๆ ก็น่าจะมีมูลค่าหลายพันล้าน!
บ้านในอ้ายฉินไห่ซานจวงแห่งนี้อย่างมากก็ขายได้แค่ไม่กี่ล้าน ยิ่งไปกว่านั้นต้นทุนของบ้านก็ต่ำเรี่ยดิน
ทำไมเขาถึงได้ใจกล้า กล้าจะเสนอราคาที่เวอร์วังขนาดนี้ให้เย่เฉิน?
เย่เฉินมองว่านเจิ้งหาวแล้วกล่าว “คุณว่าน นี่คุณกำลังไถเงินผมนี่นา หุ้น 30% ของเฉินเย่กรุ๊ปนี่คุณรู้ไหมว่ามันมีมูลค่าเท่าไหร่? คิดไม่ถึงว่าคุณจะกล้าใช้วิลล่าเน่าๆ นี่ของคุณแลกเปลี่ยนกับหุ้นบริษัทผม”
ว่านเจิ้งหาวหัวเราะเสียงดัง “ใช่แล้วครับ ผมรู้ว่าวิลล่าแห่งนี้ของผม มีมูลค่าไม่ถึง 30% ของเฉินเย่กรุ๊ปหรอกครับ แต่ว่ามีของบางอย่างที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้? คุณเย่มีเงินขนาดนี้ จะสร้างบริษัทแบบเฉินเย่กรุ๊ปอีกซักแห่งก็ไม่น่ายากจริงไหม?”
เย่เฉินพูดไม่ออก “ผมมีเงิน แต่ก็คงไม่ถึงขนาดต้องทำทานขนาดนี้หรอกนะ? ต่อให้ผมอยากทำบุญก็คงไม่จำเป็นต้องทำกับคุณจริงไหม?”
ว่านเจิ้งหาวกล่าวพลางระบายยิ้ม “นี่บังเอิญพอดีเลยไม่ใช่เหรอครับ? คุณอยากจะเข้าไปในวิลล่าของผมพอดี ถ้าผมไม่อนุญาตต่อให้คุณรวยขนาดไหน มีเงินมากเท่าไหร่ก็เข้าไปไม่ได้อยู่ดี”
“บังอาจ! คนแซ่ว่าน นี่แกอยากจะไถเงินคุณเย่ของเราชัดๆ!” หลิวเจิ้งคุนหัวเสีย
รอยยิ้มที่กรุ้มกริ่มเกรงใจของว่านเจิ้งหาว ที่จริงมันอาบยาพิษเอาไว้
ว่านเจิ้งหาวเห็นหลิวเจิ้งคุนที่เหงื่อไหลท่วมตัวก็กล่าวพลางระบายยิ้ม “ใช่แล้วครับ ผมกำลังจะไถเงินคุณเย่!”
อะไรนะ?!
เย่เฉินและหลิวเจิ้งคุนชะงักไป เจ้าของอสังหาที่ตัวไม่สูงนักคนนี้จะตรงไปตรงมาขนาดนี้ โดยบอกเย่เฉินตรงๆ ว่าต้องการจะไถเงินเขา!
แววตาเย่เฉินฉายแววอำมหิต “คุณว่าน คุณรู้ไหมว่าเงิน 30% ของเฉินเย่กรุ๊ปนี้ ผมสามารถใช้มันซื้อชีวิตคุณกี่เท่าไหร่?”
เย่เฉินพูดตรงไปตรงมา เขาไม่ใช่คนโง่ ถ้าหากว่าเขาแบ่งหุ้น 30% ของเฉินเย่กรุ๊ปให้กับว่านเจิ้งหาวไม่สู้เอาเงินก้อนนี้ไปจ้างคนมาฆ่าเขาดีกว่า
ว่านเจิ้งหาวยังคงไม่หวาดกลัวอะไร “คุณเย่ ที่นี่คือเมืองเสินเฉิง คุณเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก อย่าเลอะเลือนนักสิ เขาว่ากันว่ามังกรเอาชนะงูเจ้าที่ไม่ได้ รถคันนี้ของคุณยังเป็นรถที่เช่ามาเลย คงอยากจะข่มขวัญกันล่ะสิ? ฮ่าๆ
แล้วอีกอย่างผมมีบอดี้การ์ดอยู่แล้ว อีกทั้งถ้าคุณกล้าทำอะไรบ้าๆ ให้คนของคุณบุกเข้ามา ผมจะโทรแจ้งตำรวจทันที ผมไม่เชื่อว่าคุณจะกล้ามีเรื่องกับตำรวจ!”
ว่านเจิ้งหาวเหมือนแน่ใจว่าจัดการเย่เฉินได้แน่ๆ แล้ว แน่ใจว่าเย่เฉินจะต้องยอมฟังเขาแต่โดยดี และยอมมอบหุ้น 30% ของบริษัทให้อีกฝ่ายแต่โดยดี
ฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงที่เย่เฉินรักที่สุด คิดว่าเย่เฉินจะทำทุกอย่างเพื่อฉินหงเหยียน อย่าว่าแต่ 30% ของเฉินเย่กรุ๊ป ต่อให้ไม่เหลืออะไรเย่เฉินก็ไม่เสียดาย!
แต่ว่าเย่เฉินไม่ใช่คนโง่ เห็นได้ชัดว่าว่านเจิ้งหาววางแผนเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อจะไถเงินเย่เฉิน เย่เฉินไม่อยากจะเป็นคนผิด
เพื่อจะให้เห็นหน้าฉินหงเหยียน จะยอมมอบทุกอย่างให้อีกฝ่าย
เย่เฉินมองว่านเจิ้งหาวพลางกล่าว “คุณคงจะเป็นคนของสวี่ฉู่หมิงใช่ไหม?”
ว่านเจิ้งหาวและหลิวเจิ้งคุนต่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะจู่ๆ พูดถึงสวี่ฉู่หมิงขึ้นมา
ที่จริงแล้วตอนที่ยามเห็นเอกสารประจำตัวของเย่เฉินเมื่อครู่ หลิวเจิ้งคุนก็สังเกตเห็นความผิดปกติบนใบหน้าพวกเขา
ทำไมตอนที่เห็นเอกสารของหลิวเจิ้งคุน ไม่ได้ท่าทีอะไรแต่หลังจากเห็นชื่อเย่เฉินแล้วก็มีท่าทีลำบากใจขึ้นมา?
มีเพียงความเป็นไปได้เท่านั้นก็คื ก่อนนี้มีคนคาดการ์เอาไว้ว่าเย่เฉินจะมาที่นี่ ดังนั้นถึงได้จงใจให้ยามทุกคนคอยตรวจสอบทุกคนที่เข้ามาที่นี่ ทันทีพบว่ามีคนชื่อเย่เฉินมาที่นี่ให้หาเรื่องเขาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)