ตอนที่ 433 เย่เฉินเป็น 18 มงกุฏ!
“บริษัทเฉินเย่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์เหรอ?”
สวี่เจี๋ยพยายามค้นหาข้อมูลในหัวอยู่นานแต่ก็ไม่เห็นจะเคยเห็นข่าวหรือภาพยนตร์ของบริษัทเฉินเย่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์แต่อย่างใด
สวี่เจี๋ยมองเพื่อนคนอื่นๆ “เพื่อนๆ พวกนายเคยได้ยินชื่อบริษัทเฉินเย่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ไหม? หรือว่าฉันมันโง่? ทำไมฉันไม่เห็นชื่อบริษัทพวกนี้ได้เลยนะ?”
เพื่อนคนอื่นๆ ก็สับสนไปหมด
“ฉันเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เคยได้ยินเฉินเย่กรุ๊ปนะ แต่บริษัทนั้นทำพวกเดลิเวอรี่กับเอ็กซ์เพรสนี่”
“ฉันก็ดูหนังบ่อยนะ ปกติแล้วทุกครั้งที่ดูภาพยนตร์ฉันจะคอยดูชื่อโปรดิวเซอร์ตลอดเลย ฉันกล้ารับรองเลยว่าภาพยนตร์ในห้าปีนี้ไม่มีภาพยนตร์ที่ยอดขายเกินสองร้ายล้านจากบริษัทเฉินเย่เอ็นเตอร์เทนเมนท์แน่นอน!”
“ถูกต้อง ฉันก็คิดว่าเฉินเย่ที่ว่านี่อาจจะเป็นบริษัทเล็กๆ ไม่อย่างนั้นเราไม่น่าไม่เคยได้ยิน”
สวี่เจี๋ยถามเย่เฉินอย่างสงสัย “เย่เฉินในเมื่อในบริษัทนายมีคนดังในวงการบันเทิงแบบนี้ คงจะต้องเป็นบริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วใช่ไหม? เลขหุ้นคืออะไร? เป็นหุ้นใหม่หรือว่าเป็นหุ้นเข้าตลาดต่างประเทศ?”
เย่เฉินก็รับมืออีกฝ่าย “ไอ้เข้าตลาดหลักทรัพย์น่ะต้องเข้าอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่บริษัทเฉินเย่เอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่เข้าตลดหลักทรัพย์ แต่เข้าในนามบริษัทลูกของเฉินเย่กรุ๊ป ส่วนชื่อที่ฝ่ายผลิตเขียนลงไปในเครดิตภาพยนตร์ก็เป็นชื่อของพวกบริษัทลูกของผมเอง ดังนั้นพวกคุณไม่เคยเห็นก็ธรรมดานะ”
พวกเพื่อนผู้ชายของสวี่เจี๋ยพูดไม่ออกทันที คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะอ้างว่าบริษัทที่ผลิตภาพยนตร์พวกนั้นเป็นบริษัทลูกของเขา!
ออกจะขี้โม้เกินไปแล้ว!
สวี่เจี๋ยกล่าวอย่างวางท่า “เย่เฉิน นายเลิกโม้ได้แล้ว ฉัรว่าในประเทศเราไม่ได้มีบริษัทที่ชื่อเฉินเย่เอ็นเตอร์เทนเมนท์อะไรนี่หรอก! ถ้านายแน่จริงก็เอารูปถ่ายบริษัทนายให้เราดูหน่อย!”
เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม “ในประเทศน่ะไม่มีแน่ๆ เพราะบริษัทของเราจดที่ต่างประเทศ บริษัทไม่มีที่ตั้ง ไม่มีออฟฟิศ แต่มีแค่ใบจดทะเบียนเท่านั้น ส่วนพวกบริษัทลูกที่มีหุ้นตั้งอยู่ในประเทศมีออฟฟิศ แต่ก็สิทธิ์ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทเฉินเย่เอ็นเตอร์เทนเมนท์น่ะ ดังนั้นถึงแม้ว่าบริษัทเฉินเย่ของผมจะมีแค่ใบจดทะเบียนเท่านั้นแต่ผมก็มีหุ้นส่วนและสิทธิ์บริหารบริษัทภาพยนตร์ในประเทศพวกนั้น”
คำพูดพวกนี้ของเย่เฉินทำให้ทุกคนตกตะลึง
หนึ่งในคนที่ทำธุรกิจเหมือนกันพูดกับสวี่เจี๋ยเสียงเบา “หัวหน้าห้อง ที่เขาพูดมาก็เป็นไปได้นะ พวกเจ้าของธุรกิจก็ทำแบบนี้กันหมดเพื่อหลบเลี่ยงภาษีน่ะ”
สวี่เจี๋ยกัดฟัน เขาย่อมรู้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นไปได้มากทีเดียว แต่เขาไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เย่ฉินพูดเป็นเรื่องจริง!
“หลอกลวง สิ่งที่เขาพูดล้วนแต่หลอกลวงเรา!”
สวี่เจี๋ยหัวเสีย เขามองออกว่าสิ่งที่เย่เฉินพูดเป็นเรื่องโกหก เย่เฉินไม่ใช่เจ้าของบริษัทภาพยนตร์อะไรเลยด้วยซ้ำไป
แต่เย่เฉินคนนี้กะล่อนเกินไป ไม่ว่าเขาจะบีบอีกฝ่ายอย่างไร เย่เฉินก็มีวิธีรับมือเขาได้หมดอีกทั้งยังทำทุกคนตกใจกันไปหมดด้วย
เพื่อนผู้หญิงพวกนี้กลับเชื่อกันหมด
อย่างไรเสียเย่เฉินเองก็เกิดในครอบครัวร่ำรวย เรื่องพวกธุรกิจ ค้าขาย เขาเข้าใจทั้งกฎเกณฑ์และการซอกแซกเป็นอย่างดี
ถ้ากระทั่งหลอกลวงคนนอกยังไม่ได้ งั้นเขาคงทำภารกิจของที่บ้านไม่ได้!
แล้วงานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้ ที่เอาแต่เยินยอเย่เฉินจบลงอย่างรวดเร็ว
เพราะสวี่เจี๋ยจ่ายเงินค่าอาหารนานแล้ว ทำให้เขาไม่ต้องจ่ายเดิมทีเขาเองก็ไม่ได้เอาเงินมา
“เพื่อนๆ ฉันไปแล้วนะ ทุกคนเดินทางปลอดภัยนะ”
ซูมู่ชิงคล้องแขนเย่เฉินแล้วโบกมืออีกข้างบอกกลาทุกคน
“บ๊ายบาย มู่ชิง ไว้ว่างๆ เรามาเจอกันอีกนะ”
“คุณเย่ มู่ชิง บ๊ายบาย”
“คุณเย่ถ้าที่บริษัทผลิตหนังออกมาล่ะก็ จะต้องบอกพวกเราด้วยนะ!”
เพื่อนๆ ทั้งสิบคนนี้ ล้วนแต่เกรงใจและนับถือเย่เฉินและซูมู่ชิงอย่างมาก
เย่เฉินในซีกวาขับรถมารับพวกเชา ซีกวาเปิดรถแล้ว เย่เฉินก็จูงมือภรรยาขึ้นด้านหลังของตัวรถ
หลังจากขึ้นรถไปแล้ว มือซ้ายของซูมู่ชิงก็ตบเย่เฉินน้อยๆ “ที่รักที่คะ ที่คุณบอกว่าคุณคือเจ้าของบริษัทเฉินเย่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เป็นเรื่องโกหกใช่ไหมคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)