ตอนที่ 405 ความวุ่นวายในงานแต่งงาน!
หวังเจินอวี่ซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง หญิงสาวโถมตัวเข้าหาอ้อมอกเย่เฉินแล้วหอมเขาฟอดใหญ่
เย่เฉินรีบร้อนผลักอีกฝ่ายออก “นี่เธอทำอะไรน่ะ! เดี๋ยวเมียพี่เห็นเข้าจะทำยังไง!”
ตระกูลซูเป็นเจ้าภาพของงาน ถ้าหากคนตระกูลซูมาเห็นเข้า เย่เฉินคงตกที่นั่งลำบากแน่
หวังเจินอวี่เองก็ตื่นตูมขึ้นมาหญิงสาวรีบร้อนใช้ทิชชูเปียกเช็ดใบหน้าอีกฝ่าย
เพราะหวังเจินอวี่ทาลิปสติกสีแดงดังนั้นถึงได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้
เย่เฉินส่องกระจกเพื่อสำรวจความเรียบร้อย แล้วเตือนหวังเจินอวี่
“ต่อไปห้ามทำแบบนี้อีกนะ ได้ยินไหม? ฉันเห็นเธอเป็นแค่น้องสาวเท่านั้นเอง”
หวังเจินอวี่กล่าวต่อ “พี่เย่เฉินขอแค่พี่ยอมดันฉัน ฉันยอมทำทุกคนอย่างเลย ถ้าพี่เบื่อมาหาฉันได้ตลอดเลยนะ”
เย่เฉินกล่าว “ฉันไม่ต้องการให้เธอมาทำอะไรให้ฉันหรอกนะ แล้วก็ไม่ต้องการให้เธอมานอนกับฉันด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ที่บ้านพวกเธอก็คงจะไม่ถังแตก ฉันติดหนี้เธอ”
สำหรับเรื่องที่เย่เฉินทำให้ตระกูลหวังล้มละลายนั้น พ่อแม่ของหวังเจินอวี่เกลียดชังเย่เฉินอย่างมาก แต่หญิงสาวไม่ได้เป็นแบบนั้น
หวังเจินอวี่ถาม “พี่เย่เฉิน พี่จะดันหนูยังไง?”
เย่เฉินครุ่นคิด “ฉันเองก็ไม่ได้รู้จักคนในวงการเยอะหรอกอีกอย่างตอนนี้เงินก็โดนอายัดอยู่ ก็เลยช่วยลงทุนอะไรให้ไม่ได้ เดี๋ยวจะพาเธอไปเจอพี่ใหญ่ พี่เขาน่าจะรู้จักคนในวงการอยู่บ้าง”
เย่เฉินพรู้จักแต่ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่ต่างประเทศพวกคนระดับอย่างโนแลนหรือเจมส์ คาเมรอน
ด้วยทักษะความสามารถของนักเรียนการแสดงปีที่หนึ่งของคนตรงหน้า ไม่มีทางจะได้แสดงภาพยนตร์ของพวกเขา
ดังนั้นเย่เฉินจึงพาหวังเจินอวี่ไปที่โต๊ะของเย่เทียน
ตอนนี้เขา ซูเจิ้นหางและซูหมิงเจ๋อกำลังดื่มเหล้า สนทนากันอย่างเพลิดเพลิน
เย่เทียนเห็นเย่เฉินพาหญิงสาวหุ่นดีเดินมาก็ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“น้องสามนี่คือ?”
เย่เฉินกล่าว“หล่อนเป็นน้องสาวของหวังเจียเหยาอดีตภรรยาผมครับชื่อหวังเจินอวี่”
ทุคนต่างก็นิ่งไป เย่เฉินแต่งงานแล้วทำไมสองศรีพี่น้องตระกูลหวังถึงมาร่วมงานได้?
