เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 430

สรุปบท ตอนที่ 430 ผมคือลูกพี่ในวงการบันเทิง!: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

อ่านสรุป ตอนที่ 430 ผมคือลูกพี่ในวงการบันเทิง! จาก เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 430 ผมคือลูกพี่ในวงการบันเทิง! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 430 ผมคือลูกพี่ในวงการบันเทิง!

ขณะที่พูดนั้น ก็มีชายในชุดขาวเดินเข้ามา ในมือถือเค้กวันเกิดเอาไว้ก้อนหนึ่ง

“ใครคือคุณสวี่ครับ?”

เด็กหนุ่มถาม

สวี่เจี๋ยตอบ “ฉันเอง”

เด็กหนุ่มส่งเค้กในมือให้สวี่เจี๋ย “คุณสวี่ครับ นี่คือเค้กวันเกิดจากที่คุณจองมาจากร้านเราครับ”

สวี่เจี๋ยถึงได้เชื่อว่าเค้กหรูหราที่สูง 1.5 เมตรนี้สามีของซูมู่ชิงเป็นคนสั่งมาจริงๆ!

อีกทั้งเค้กที่ตนเองสั่งนั้น คิดไม่ถึงว่าจะสูงไม่ถึง 1 ใน 5 ของเค้กอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป!

สีหน้าสวี่เจี๋ยดูดำคล้ำไปทันที เค้กที่เขาซื้อมานั้นโดนเปรียบเทียบกับของเย่เฉินอย่างจริงจังเสียแล้ว

ส่วนเย่เฉินเองก็ไม่ได้ทำให้สวี่เจี๋ยเสียหน้า ต้องเรียกว่าเขาแทบไม่ได้สนใจเพื่อนกลุ่มนี้ของหญิงสาวด้วยซ้ำไป

ทว่าซูมู่ชิงยอมมางานเลี้ยงสังสรรค์ครั้งนี้ย่อมแปลว่าหล่อนกับเพื่อนกลุ่มนี้น่าจะสนิทกันในระดับหนึ่งทีเดียว

ไม่อย่างนั้นด้วยพื้นฐานครอบครัวของซูมู่ชิงแล้วจะมาร่วมงานเลี้ยงแบบนี้ไปทำไมล่ะ?

งานเลี้ยงรุ่นในตอนนี้แทบไม่ได้มีอะไร ล้วนแต่เป็นการจัดงานรวมตัวของเพื่อนๆ เท่านั้นเอง

เป้าหมายในการรวมตัวกันนั้นก็เพื่อจะโอ้อวดกัน สองก็คือจะดูว่าทุกคนทำงานที่ไหน แล้วเผื่อว่ามีอะไรตรงไหนช่วยเหลือกันได้จะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

เย่เฉินไม่อยากจะรบกวนการสังสรรค์ของหญิงสาว เขามาที่นี่เพียงเพื่อแค่เซอร์ไพรส์ภรรยาตนเองเท่านั้น

ในเมื่อเซอร์ไพรส์ภรรยาเสร็จแล้วเย่เฉินจึงกล่าวว่า “ที่รัก คุณกินข้าวกับเพื่อนคุณต่อเถอะครับ ผมขอตัวก่อนนะ”

เย่เฉินเองไม่อยู่ต่อ เพราะเขาคิดว่างานเลี้ยงรวมรุ่นถือเป็นพื้นที่ส่วนตัวของภรรยา อีกทั้งที่นี่ก็มีเพื่อนผู้ชายจำนวนไม่น้อย

ถ้าเขาอยู่ต่อ ก็จะเหมือนว่าเขาไม่เชื่อใจภรรยา เหมือนอยากอยู่ต่อเพื่อเฝ้าหล่อน

เย่เฉินไม่อยากให้ซูมู่ชิงคิดแบบนี้ เขาอยากบอกหล่อนว่าตนเองไว้ใจหล่อนอย่างที่สุด

แต่ว่าในตอนที่เย่เฉิกำลังจะกลับนั้นเอง สวี่เจี๋ยกลับกล่าวว่า

“ในเมื่อสามีของซูมู่ชิงก็มาที่ร้าน งั้นคุณก็นั่งกินข้าวด้วยกันเถอะ ไม่ต้องกลับหรอก”

เพื่อนผู้หญิงต่างก็รั้งเขาเอาไว้

“นั่นสิ มากินข้าวด้วยกันเถอะ อย่างไรเสียพวกเราก็มีกันไม่มาก ยังมีที่นั่งว่างตั้งหลายที่”

เย่เฉินหันมองซูมู่ชิง เพื่อขอความเห็นของหญิงสาว เมื่อเห็นหล่อนไม่คัดค้าน เขาจึงกล่าว

“ก็ได้ งั้นผมขอช่วยดื่มแทนภรรยาผมแล้วกันนะครับ”

