ตอนที่ 453 หลิ่วอวี่เจ๋อเป็นสามีใหม่เหรอ?
พอได้ยินคำพูดนี้ของจางเชี่ยนจือ ซูเจิ้นหางก็ขมวดคิ้วมุ่น
นี่เองก็เป็นจุดที่ซูเจิ้นหางสงสัยและเป็นห่วง
เย่เฉินเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมตระกูลเย่ไม่ส่งคนมาเลยสักคน?
หรือว่าคุณปู่ พ่อแม่และพี่ชายของเย่เฉินจะไม่เป็นห่วงเขาเหรอ?
คนในครอบครัวเย่เฉินย่อมเป็นห่วงเขา ถ้าหากว่าเย่เฉินตาบอดจริงๆ ย่อมต้องมาเยี่ยมเขา
ทว่าเย่เฉินเองก็บอก้รื่องที่เกิดขึ้นกับปู่เขาแล้ว ดังนั้นคนตระกูลเย่จึงไม่เป็นห่วง
“ตัดเย่เฉินออกจากตระกูลเหรอ?”
ซูเจิ้นหางทวน ถ้าหวก่าตระกูลเย่เฉินตัดขาดเขาเพราะเย่เฉินกลายเป็นคนพิการแล้ว เย่เฉินคงจะไม่ได้เข้าใกล้ความลับของตระกูลอีกตลอดชีวิต!
จางเชี่ยนจือกล่าวต่อ “คุณพ่อคะ คุณพ่อลองคิดดูสินะ ตอนนี้เย่เฉินเป็นคนพิการ มองไม่เห็นอะไรเลย แล้วจะสืบทอดกิจการของตระกูลเย่ได้ยังไง? ต่อให้ตระกูลเย่มีความลับที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ไม่มีทางยกให้คนตาบอดอย่างเย่เฉิน ต่อให้เราคิดในแง่ดีว่าเย่เฉินจะตาหาย เราจะรับรองได้เหรอว่าเขาจะไม่โดนทำร้ายอีก? หนูคิดว่าที่เขาโดนวางยาคราวนี้ อาจจะเป็นฝีมือพี่ชายคนที่สองของเขา ลูกหลานตระกูลซูดูแล้วรักใคร่สนิทสนม แต่ใครจะรู้ว่าลึกๆ แล้วจะทะเลาะกันยังไง!”
ซูเจิ้นหางเองก็ผุดลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้แล้วสาวเท้าไปมา
ตวามจริงแล้วซูเจิ้นหางเองก็กำลังพยายามตามสืบอยู่ ว่าคนที่ทำร้ายเย่เฉินคือใคร
ถ้าหากว่าคนที่ทำร้ายเย่เฉินคือซูมู่หลิน เป็นศัตรูที่เย่เฉินเคยล่วงเกินในประเทศ ก็เข้าใจได้
ด้วยความสามารถของตระกูลซู หาเจอแล้วจำกัดทิ้งก็จบแล้ว
แต่ถ้าเป็นฝีมือพี่ชายของเย่เฉินก็คงจะจัดการได้ลำบาก
ซูเจิ้นหางถอนหายใจ “หลังจากที่เย่เฉินตาบอดแล้วก็ซึมลงไป ฉันล่ะกลัวจริงๆ ว่าเขาจะไม่กล้าสู้กับพี่ชายสองคนของเขา”
จางเชี่ยนจือแค่นเสียง “เย่เฉินเป็นเขยขยะเอง เอาอะไรมาสู้กับพี่ชายสองคนของเขา? พี่ชายเขาสองคนปั่นหัวเขา ต่างอะไรกับที่ผู้ใหญ่ปั่นหัวเด็กๆ เหรอ? คุณพ่อก็เห็นที่เย่เทียมาเมื่อคราวก่อน อายุมากกว่าเย่เฉินเกิน 10 ปีเสียอีก อีกทั้งหนูคิดว่าถึงดูผิวเผินแล้วว่าดีกับเย่เฉิน แต่ที่จริงแล้วเขาไม่รักน้องชายคนนี้เลยสักนิด! แถมไอ้เดียรัจฉานเย่เซวียนก็จับตัวลูกสาวหนูไปให้เย่เฉิน นี่มันไม่ต่างอะไรกับการอยากฆ่าลูกหนูให้ตาย! คุณพ่อคะหนูว่าพ่ออย่าคาดหวังในตัวเขานักเลย เขาไม่ได้เป็นคนที่จะรับผิดชอบอะไรใหญ่ๆ ได้นะคะ”
