สรุปเนื้อหา ตอนที่ 455 ตามสืบหาความจริง! – เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) โดย Internet
บท ตอนที่ 455 ตามสืบหาความจริง! ของ เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 455 ตามสืบหาความจริง!
“คุณแม่ยาย ในเมื่อยอมรับแล้วว่าทำร้ายผม งั้นก็อย่าโกรธที่ผมวางยาคุณล่ะ! หวังว่าคำพูดเมื่อครู่ของคุณเป็นเพียงแค่อารมณ์ ถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะก็นะ…”
ใบหน้าเย่เฉินฉายแววเหี้ยมโหด จางเชี่ยนจือเป็นมารดาของซูมู่ชิง ส่วนซูมู่ชิงเป็นภรรยาของเขา ถือได้ว่าหล่อนเป็น
ถ้าจางเชี่ยนจือทำจริงล่ะก็เย่เฉินจะสังหารหล่อนไม่ได้
แต่ว่าเขาจะต้องลงโทษหล่อนให้สาสม เพื่อให้หล่อนไม่มีทางงได้ลงมือทำร้ายเย่เฉินอีกตลอดชีวิต!
ซูมู่ชิงที่วิ่งออกจากห้องจางเชี่ยนจือ แต่ไม่ได้วิ่งกลับมาที่ห้องของเย่เฉิน แต่ไปห้องน้ำแทน
หล่อนร้องไห้พลางโทรหาซูมู่หลิน
“มู่หลิน นายรู้เรื่องที่คุณแม่วางยาเย่เฉินไหม? นายร่วมมือกับแม่ด้วยหรือเปล่า?”
ซูมู่ชิงถามซูมู่หลิน
ซูมู่หลินถามด้วยใบหน้าสงสัย “พี่ครับ พี่กำลังพูดอะไร? คุณแม่วางยาอะไร?”
ซูมู่ชิงกล่าวพลางร้องไห้ “เมื่อครู่แม่บอกพี่เองว่าแม่วางยาให้เย่เฉินตาบอด!”
ซูมู่หลินตกใจ “อะไรนะ? เป็นไปได้ยังไงน่ะ แม่ยังไม่กล้าฆ่าไก่สักตัว อย่างมากก็ตบเย่เฉินระบายอารมณ์เท่านั้นเอง แม่ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงแบบนี้หรอก พี่ไม่รู้จักนิสัยแม่เราเหรอครับ? พี่ทะเลาะกับแม่หรือเปล่าแม่เลยพูดแบบนั้นน่ะ”
ซูมู่ชิงน้ำตาหยุดไหลทันที “อืม”
ซูมู่หลินกล่าว“เฮ้อ พี่คิดว่าแม่ทำจริงๆ ล่ะสิ พี่นี่สุดยอดเลย”
ซูมู่ชิงย้อนคิดอย่างละเอียด หล่อนเองก็รู้สึกว่าคำพูดเมื่อครู่ของแม่ น่าจะเพราะอารมณ์ จะถือเป็นจริงเป็นจังไม่ได้
เดิมทีหล่อนยังกังวลว่าถ้าหากมารดาทำร้ายเย่เฉินจริงๆ แล้วหล่อนควรจะทำอย่างไร
ฝั่งหนึ่งก็แม่ตัวเอง อีกฝั่งก็สามี ซูมู่ชิงก็จะเจอปัญหาเหมือนฉินหงเหยียนในตอนนั้น
ตอนนี้โชคดีที่รู้ว่าแม่ทำไปเพื่อยั่วโมโหตนเอง ซมปาดน้ำตาแล้วเดินกลับห้อง
“มู่ชิง คุณร้องไห้ทำไม?”
