ตอนที่ 355 ใส่ความฉัน?
ก่อนหน้านี้เย่เฉินเคยโทรหาเหอหมิ่นเพื่อถามข่าวคราวของฉินหงเหยียน แถมยังบอกหล่อนด้วยว่าถ้าได้ข่าวของอดีตเจ้านายให้รีบแจ้งเขาทันที
“ฮัลโหล”
เย่เฉินรีบรับสายอย่างรวดเร็ว
ฟากเหอหมิ่นถามอย่างร้อนรน “คุณเย่ ฉันเพิ่งได้รับสายจากเพื่อนบ้าน เขาโทรมาบอกฉันว่าประตูใหญ่เรือนสี่ประสานของฉันโดนคนสาดสีใส่ ฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณ คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”
“อะไรนะ? ประตูใหญ่บ้านคุณโดนสาดสีเหรอ?”
เย่เฉินชะงักนิ่งไป เขารับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงหันมองหลี่เฉิงเจี๋ยอย่างไม่พอใจทันที
ตอนที่เพิ่งมาถึง เขาฉีกตัวอักษรมงคลบนประตูบ้านหลี่เฉิงเจี๋ย ชายวัยกลางคนนั้นนั้นต้องไปฟ้องคนอื่นแน่
ประตูบ้านของเหอหมิ่นโดนสาดสี จะต้องเป็นฝีมือของหลี่เฉิงเจี๋ยแน่ๆ!
เย่เฉินไม่พอใจพลางกล่าว “เหอหมิ่น ผมไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผม ผมรู้ว่าใครเป็นคนทำ ผมจะต้องชดเชยให้คุณแน่”
อย่างไรเสียเขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของคนอื่น เย่เฉินก่อเรื่อง แต่สถานที่ที่โดนสาดสีเป็นบ้านของเหอหมิ่น เย่เฉินย่อมเกรงใจไม่น้อย
เหอหมิ่นได้ฉินหงเหยียนดูแล ย่อมไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเย่เฉิน แต่กลับกล่าวอย่างใจกว้าง
“แหมคุณเย่ ดูคุณพูดเข้า ชดเชยอะไรคะ คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เรื่องอื่นเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
เย่เฉินกลับกล่าวว่า “เหอหมิ่น ตอนนี้หงเหยียนอยู่ไหนไม่รู้ ผมอยู่บ้านคุณก็คงไม่ค่อยดี เอาแบบนี้แล้วกัน ตอนนี้ผมจะคืนกุญแจของเรือนสี่ประสานให้คนส่งไปให้คุณนะ”
เหอหมิ่นกลับกล่าวต่อ “ไม่ต้องค่ะ คุณเย่ คุณพักอาศัยที่นั่นก่อนเถอะ จะเกรงใจอะไรฉันคะ”
ตอนนี้เย่เฉินไม่เหมือนที่ผ่านมา เขาไม่มีอะไรจะให้เหอหมิ่นแล้ว เขายังคงยืนกราน “เอาตามนี้แหละ ผมวางก่อนนะครับ”
เมื่อกดวางสาย เย่เฉินก็ตะคอกถามหลี่เฉิงเจี๋ย “เรื่องสาดสีฝีมือคุณใช่ไหมล่ะ?”
หลี่เฉิงเจี๋ยยังคงแอบละเลียดชิม Loup en Croûte ที่เย่เฉินทำอยู่ รสชาติดีเกินจริงๆ เมื่อได้ยินคำถามของเย่เฉิน ก็ชะงักนิ่งไป แล้ววางตะเกียบลง เพลิงโทสะก็ปะทุออกมา
“อ้อ ที่แท้คนฉีกอักษรมงคลของฉันก็คือนายนี่เอง! ฉันก็ว่าใครสารเลวแบบนี้ บังอาจฉีกอักษรมงคลของฉันกับมู่ชิง! ถูกต้อง ฉันให้คนไปสาดสีที่ประตูบบ้านนายเอง แต่ว่าฉันจำได้ว่าเจ้าของบ้านหลังนั้นแซ่เหอ นายอยู่บ้านคนอื่นเหรอเนี่ย?”
เย่เฉินกล่าว “คุณยอมรับก็ใช้ได้”
เย่เฉินรีบกดโทรหา 110 ทันที
“110 เหรอ? ผมอยากแจ้งความ มีคนสาดสีที่หน้าประตูบ้านผม ผมชื่อเย่เฉินอยู่ที่…”
หลังจากแจ้งความเสร็จแล้ว หลี่เฉิงเจี๋ยกลับหัวเราะร่วนอย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ “เย่เฉิน นายไม่เหมือนคนที่มีครอบครัวร่ำรวยเลยนะ ทำไมถึงได้ใสซื่อแบบนี้นะ? นายคิดว่าทำแบบนี้จะจับฉันเข้าคุกได้เหรอ? คิดอะไรนะ! นายรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันมีลูกน้องกี่คน?”
หลี่เฉิงเจี๋ยวางท่า ตะโกนเสียงดัง หลังจากนั้นก็เรียกเฉียนช่วนจื่่อให้เดินเข้ามา
“เฉียนช่วนจื่อ บอกให้เด็กที่ไปสาดสีเมื่อตอนเช้าไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ สาดสีอย่างมากก็โดนจับ 10 วันปรับเงินหนึ่งพัน แล้วบอกเขาว่าเขาอยู่ในคุก 1 วันจะได้เงินหนึ่งหมื่น!”
เฉียนช่วนจื่อหัวเราะคิกคัก “ว้าว เป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าดีจริงๆ ทำเอาผมอยากจะเข้าคุกแทนเจ้าเด็กนั่นจริงๆ ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้”
หลี่เฉิงเจี๋ยกระดิกขาที่นั่งไขว่ห้างอย่างลำพองใจ เย่เฉินเองก็เคยมีลูกน้องมากมาย เขารู้ว่าเรื่องเล็กแบบนี้ เหล่าลูกน้องต่างก็แย่งกันรับผิดแทนแทบไม่หวั่นไม่ไหว อีกทั้งจะไม่มีทางซัดทอดไปถึงเจ้านายแน่นอน
เย่เฉินลอบสาบานในใจว่าจะต้องหาโอกาสจับหลี่เฉิงเจี๋ยเข้าคุกให้ได้!
เขาไม่ได้สนใจหลี่เฉิงเจี๋ยต่ออีก แต่ใช้โทรศัพท์เรียกพนักงานไป๋ลี่มารับพัสดุ
ไม่ถึงสิบนาที ก็มีสาวขายาวชาวยูเครนขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาที่เรือนสี่ประสาน
“สวัสดีค่ะ ไป๋ลี่เอ็กซ์เพรส ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายท่านไหนจะส่งของคะ?”
สาวงามชาวยูเครนถามด้วยภาษาจีนอย่างคล่องแคล่ว
เย่เฉินเดินออกไป “ผมเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)