ตอนที่ 454 คนร้ายคือจางเชี่ยนจือเหรอ!?
จางเชี่ยนจือที่สวมแว่นตาช่วยขับเสน่ห์ของหญิงวัยกลางคนแผ่ออกมาได้เต็มที่ เย้ายวนใจกว่าผู้หญิงวัยกลางคนทั่วๆ ไป
ตอนหล่อนเลือกรูปถ่ายพวกนี้ ก็หัวเราะคึกคัก ท่าทางยิ้มแย้มของคนสูงวัยนี้เหมือนซูมู่ชิงไม่มีผิดเพี้ยน
จางเชี่ยนจือถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ลูกรู้จักหลิ่วอวี่เจ๋อไหม?”
ซูมู่ชิงพยักหน้ารับ “เขาเป็นอดีตสามีของหวังเจียเหยา หนูต้องรู้จักอยู่แล้ว อีกอย่างเราเคยเจอกันที่เทียนไห่ครั้งหนึ่ง”
ก่อนหน้านี้ด้วยฐานะหนึ่งในสี่ทายาทเศรษฐีของเทียนไห่ เคยเห็นซูมู่ชิงเป็นเหมือนเป้า
หลิ่วอวี่เจ๋อก็เคยไปที่ร้านกาแฟซือเฉินของซูมู่ชิง และเคยเจอหน้าหญิงสาวครั้งหนึ่ง
และแน่นอว่าหลิ่วอวี่เจ๋อก็ไม่กล้าจีบหล่อน เพียงแต่ทักทายหล่อนตามมารยาทเท่านั้น
เพราะเขาในตอนนั้นสืบรู้แล้วว่าซูมู่ชิงเป็นลูกหลานของตระกูลซู จึงไม่กล้าล่วงเกินหล่อน
เห็นได้ชัดว่าจางเชี่ยนจือเองก็ทำความเข้าใจเรื่องส่วนตัวของหลิ่วอวี่เจ๋อมาแล้วก็กล่าว
“ใช่ หลิ่วอวี่เจ๋อเคยแต่งงานมาก่อน ส่วนคู่แต่งงานก็คืออดีตภรรยาของเย่เฉินแต่แม่ได้ยินมาว่าตอนที่หวังเจียเหยาแต่งงานกับหลิ่วอวี่เจ๋อก็ตั้งท้องแล้ว สองคนแต่งงานไม่ถึงปีก็หย่ากัน คิดว่าตลอดปีนั้นคงไม่ได้นอนด้วยกัน ที่จริงถือได้ว่าไม่เคยแต่งงานกันด้วยซ้ำ”
ซูมู่ชิงไม่ได้ออกความเห็นอะไร หลิ่วอวี่เจ๋อเคยแต่งงานก็ช่าง ไม่เคยแต่งก็ช่าง เกี่ยวอะไรกับหล่อนกัน?
จากนั้นจางเชี่ยนจือก็ยื่นมือมาซูมภาพผู้ชายแล้วกล่าว “ลูกลองดูคนนี้สิ เป็นลูกชายคนเก่งชื่อหม่าอวี่ อายุเพิ่ง 21 ปีกำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่อเมริกา”
ซูมู่ชิงปรายตามองภาพคนชื่อหม่าอวี่ สวมแว่นตา ดูไปแล้วเป็นด็กดีมากทีเดียว อายุยังน้อยเสียด้วย
จากนั้นจางเชี่ยนจือก็ไถรูปอีกใบ “แล้วก็คนนี้ เจิ้งหงลูกชายของคนที่รวยที่สุดในเมืองอวิ๋นโจว เพิ่งจะอายุ 23 ปี ได้ยินมาว่าเป็นคนเก่งทุกด้านไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้”
ซูมู่ชิงปรายตามอง ท่าทางของเจิ้งหงออกจะประหลาดน้อยๆ อีกทั้งดูแล้วเหมือนคนอมทุกข์อย่างไรไม่รู้
ซูมู่ชิงสับสน “แม่คะ แม่เอาพวกนี้ให้หนูดูทำไม?”
จางเชี่ยนจือกล่าว “แม่กะจะเชื้อเชิญพวกคนรุ่นใหม่พวกนี้มาร่วมงานวันเกิดของคุณปู่ พอวันงานลูกก็ขอสังเกตพวกเขาเสียหน่อย แล้วเลือกหนึ่งในพวกเขาเป็นสามีคนต่อไปของลูก”
สามีคนต่อไปเหรอ?
พอซูมู่ชิงได้ยินเช่นนี้ก็หงุดหงิดทันที หญิงสาวโยนไอแพดลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง
“แม่คะ นี่แม่พูดอะไร? สามีใหม่อะไรกันน่ะคะ? ใครจะเปลี่ยนสามีกันคะแม่!”
จางเชี่ยนจือกล่าวด้วยน้ำเสียจริงจัง “เย่เฉินตาบอดแล้ว สามีแบบนี้ลูกจะเอาไว้ทำไม! หรือว่าแกอยากจะดูแลคนตาบอดไปตลอดชีวิต? แกอยากจะเป็นพี่เลี้ยงเขาไปตลอดชีวิตเหรอ?”
ซูมู่ชิงโกรธจัด “เย่เฉินเพิ่งจะตาบอดเองค่ะ การแพทย์เดี๋ยวนี้ดีจะตาย ไม่ใช่ว่าจะรักษาไม่ได้ ทำไมแม่ถึงได้แน่ใจขนาดนี้ล่ะคะ ทำไมถึงบอกว่าเขาจะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตล่ะคะ?”
จางเชี่ยนจือกล่าว “แกนี่นะ ทำไมได้ใสซื่อแบบนี้ กระทั่งหมอตาที่เก่งที่สุดในประเทศเรายังรักษาเขาไม่หาย แล้วใครจะทำได้บ้าง? อีกอย่างหมอก็บอกแล้วอาการป่วยนี้จะยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ ต้องรีบรักษาให้หายให้ได้ไวที่สุด แม่ว่าผัวแกไม่มีทางหายแล้วล่ะ”
ที่จริงซูมู่ชิงรู้ว่าเย่เฉินไม่ได้เป็นอะไรแต่ว่าเย่เฉินห้ามหล่อนไม่ให้บอกใคร
ซูมู่ชิงไม่สามารถบอกความจริงกับมารดาได้ หล่อนจึงพูดแค่ว่า “ต่อให้เขาตาบอดตลอดชีวิต มองไม่เห็นอะไร หนูก็ไม่เลิกกับเขา หนูจะเป็นแสงไฟส่องทางให้เขาไปตลอดชีวิต เป็นดวงตาให้เขา!”
พอได้ยินเช่นนี้เย่เฉินก็อดอุ่นใจไม่ได้
“มู่ชิง…”
ตอนนี้เป็นยุคที่คนเห็นแก่ข้าวของภายนอก อย่าว่าแต่กลายเป็นคนพิการเลย แต่งานการไม่ดี หาเงินไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อก่อน ภรรยาก็อาจจะทิ้งคุณไปได้ทุกเมื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)