เย่เฉินเห็นซูมู่ชิงตาแดงๆ จึงยื่นมือออกมาสัมผัสเบาๆ
มีเพียงตอนอยู่ในห้องสองคนเท่านั้น เย่เฉินถึงไม่แกล้งทำเป็นคนตาบอด
ซูมู่ชิงปฏิเสธ “ไม่ค่ะ”
ซูมู่ชิงไม่อยากจะบอกเรื่องเมื่อครู่กับสามี
ทว่าเย่เฉินรู้นานแล้ว
เย่เฉินรู้ว่าซูมู่ชิงในตอนนี้น่จะลำบากใจอย่างมาก จึงไม่ซักไซร้
“นอนเถอะครับ คนดี”
เย่เฉินจูงมือหญิงสาวกล่อมหล่อนให้เข้านอน
เพราะว่าเย่เฉินอยากจะวางยาแม่ยาย แต่เขาจะมีโอกาสลงมือก็ต่อเมื่อซูมู่ชิงหลับแล้ว
เย่เฉินรู้ว่าคืนนี้จางเชี่ยนจือจะนอนดึกมากทีเดียว เพราะหล่อนต้องการจะเลือกลูกเขยคนใหม่ ต้องตระเตรียมข้อมูลส่วนตัวของตัวเลือกต่างๆ แล้วส่งให้ซูเจิ้นหางได้ดู
เย่เฉินคาดว่าด้วยอัตราส่วนในการทำงานของจางเชี่ยนจือเกรงว่าทำถึงตีสองก็คงยังไม่เสร็จ
จางเชี่ยนจือเป็นเหมือนซูมู่ชิงที่ต่างเป็นคนอะไรช้า กระทั่งตอนออกบ้าน หล่อนยังสาละวนอยู่นาน
แต่งหน้า เลือกเสื้อผ้า ของที่จะเอาไปด้วย หรือจะทำกับข้าวหรือทำอย่างอื่น ความเร็วล้วนแต่เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของคนทั่วไป
ล่วงเลยไปถึงเวลาเที่ยงครึ่งอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้คนในบ้านซูเจิ้นหางน่าจะเข้านอนกันหมดแล้ว
ซูมู่ชิงเองก็หลับปุ๋ยไปแล้ว
มีเพียงแค่ไฟห้องจางเชี่ยนจือเท่านั้นที่ยังสว่างอยู่
หนำซ้ำผลประเมินของจางเชี่ยนจือยังเขียนเอาไว้ว่าดียอดเยี่ยม!
“ดียอดเยี่ยมเหรอ?”
เย่เฉินเห็นผลประเมินนี้ก็ริษยาอย่างมาก จางเชี่ยนจือมักจะบอกว่าเย่เฉินผิดไปหมด คาดว่าถ้าให้ประเมินเขาแค่คำว่าพอผ่านน่าจะยังไม่ได้ด้วยซ้ำ
แต่หล่อนกลับประเมินหลิ่วอวี่เจ๋อที่ไม่เคยพบหน้ากันด้วยซ้ำว่าดียอดเยี่ยมเหรอ?
ดียอดเยี่ยมตรงไหน?
แต่งงานมาก่อน? ขย่มรถกับดารา? แถมยังมีลูกไม่ได้?
“ฮึ! ถ้าแม่ยายของฉันรูว่า หลิ่วอวี่เจ๋อมีลูกไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะยังคิดว่าเขาดียอดเยี่ยมอยู่หรือไม่!”
เย่เฉินแค่นเสียงเย็น แล้วมองเอกสารของคนอื่นๆ
“หม่าอวี่เหรอ? พื้นเพครอบครัวก็ไม่แย่ พ่อเขาอายุยังน้อย มีอนาคตยาวไกล มีศักยภาพและเส้นสายที่ฉันไม่มีในประเทศ แต่ว่าหมอนี่เป็นแค่นักเรียนมัธยมปลายเองเหรอ? ดูยังไงก็น่าจะไม่บรรลุนิติภาวะ เด็กขนาดนี้จางเชี่ยนจือยังเอาได้ลงคอ! เจิ้งหงเหรอ? ลูกชายเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในอวิ๋นโจวเหรอ? ทำไมเราจำไม่เห็นว่ามีตระกูลเจิ้งที่อวิ๋นโจวเลย อัจฉริยะที่ทำได้ทุกอย่างเหรอ? เหอะๆ”
ที่จางเชี่ยนจือประเมินหม่าอวี่และเจิ้งหงก็คือดียอดเยี่ยมเหมือนกัน
นอกจากนี้แล้ว ยังมีรายละเอียดผู้ชายอีกสิบกว่าคน ส่วนมากล้วนแต่เป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ๆ อีกทั้งอายุไม่ถึง 25 กันทุกคน นอกจากหลิ่วอวี่เจ๋อที่เคยแต่งงานมา คนอื่นๆ ล้วนแต่ไม่เคยแต่งงานมาก่อน
ดูแล้วจางเชี่ยนจือคงจงใจจะลดมาตรฐานลงเพราะอยากให้ซูมู่ชิงได้แต่งงานอย่างมีหน้ามีตา
เพราะตระกูลซูเป็นตระกูลใหญ่อย่างมากในประเทศนี้แล้ว
แต่ในตระกูลระดับเดียวกันนี้ ซูมู่ชิงที่เป็นผู้หญิงที่เคยแต่งงานมีลูกแล้วจึงไม่คู่ควรจะแต่งงานกับคนในระดับเดียวกันแล้ว
แต่กับคนตระกูลหลิ่วก็ยังพอจะแต่งงานได้้ ตระกูลหลิ่วไม่มีทางรังเกียจซูมู่ชิงที่เคยแต่งงานและมีลูกแล้ว
ในตอนที้เย่เฉินกำลังคิดอะไรเพลินๆ นั้น ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมา
“เสียงรองเท้าแตะ…ซวยแล้ว แม่ยายเรากลับมาแล้วแฮะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)