เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 60

สรุปบท ตอนที่ 60 ผมไม่มีทางเป็นตัวสำรอง!: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอน ตอนที่ 60 ผมไม่มีทางเป็นตัวสำรอง! จาก เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 60 ผมไม่มีทางเป็นตัวสำรอง! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เย่เฉินได้ยินคำพูดแบบนี้ก็หัวเสียอย่างมาก

“คนที่ทำผิดก็คือคุณ สุดท้ายแล้วคุณยังจะโทษที่ผมเกิดมาต่ำต้อยอีกเหรอ? หรือว่าคนมีเงินแบบพวกคุณสามารถมีชู้ได้โดยไม่ต้องหวาดกลัวอะไร ระเริงสุขบนความทุกข์ของคนอื่นแถมคนจนอย่างพวกเราก็ควรอดทนกล้ำกลืนรับการโดนทรยศจากคนแบบพวกคุณอีกเหรอ!”

ถึงเย่เฉินจะไม่ใช่คนจน แต่เขาเองก็ต้องการจะพูดแทนคนที่ด้อยโอกาสกว่า!

เป็นคนเหมือนกันก็ต้องได้รับการเคารพเท่าเทียมกัน!

หวังเจียเหยาส่ายหน้า “นายช่วยอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงหน่อยได้ไหม? ขนาดปู่ฉันยังเคยบอกว่าเศรษฐีไม่มีทางโผล่ขึ้นมาในครอบครัวจนๆ หรอก ฉันรู้ว่านายดีกับฉันมากและนายก็เก่งมาก แต่อยู่กับนายไปฉันมองไม่เห็นอนาคต”

หวังเจียเหยาพูดพลางดึงมือเย่เฉิน “เย่เฉินนายรอฉันอีกหน่อยได้ไหม?”

คราวนี้เย่เฉินไม่ได้สะบัดมืออีกฝ่ายทิ้งแต่ย้อนถาม “รออีกหน่อย? แปลว่าอะไร?”

หวังเจียเหยากล่าว “ก็รออีกสองสามปีข้างหน้าให้ฉันได้รับมรดกจากตระกูลหวัง คลอดลูกให้ตระกูลฟางแล้วเราค่อยกลับมาอยู่ด้วยกันอีกไง!”

เย่เฉินมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ หญิงสาวที่แสนจะใสซื่อบริสุทธิ์ในใจเขา คิดไม่ถึงว่าจะคิดแผนการแบบนี้ได้!

เย่เฉินสีหน้าตื่นตะลึง “คุณเห็นผมเป็นตัวสำรองเหรอ? รอให้คุณเสวยสุขกับเดียรัจฉานฟางเชานั่นสามปีห้าปีแล้วผมค่อยมารับช่วงต่อเหรอ?”

เพี้ยะ!

หวังเจียเหยาฟาดฝ่ามือลงบนหน้าเย่เฉิน เพราะหล่อนเกลียดคำพูดทำนองว่าหล่อนไประเริงรักกับคนอื่นที่ออกมาจากปากอีกฝ่ายเหลือเกิน

หวังเจียเหยากล่าว “นายช่วยมีสติหน่อยเถอะ! อยู่ในโลกของความเป็นจริงหน่อย โลกเรามันก็แบบนี้! คนรวยถึงจะได้สาวสวย! ผู้ชายธรรมดาอย่างนายเนี่ยก็ได้แค่ของที่คนอื่นใช้แล้ว! นี่น่ะคือโลกของความจริง! ช่วยเลิกทำตัวเย่อหยิ่งสูงส่งมากกว่าคนอื่นที! นิสัยนี้ของนายควรต้องแก้ไขได้แล้วนะจริง ๆ!

นายลองคิดดูให้ดี สามปีห้าปีหลังจากนี้อย่างน้อย ๆ ฉันก็น่าจะมีเงินราว ๆ พันล้าน นี่เป็นเงินที่ทั้งชีวิตนายก็หาไม่ได้หรอก! นายลองไปถามดูว่ามีเศรษฐีนีที่มีเงินพันล้านคนไหนจะมาเลือกผู้ชายธรรมดาแบบนี้! นายควรจะเห็นความรักที่ฉันมีให้นายถือเป็นบุญคุณอย่างหนึ่ง! นายควรจะคุกเข่าขอบคุณฉันด้วยซ้ำ ที่พอถึงตอนนั้นแล้วยังอยากได้นายอยู่! ไม่ใช่มาคิดเล็กคิดน้อยเลอะเทอะพวกนี้!”

คำพูดนี้ของหวังเจียเหยารุนแรงไม่น้อย แต่เย่เฉินนั้นกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้แต่น้อย

ไม่ใช่เพราะโดนทำร้ายมามากเกินไปในสนามความรัก แต่เพราะความเจ็บปวดทางร่างกายจนไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับความเจ็บปวดทางจิตใจ!

เย่เฉินเงียบไป ถ้าเขาไม่ใช่คุณชายที่สามของตระกูลร่ำรวยแสนล้าน หากว่าเขาเป็นแค่คนที่เกิดมาในครอบครัวธรรมดา

วินาทีนี้เขาจะเลือกอย่างไร?

สำหรับผู้ชายทั่วไปแล้วได้แต่งงานกับหญิงสาวที่ร่ำรวยถึงพันล้าน แถมยังเป็นคนหน้าตาดี ต่อให้จะเคยแต่งงานกับชายอื่นและเคยมีลูกมาก่อน

ในชายหนุ่มร้อยคนคงจะมีสักเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ติดใจอะไร!