ซูมู่ชิงยิ้มแย้มแล้วพวกเขาก็เดินกลับมานั่งประจำที่

สวี่เจี๋ยนั่งอยู่ตรงกลาง นั่งวางท่าเสียใหญ่โต

หลังจากนั่งลงซูมู่ชิงก็แนะนำสามีให้กับเพื่อนๆ ทีละคน ตอนแนะนำสวี่เจี๋ยนั้น หล่อนยังตั้งใจแนะนำว่าเขาเป็นหัวหน้าห้องรวมไปถึงที่ทำงานและยศของพ่อแม่เขา

เย่เฉินพอจะมองออกว่าชายคนนี้น่าจะเป็นคนที่ได้ดิบได้ดีที่สุดในบรรดาเพื่อนๆ และน่าจะเป็นคนชอบวางท่าที่สุด

หลังจากแนะนำกันเสร็จแล้ว จู่ๆ สวี่เจี๋ยก็โพล่งถามเย่เฉิน “นี่นายทำงานที่ไหน?”

เพื่อนผู้ชายกล่าวแล้วหัวเราะ “หัวหน้าห้อง นายก็อย่าซ้ำแผลเดิมของเขาเลย เมื่อกี้ซูมู่ชิงก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าสามีของหล่อนไม่ได้ทำงานอะไรน่ะ”

สีหน้าซูมู่ชิงเก้อเขินแล้วเล่นตัวเองก่อน “นั่นสิ ฉันกับสามีไม่ได้ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกันไม่เหมือนพวกเธอหรอก ที่ทำงานกันตามที่ใหญ่ๆ โตๆ สุดยอดไปเลย”

สวี่เจี๋ยวางตะเกียบลงพลางกล่าว “ซูมู่ชิงเธอพูดไม่ถูกนะ เธอกับสามีของเธอไม่เหมือนกันสักหน่อย คนทั้งเมืองหลวงใครไม่รู้บ้างล่ะว่าแค่เธออยากทำงาน ไม่ว่าจะที่ไหน ตำแหน่งไหน เธอแค่บอกก็ได้เข้าแล้ว แต่สามีของหล่อนเหมือนว่า…แต่ไม่เป็นไรนะ เย่เฉิน ฉันว่านายเล่นเปียโนเก่งดี ร้องเพลงก็เพราะใช้ได้ ฉันแนะนำร้านเหล้าในรับนายเป็นนักร้องเอาไหม? คืนละ 500 หยวน ร้องเพลงไม่กี่เพลง เริ่มงานตอนสองทุ่มถึงห้าทุ่มไม่เหนื่อยหรอก”

เพื่อนผู้ชายก็หัวเราะ “ใช้ได้เลยนะ ทำงานวันละแค่ 3 ชั่วโมง ได้เงินเดือนละหมื่นห้า ใช้ได้เลยนี่นา”

เพื่อนนักเรียนพวกนี้เห็นหล่อนเป็นเหมือนนางฟ้าที่แสนสูงส่ง ทันทีที่รู้ว่าซูมู่ชิงแต่งงานกับผู้ชายที่ดด้อยกว่าพวกเขา พวกเขาต้องรับไม่ได้แน่นอน

“อย่าเลยค่ะ…”

ซูมู่ชิงมองเย่เฉิน

เย่เฉินพอจะมองออกว่าที่ซูมู่ชิงห้ามเขานั่นเพราะอะไร

“ฮ่าๆ ที่รัก คุณคิดว่าผมจะจะบอกเรื่องที่ผมทำงานเป็นยามเป็นเด็กส่งของเหรอ? คุณสบายใจเถอะ สามีของคุณน่ะไม่ทำให้คุณขายหน้าต่อหน้าเพื่อนๆ แน่นอน!”

แล้วเย่เฉินก็กล่าวกับทุกคน “ผมทำงานบริษัทผลิตภาพยนตร์”

พวกเขาตกตะลึงกันทันที

“นายเป็นเจ้าของบริษัทผลิตภาพยนตร์เหรอ?”

“สุดยอด ก็ว่าทำไมนายเก่งจัง ที่แท้ก็เป็นเจ้าของบริษัทอะไรพวกนี้นี่เอง!”

เมื่อได้ยินสาวๆ ชมเชยเย่เฉิน สวี่เจี๋ยก็ไม่พอใจทันที เขาไม่เชื่อว่าเย่เฉินพูดเรื่องจริง!

เพราะเขาสังเกตเห็นร่องรอยตกใจบนใบหน้าซูมู่ชิง

เย่เฉินกำลังโกหก กำลังขี้โม้!

สวี่เจี๋ยจึงถาม “นี่นายในเมื่อนายเป็นเจ้าของบริษัทผลิตภาพยนตร์ เป็นลูกพี่ในวงการบันเทิง งั้นดาราในสังกัดนายคงจะมีเยอะล่ะสิ”

เย่เฉินพยักหน้ารับ “อื้ม ก็ไม่น้อยแล้วกัน”

สวี่เจี๋ยหัวเราะแล้วถาม “มีใครบ้างเหรอ?”

เย่เฉินครุ่นคิดแล้วตอบ “วังเหม่ยฉี!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)