สวี่โม่โม่คนนี้เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เลยคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น
เย่เฉินโตที่เมืองนอก เคยไปประเทศต่างๆ มาแล้วทั่วโลก ก็ไม่คิดว่าเมืองนอกจะดีกว่าที่บ้านเราตรงไหน
คนละพื้นที่ก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บวกกับความเชื่อที่มีก็แตกต่างกันอีก แค่นี้ก็แตกต่างกันแล้ว เพราะฉะนั้นนี่ถือเป็นเรื่องปกติมากทีเดียว
ส่วนเรื่องมารยาทนั้น สถานการณ์ของคนในประเทศนี้ดีกว่าแต่ก่อนมากแล้ว แต่ในความคิดของสวี่โม่โม่เหมือนยังคงหยุดอยู่ที่ตอนเมื่อหลายสิบปีก่อนตอนที่ทุกคนยังยากจน ไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนเขียนอ่าน มีความรู้
ทว่าเย่เฉินยังไม่แขวะสวี่โม่โม่ ตอนนี้เขากำลังแสร้งทำตัวเป็นแขกต่อแถวอยู่ด้านหลังของหญิงสาวพร้อมๆ กับหลิวเจิ้งคุน เพราะเขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร
เขาย่อมสามารถแสดงตัวแล้วลากหญิงสาวขึ้นรถแล้วถามหล่อนว่าบิดาของหล่อนอยู่ที่ไหน
แต่เย่เฉินเดาว่าด้วยนิสัยเย่อหยิ่งที่แบบเด็กนอกของสวี่โม่โม่ คงจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องจบไปง่ายๆ อีกฝ่ายน่าจะเป็นคนจำพวกที่รู้จักใช้กฎหมายในการปกป้องตนเอง
เย่เฉินตัดสินใจเดินตามหล่อนไปก่อน ดูว่าพอจะได้ข่าวคราวอะไรของสวี่ฉู่หมิงจากปากของหญิงสาวและแฟนหนุ่มหรือไม่
และแล้วก็ถึงตาของเย่เฉินและสวี่โม่โม่อย่างรวดเร็ว
ทั้งสี่คนเดินเข้าไปในร้าน โดยสวี่โม่โม่และแฟนหนุ่มของหล่อนเป็นฝ่ายเลือกที่นั่งก่อน ส่วนเย่เฉินและหลิวเจิ้งคุนก็นั่งลงบริเวณที่นั่งด้านหลังพวกเขาสองคน เพื่อจะได้แอบฟังคำพูดของพวกเขาได้อย่างสะดวก
บังเอิญที่ฝั่งขวาของพวกเขาเป็นคู่รักคู่หนึ่ง เป็นชายชาวจีนและสาวสวยประเทศยูเครน
คู่รักคู่นี้จับมือกันขณะกินขนม กินพลางถ่ายภาพแชร์ในโซเชียลด้วย ดูแล้วหวานชื่นอย่างยิ่ง
เมื่อเย่เฉินเห็นทั้งสองคนก็รู้สึกปลาบปลื้ม นั่นเพราะมีความเป็นไปได้อย่างมากที่หญิงสาวชาวยูเครนคนนี้จะเป็นพนักงานขนส่งที่เย่เฉินรับสมัครมาจากยูเครน
สาเหตุที่เย่เฉินทำแบบนี้เพราะหวังว่าหญิงสาวต่างชาติจะแต่งงานกับชายชาวจีน
แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่สวี่โม่โม่เห็นทั้งสองคนแล้วกลับพูดภาษาอังกฤษออกมาว่า “ขยะแขยงจริงๆ ฉันเห็นดอกไม้ปักก้อนขี้อีกแล้ว ผู้ชายประเทศเราคู่ควรกับสาวสวยๆ ขนาดนี้ด้วยเหรอ? เป็นฝีมือผู้บริหารหน้าโง่ของไป๋ลี่คนนั้น คิดไม่ถึงว่าจะไปรับสมัครสาวต่างชาติออกมาแก้ไขสภานการณ์เรื่องผู้ชายประเทศนี้แต่งงานไม่ได้ ไอ้พวก loser (คนขี้แพ้) สมน้ำหน้าที่แต่งงานไม่ได้ ผู้หญิงประเทศนี้ไม่แต่งงานกับพวกเขา พวกเขาก็ไม่คู่ควรจะแต่งกับผู้หญิงชาวต่างชาติเหมือนกัน!”
เย่เฉินได้ยินคำพูดนี้แล้วก็หัวเสีย!
สวี่โม่โม่คุณมีแฟนเป็นต่างชาติได้ แต่ทำไมผู้ชายในประเทศนี้จะมีแฟนเป็นชาวต่างชาติบ้างไม่ได้?
คุณคู่ควร แต่คนอื่นไม่คู่ควรงั้นสิ?
หลิวเจิ้งคุนฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าสวี่โม่โม่กำลังพูดอะไรอยู่ แต่เขาพอจะอ่านสีหน้า ท่าทางได้ เขามองออกว่าเย่เฉินหน้าเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว “เป็นอะไรครับคุณชาย?”
เย่เฉินโบกมือ“ไม่มีอะไร”
ถึงแม้ว่าเย่เฉินอยากจะสั่งสอนสวี่โม่โม่คนนี้อย่างมาก อยากจะแก้ไขตรรกะแย่ๆ ของหญิงสาวแต่เป้าหมายที่เขามาในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องนี้
แล้วทันใดนั้นเองเย่เฉินก็ได้ยินแฟนหนุ่มของสวี่โม่โม่ถามขึ้นมาว่า “หลังจากเรากลับมาก็ยังไม่เจอพ่อยูเลย พ่อยูไปไหน? เมื่อไหร่จะได้เจอเขา?”
เย่เฉินได้ยินคำถามนี้ก็ผุดลุกขึ้นทันที และเป็นไปอย่างที่คิดแค่เขาแฝงตัวอยู่แถวๆ ทั้งสองคนนั้น ไม่ต้องเค้นถามก็ได้ข่าวคราวของสวี่ฉู่หมิงมาทันที!
หนำซ้ำคำตอบแบบนี้ยังเชื่อถือได้มากเสียด้วย!
เพราะหากเค้นถาม สวี่โม่โม่ก็อาจโกหกก็ได้
แล้วจึงเห็นสวี่โม่โม่ตอบเนิบๆ “พ่อไอไปต่างจังหวัด ส่วนที่ไหนไอก็ไม่รู้หรอกนะ น่าจะเจอเขาก็ตอนวันแต่งงานวันที่ 15 นู่น”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ใบหน้าเย่เฉินก็ฉายแววหมดหวัง
สวี่ฉู่หมิงคนนี้หลบเย่เฉินไปจริงๆ คิดไม่ถึงว่ากระทั่งบุตรสาวของเขายังไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน
เย่เฉินกล่าวกับหลิวเจิ้งคุน “เราไปกันเถอะ”
หลิวเจิ้งคุนงุนงง เพิ่งจะได้นั่ง ทำไมจะไปแล้วล่ะ หรือว่าเย่เฉินรู้คำตอบแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ในตอนที่ทั้งสองคนกำลังเตรียมจะลุกขขึ้นนั้นเอง จู่ๆ แฟนของสวี่โม่โม่ก็โพล่งออกมา “งั้นเราไปเจอแฟนใหม่พ่อยูกันสิ!”
แฟนใหม่ของสวี่ฉู่หมิงที่เขาหมายถึงก็คือฉินหงเหยียน
ทันทีที่พวกเขาพูดถึงฉินหงเหยียน เย่เฉินที่กำลังจะลุกขึ้นก็ชะงักไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)