เย่เทียนกับยูมิไม่ค่อยชอบขี้หน้าหวังเจียเหยานัก ทำให้ท่าทีที่มีต่อหวังเจินอวี่ก็ธรรมดาๆ
หวังเจินอวี่เองสาวเท้าเดินขึ้นไปแล้วกล่าว “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ในที่สุดก็เจอพวกคุณสักที มีเรื่องหนึ่งที่พวกคุณอาจจะไม่รู้ ตอนแรกสุดคุณปู่ของคุณและคุณปู่ของฉันจัดแจงเรื่องแต่งงานของเรา เขาจะให้ฉันกับพี่เย่เฉินแต่งงานกัน แต่ว่าพ่อฉันเห็นว่าฉันยังเด็ก เลยปัดเรื่องงานแต่งงานไป เจ้าสาวเลยกลายเป็นพี่หวังเจียเหยา เฮ้อถ้าตอนนั้นฉันเป็นคนแต่งงานกับพี่เย่เฉินก็คงจะดี ฉันจะทำดีกับพี่เย่เฉินให้มากๆ”
เย่เทียนกับยูมิสบตากันไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรบ้าง
คนตระกูลซูเองก็พอจะมองออกว่าอดีตน้องสะใภ้ของเย่เฉินคนนี้ชอบเขา
เย่เฉินเองก็เก้อเขินไปน้อยๆ “อย่าพูดเรื่องนี้เลย จริงสิพี่ใหญ่ พี่พอจะรู้จักคนลงทุนในวงการภาพยนตร์บ้างหรือเปล่าครับ? ช่วงนี้เจินอวี่อยากจะเข้าวงการบันเทิง ผมอยากดันให้หล่อนดัง”
ในเมื่อเย่เฉินเปิดปากเอ่ยแล้วเย่เทียนย่อมไม่อยากปฏิเสธ
“พี่พอจะรู้จักผู้กำกับเจียงและผู้กำกับจาง พี่พอจะแนะนำหล่อนให้สองคนนั้นได้”
“จริงเหรอคะ? ขอบคุณนะคะพี่เทียน!” หวังเจินอวี่ดีใจอย่างมาก
แต่ในเวลานี้เองจู่ๆ ซูหมิงเจ๋อก็เปิดปากเอ่ย “คุณหวังเจินอวี่อยากจะเข้าไปโลดแล่นในวงการบันเทิงเป็นดาราใช่ไหม? ตอนนี้วิธีการจะโด่งดังให้เร็วที่สุดไม่ใช่การแสดง แต่เป็นการเข้าร่วมรายการวาไรตี้ต่างๆ ผมรู้จักกับผู้บริหารของบริษัทภาพยนตร์พอดี บริษัทเขาเป็นคนถ่ายทำรายการ idol produce ศิลปินที่เขาเลือกในทุกปีจะกลายดาราชื่อดัง ถ้าคุณหนูหวังเจินอวี่มีความสามารถในด้านการร้องและการเต้น ผมรับรองเลยว่าในครึ่งปีจะดังไปทั่วประเทศแน่นอน!”
หวังเจินอวี่เองก็ตกใจที่จู่ๆ ก็โชคดี “ฉันทำได้ค่ะ! ฉันเองก็เต้นได้ร้องเพลงเป็น!”
เย่เฉินตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าพ่อของซูมู่ชิงจะมีน้ำใจขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมช่วยตนเอง
ดูแล้วตระกูลซูคงอยากจะแสดงศักยภาพให้เย่เฉินเห็น
“ขอบคุณครับพ่อ” เย่เฉินหันไปขอบคุณผู้สูงวัยกว่า
ซูหมิงเจ๋อโบกมือ “เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว จะขอบคุณทำไม แค่เรื่องเล็กๆ เอง”
ผู้บริหารของบริษัทภาพยนตร์คนนั้นเองก็อยู่ในงานด้วย ซูหมิงเจ๋อพาหวังเจินอวี่ไปพบเขาด้วยตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)