ซูเจิ้นหางหถอนหายใจอีกครั้ง เขากำหมัดแน่น แล้วทุบลงบนโต๊ะไม่แดงอย่างรุนแรง
“หงุดหงิดจริงๆ! ฉันไม่พอใจเลย! ทั้งๆ ที่เย่ฉงไห่เรียกเย่เฉินกับซูมู่ชิงไปอังกฤษแล้ว ตระกูลเย่กำลังจะบอกความลับของพวกเขาแล้ว แต่ว่าในเวลาที่สำคัญแบบนี้ เย่เฉินกลับเกิดเรื่องแบบนี้! จะต้องเป็นฝีมือเย่เซวียนแร่ เขากลัวว่าพอน้องชายจะรู้ความลับของตระกูลแล้วจะกลายเป็นภัยคุกคามกับเขา”
จางเชี่ยนจือก็รีบร้อนพยักหน้ารับ “ถูกต้อง คราวนี้แค่โดนวางยาให้ตาบอดเพื่อเป็นการเตือนเท่านั้น ถ้าคราวหน้าเย่เฉินกล้าไปแหยมอยากรู้เรื่องความลับของครอบครัวขึ้นมาล่ะก็เกรงว่าคงโดนฆ่าไปแล้ว! มู่ชิงจะอยู่กับเย่เฉินได้อีก ไม่อย่างนั้นไม่ช้าก็เร็วหล่อนก็คงจะพลอยซวยไปด้วย คุณพ่อคะ ไม่ว่าพ่อจะเห็นด้วยหรือไม่ ฉันก็จะต้องหาสามีใหม่ให้มู่ชิง!”
จางเชี่ยนจือเป็นคนที่พูดจาแข็งกร้าวและหัวรั้นเสมออวลาอยู่ในตระกูลซู ต่อให้หล่อนไม่ใช่ภรรยาเพียงหนึ่งเดียวของซูหมิงเจ๋อ
นี่เป็นเพราะตระกูลของเจ้าหล่อนก็เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองหลวง
ซูเจิ้นหางเงียบลงไปพักใหญ่แล้วกล่าว “สามีใหม่เหรอ? เธอมีใครในใจหรือยัง? ลูกชายบ้านไหน? มู่ชิงเคยแต่งงานมาก่อน มีลูกอายุสี่ขวบ เกรงว่าคงจะหาสามีใหม่ได้ไม่ง่ายเลย”
จางเชี่ยนจือกล่าวพยักหน้ารับ “มู่ชิงก็ไม่ใช่หญิงสววัยแรกรุ่นอายุ 20 ปี จากเหตุการณ์ในตอนนี้จะให้หาผู้ชายจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่อายุพอๆ กับคนของเราก็คงจะเป็นไปไม่ได้ดังนั้นฉันเลยอยากจะหาคนที่ด้อยกว่าเราสักหน่อย”
ซูเจิ้นหางไขว้มือสองข้างไว้ด้านหลังแล้วพยักหน้ารับ “อืม ตระกูลที่ต่ำกว่าตระกูลของเราเหรอ ก็เป็นไปได้นะ มู่ชิงคนนี้เรื่องมาก อายุมากไป หน้าตาน่าเกลียดเกินไป หล่อนก็ไม่เอาเหมือนกัน ถ้าหากว่าไปเลือกคนจากในตระกูลที่ต่ำกว่าหนึ่งระดับ ก็คงจะมีผู้ชายที่ผ่านมาตรฐานของมู่ชิงอยู่จำนวนมาก เธอไปเตะตาใครเข้าล่ะ?”
จางเชี่ยนจือกล่าวพลางระบายยิ้ม “หลิ่วอวี่เจ๋อลูกชายคนตระกูลหลิ่วจากเมืองเทียนไห่ หม่าอวี่จากตระกูลหม่าเมืองเสินเฉิง เจิ้งหงจากตระกูลเจิ้งเมืองอวิ๋นโจว แล้วยังมีคนๆ อื่นในเมืองหลวงอีกฉันคงไม่ต้องแจกแจงอะไร คิดว่าพ่อเองก็คงจะรู้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)