เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 432

ตอนที่ 432 ท่านประธานเย่จอมโหด!

เย่เฉินอยากจะผ่านด่านธุรกิจเสียที เขาจำเป็นต้องใช้ทักษะในการคุยโม้ของเขาให้ถึงที่สุด

เพื่อจะให้ทุกคนเชื่อว่าเขาเป็นเบอร์ใหญ่ในวงการบันเทิง

เขาจะให้คนอื่นจับผิดเขาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

เย่เฉินจึงทำท่าทีเรียบเฉยแล้วกล่าวอย่างมั่นใจ “ก็สองผู้กำกับที่ดีที่สุดในประเทศเราอย่าง ผกก.เจียง ผกก.จาง แล้วก็ผกก.กัวที่เป็นผกก.หน้าใหม่ที่กำกับเรื่องปฏิบัติการฝ่าสุริยะส่วนที่ญี่ปุ่นก็มี ทาเกชิ คิตาโนะ เกาหลีมีนาฮงจิน ชเวดงฮุน อเมริกาก็มีเจมส์ คาเมรอนกับโนแลน”

พอได้ยินแบบนี้ทุกคนก็อ้าปากค้างกันแล้ว

เพราะชื่อผู้กำกับที่เย่เฉินอ้างถึงนั้นล้วนแต่เป็นผู้กำกับชื่อดังระดับโลก

มีแค่ผกก. กัวคนเดียวที่ไม่ค่อยดัง แต่ปฏิบัติการฝ่าสุริยะที่เขากำกับนั้นมียอดขาย 4,600 ล้าน ถือเป็นภาพยนตร์ที่มียอดขายสูงสุดสามลำดับแรกของประเทศ

สวี่เจี๋ยร้อนใจแล้ว “ไร้สาระ!เลอะเทอะ! เหลวไหลทั้งเพ! นายโกหกแบบไม่มีสามัญสำนึกเลยนะ! เห็นเราทุกคนเป็นเด็กสามขวบหรือไง? ผู้กำกับพวกนี้เป็นคนของนายหมดเลยหรือไง? เห็นเราเป็นคนโง่ใช่ไหม!”

เย่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “ผู้กำกับพวกนี้บางท่านก็เซ็นสัญญากับบริษัท บางท่านก็เป็นเพื่อนผม มีที่ฝากชื่อเอาไว้ บางคนก็เป็นพาร์ทเนอร์กัน แต่จะบอกว่าเป็นลูกน้องผมทุกคนไม่ได้ แต่ถ้าผมบอกให้พวกเขาถ่ายทำพวกเขาก็เชื่อฟังแล้วไปทำกันนะ”

“แกโกหก!”

สวี่เจี๋ยไม่อาจสะกดกั้นอารมณ์ได้อีกต่อไป เขาสบถคำหยาบคายออกมา

“หัวหน้าห้อง ใจเย็นๆ เถอะ”

เพื่อนผู้ชายพยายามปลอบเขา เพราะเขาพอจะเห็นว่าสีหน้าของซูมู่ชิงเริ่มจะไม่พอใจนัก

ตอนนี้ต่อให้สวี่เจี๋ยได้ดีขนาดไหนแต่ก็ไม่มีทางสู้ตระกูลซูได้อยู่แล้ว

ที่เขาบอกว่าจะเตะหมาต้องดูเจ้าของนั้น ถ้าสวี่เจี๋ยพูดกับสามีซูมู่ชิงแบบนี้เกรงว่าหล่อนคงไม่พอใจนัก

สวี่เจี๋ยหัวเสีย “ฉันไม่ชอบที่เขาโกหกปลิ้นปล้อนแบบนี้ โกหกเอาเสียเวอร์เลย! ตัวเองไม่ได้ทำได้สักหน่อย แค่เอาปากฉอเลาะดาวของห้องเราก็ช่าง แต่นี่ยังจะหลอกเราอีกเหรอ? นายบอกว่าผู้กำกับทุกคนต้องเชื่อฟังนาย งั้นนายพิสูจน์ให้เราดูหน่อย นายโทรหาใครก็ได้ให้เราดูหน่อย!”

แค่โทรศัพท์ไม่ได้มีอะไรยาก

เพราะเย่เฉินมีเบอร์ของเจมส์ คาเมรอน โนแลนและทาเกชิ คิตาโนะอยู่แล้ว

เย่เฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วมองสวี่เจี๋ยอย่างท้าทายแล้วถาม “ภาษาอังกฤษคุณเป็นยังไงบ้าง? หรือว่าพอจะฟังเกาหลี ญี่ปุ่นออกบ้างไหม?”

สวี่เจี๋ยเงียบไปทันที เพราะภาษาถือเป็นปมด้อยของเขา ที่เรียนอังกฤษไม่รู้เรื่อง ส่วนภาษาอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

เย่เฉินส่ายหน้าแล้วกล่าว “ช่างเถอะ ผมโทรหาผู้กำกับในประเทศเราดีกว่า เดี๋ยวพวกคุณจะฟังไม่ออกว่าผมพูดอะไรไปบ้าง”

คราวก่อนตอนเย่เทียนพี่ชายของเย่เฉินมาหา เพราะต้องการจะช่วยหวังเจินอวี่ทำให้เย่เฉินก็ได้เบอร์ของผกก.เจียงกับผกก.จางมา

ดังนั้นเย่เฉินจึงเลือกที่จะโทรหาผกก.เจียงคนที่แสนจะโด่งดัง จากนั้นก็เปิดลำโพง เพื่อให้ทุกคนได้ยินกัน

ผกก.เจียงรับสาย เขาแปลกใจอย่างมากที่อีกฝ่ายโทรมาจึงรีบกล่าว

“แหมๆ คุณเย่ โทรมามีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”

เย่เฉินกล่าว “ไม่มีอะไร ผมแค่อยากให้คุณแปลให้ฟังหน่อยว่าเซอร์ไพรส์คืออะไร”

ผกก.เจียงหัวเราะน้อยๆ แล้วจึงกล่าวว่า “ยังต้องแปลอีกเหรอ? เซอร์ไพรส์ก็คือเซอร์ไพรส์ยังไงล่ะ”

เย่เฉินจึงกล่าว “ผมบอกให้คุณแปลมาไงว่าเซอร์ไพรส์คืออะไร?”

ผกก.เจียง “ไม่ต้องแปลหรอกก็เซอร์ไพรส์นั่นปะไร หรือว่าคุณไม่เข้าใจว่าเซอร์ไพรส์คืออะไรเหรอ?”

เย่เฉิน “ก็ผมอยากให้คุณแปลมาว่าเซอร์ไพรส์คืออะไรไง!”

ผกก.เจียง “ก็เซอร์ไพรส์ไงล่ะ!”

เย่เฉิน “งั้นก็แปลออกมา! อะไรแม่งคือเซอร์ไพรส์! อะไรที่แม่งเรียกว่าเซอร์ไพรส์เนี่ย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)