สำหรับพวกเขาแล้วบางทีนี่อาจจะเป็นบุญคุณอย่างหนึ่ง!

เย่เฉินกัดฟันกรอด เขารู้ว่าหวังเจียเหยาเองก็ยังรักเขาอยู่

“ถ้าเป็นคนอื่นบางทีอาจจะรู้สึกขอบคุณคุณอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่ผมคือเย่เฉิน ผมไม่มีทางจะยอมเป็นตัวสำรอง! ยิ่งไปกว่านั้นผมว่าคุณยังติดค้างคำขอโทษผมเกี่ยวกับเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้น!”

เย่เฉินออกมาก่อนทำให้เดินทางค่อนข้างสะดวก ถ้าหากเขารอจนงานคอนเสิร์ตจบแล้วค่อยกลับ ไม่ว่าจะโบกรถหรือขับรถก็ลำบาก

เย่เฉินไม่ใส่ใจ เขากล่าวด้วยใบหน้าเยือกเย็น “การล้างแค้นตระกูลฟางเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ บัดนี้ ตระกูลฟางเป็นตระกูลชั้นหนึ่งในอวิ๋นโจว พวกเขาจัดเตรียมงานแต่งงานจะต้องใช้เวลามากทีเดียว ผมอยากจะทำให้ตระกูลฟางที่เป็นตระกูลชั้นหนึ่งตกต่ำย่ำแย่ลง ก่อนที่หวังเจียเหยาจะแต่งงานกับฟางเชา! หงเหยียนคุณค่อนข้างรู้จักคนตระกูลฟาง ไหนคุณลองเล่าหน่อยสิ”

ฉินหงเหยียนผงกศีรษะ “ตอนนี้ตระกูลฟางดูแลโดยฟางเสียนจู่ พ่อของฟางเชา ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของฟางเสียนจู่ก็คือโรงแรมอี๋เจียไคว่เจี่ยนที่เขาเป็นคนบุกเบิก มีแฟรนไชส์ทั่วประเทศ นอกเหนือจากนี้ยังมีโรงแรมในอวิ๋นโจวอีกยี่สิบกว่าแห่งทั้ง ชีซิงและหาวไท่ รอบๆ ก็มีโรงแรมของเขาไม่น้อย หลายปีก่อนแบรนด์โรงแรมของเขาเข้าตลาดหุ้นทำให้มูลค่าเพิ่มไปถึงหมื่นล้าน แต่ตอนนี้ไม่ได้มีมูลค่าสูงอะไรแล้วคาดว่าน่าจะเหลือแต่สามพันล้าน”

เย่เฉินจุดบุหรี่แล้วกล่าว “ธุรกิจหลักของพวกเขาคือโรงแรมราคาประหยัดและโรงแรมหรูหราในเมืองรองต่างๆ และโฮมสเตย์ หลายปีก่อนตอนที่เพิ่งจะเริ่มธุรกิจพวกเขาขยายธุรกิจอย่างหน้ามืดตามัวและซื้อธุรกิจอย่างบ้าคลั่งจนไปถึงเมืองระดับสามและสี่ ถ้าไม่ได้เจอคุณอาดูบรูล[1]ตอนนี้เขาอาจจะยังขาดทุนอยู่”

ฉินหงเหยียนตกตะลึงจนพูดไม่ออก “คุณเย่ คุณอาดูบรูลที่คุณพูดถึงคงจะไม่ใช่พอล ดูบรูลเจ้าพ่อวงการโรงแรมระดับโลกหรอกนะคะ?”

‘พอล ดูบรูล’ เป็นบุคคลในตำนานของธุรกิจการโรงแรมระดับโลก!

เย่เฉินผงกศีรษะ “เขานั่นแหละ เขาคือเพื่อนของคุณปู่ผม เป็นตาแก่แล้วล่ะ แต่บังคับให้ผมเรียกอาอยู่ได้เขาจะได้ดูอายุน้อย”

“ฮ่าๆ” ฉินหงเหยียนหัวเราะ แต่ในใจหล่อนตกตะลึงอย่างยิ่ง เส้นสายคอนเนคชันของตระกูลเย่ชักจะเจ๋งเกินไปแล้วแค่เพื่อนของครอบครัวก็เป็นบุคคลระดับโลก!

เย่เฉินกล่าว “ผมได้ยินดูบรูลเคยเล่าว่ามีคนในประเทศเราอ้อนวอนเขา คงจะเป็นฟางเสียนจู่พ่อของฟางเชาแน่ๆ ตอนนั้นโชคดีได้คุณอาดูบรูลช่วย ทำให้เพียงครึ่งปีพวกเขาก็ได้เงินมาถึงร้อยล้าน ฟางเสียนจู่ถึงพอตั้งตัวได้ ผมแค่ต้องให้คุณอาดูบรูลลงมือ ‘ช่วยเหลือ’ เขาอีกครั้ง กิจการโรงแรมของฟางเสียจู่ก็จบเห่แน่”

ใบหน้าเย่เฉินเผยรอยยิ้ม ฟางเสียนจู่เชื่อฟังอาจารย์ดูบรูลอย่างมาก ถ้าจะกลั่นแกล้งเขาผ่านทางดูบรูลก็จะง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ!

[1] Paul Dubrule (เกิดปี 1934) เป็นนักธุรกิจและนักการเมืองชาวฝรั่งเศส

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)