เข้าสู่ระบบผ่าน

เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่ นิยาย บท 7

จากนั้นก็ทำท่าทางกระแอมไอออกมาเป็นเชิงเข้าใจสถานการณ์ของเพื่อน “ขอโทษที ผมไม่รบกวนดีกว่า! เชิญพวกคุณทำต่อเถอะ…”

“เฮ้ ไม่ใช่นะ เดี๋ยวก่อนสิคุณ!” เฉินมู่ยังไม่ทันได้คลี่คลายการเข้าใจผิดนั่น โอวจินกลับวิ่งหนีไปไปในพริบตาเสียอย่างนั้น เธอพูดอย่างหมดกำลังใจ “ทำไมคุณถึงไม่เรียกให้เขาหยุด!”

ฮั่วหยุนเซียวคลายมือออก “แก้ออกแล้วล่ะ”

ในที่สุดเฉินมู่ก็ได้รับอิสรภาพ เธอยืนตัวตรงและหวีสางผมให้เรียบ เผยให้เห็นรอยแผลเป็นบนแก้มขวาของเธอ ฮั่วหยุนเซียวมันมองอีกครั้งแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

พลันเฉินมู่ก็แต่งทรงผมปิดรอยแผลเป็น “คุณฮั่ว คุณแน่ใจเหรอว่าต้องการออกไปทานข้าวข้างนอกกับฉัน ใบหน้าฉันไม่ได้งดงาม หรือเปลี่ยนเป็นให้ของขวัญคุณแทนดีกว่าไหม?”

“แล้วแต่คุณเลย” ฮั่วหยุนเซียวพูด

เฉินมู่ไม่รู้ว่า “แล้วแต่คุณ” ที่เขาหมายถึงคืออะไร ดังนั้นใบหน้าสวยจึงพยักหน้าตอบ “งั้นฉันขอตัวไปก่อนนะ”

ทว่าขณะที่เธอหันกลับไป ชายที่อยู่ข้างหลังก็โพล่งเอ่ยบางอย่างจนเฉินมู่หยุดยืนนิ่งชั่วคราว “คำว่ามู่ ที่มาจากการโค่นล้มสามราชวงศ์ใหญ่อย่างเฉา ฉิน ฉู่ สมัยจ้านกั๋วสินะ”

เฉินมู่ได้แต่คิดในใจ ชื่อของเธอในตอนนี้นั้นดีกว่ามาก ฉินมู่ คนก่อนที่มีความหมายชื่อมาจากสงครามชิงดินแดนสมัยยุคบุกเบิก ควรเหลือเพียง เฉินมู่ ในปัจจุบันก็พอแล้ว

ขาเรียวเดินกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยง แขกทุกคนอยู่ที่นั่นเกือบทั้งหมดแล้ว ลู่ซีเจ๋อยืนอยู่ข้างบันไดด้วยใบหน้าซีดเซียว เฉินชิงเสวี่ยจับมือเขาด้วยท่าทางเงอะงะ พร้อมยังคงกระซิบปลอบโยนบางสิ่งบางอย่างแก่ชายหนุ่มด้วยเสียงต่ำเบา

เฉินมู่ไม่สนใจพวกเขา แม้สีหน้าจะแสดงออกว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เธอแค่ต้องการหาเครื่องดื่มเย็น ๆ มาดับความใจร้อนในใจเธอก็เท่านั้น

ทางด้านคนที่ยังอยู่สวน โอวจินกลับเข้ามาหาเพื่อนสนิทอีกรอบ “คุณเฉินไปไหนแล้วล่ะ?”

“วิ่งหนีไปแล้ว” ฮั่วหยุนเซียวจุดบุหรี่ และยิ้มที่มุมริมฝีปาก โอวจินมองมาที่เขา และถามว่า “นายคงไม่ชอบเธอจริง ๆ ใช่ไหม? นี่นายแสดงออกชัดเจนมากเลยนะ!”

“แล้วนายไปรู้อะไรมา” ฮั่วหยุนเซียวพูด พร้อมสูดควันบุหรี่เข้าปอด

โอวจินสวมแว่นตาสีทองกลับเข้าที่ใบหน้า ก่อนเอ่ย “คุณหนูใหญ่ของตระกูลเฉินผู้สูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก เป็นเสมือนกระสอบทรายของคนในตระกูลเฉิน แต่ก็มีเรื่องสัญญางานแต่งงานที่วางให้เธอเป็นคู่หมั้นของลู่ซีเจ๋อ พูดง่าย ๆ ก็คู่หมั้นที่หมั้นกันตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นเธอจึงเป็นคนที่มีบทบาทเยอะสำหรับการแต่งงานเพื่อธุรกิจ!”

ฮั่วหยุนเซียวขมวดคิ้ว เขาเคยวาดภาพตอนที่เฉินมู่อยู่ในบ้านของตระกูลเฉิน แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะพลิกผันมากมายเช่นนี้

เขาทิ้งบุหรี่ครึ่งหนึ่งลงบนพื้น แล้วเหยียบด้วยรองเท้าหนังทำมือ “ไม่มีต่อแล้วเหรอ? แล้วแผลเป็นบนใบหน้าของเธอมาจากไหน?”

โอวจินจิบไวน์แดง แล้วพูดต่อ "ว่ากันว่าตอนที่เธอยังเป็นวัยรุ่น เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เล็ก ๆ น้อย ๆ กับลู่ซีเจ๋อ แถมได้ยินมาอีกว่าเป็นเพราะปกป้องลู่ซีเจ๋อ เลยถูกเศษแก้วบาดทำให้เป็นแผลเป็น”

“ตอนนั้น บังเอิญว่าตระกูลเฉินกำลังเดินทางไปทำธุรกิจ ทำให้เฉินมู่ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และบาดแผลก็ลึกมากจนทิ้งรอยแผลเป็นไว้ ฉันเห็นแผลนั่นเมื่อวานนี้ รอยแผลเป็นนั่นดูเหมือนแผลเก่าจริงๆ”

“รักษามันได้ไหม?” ฮั่วหยุนเซียวถามอีกครั้ง

โอวจินส่ายหัวตอบ “มันยากที่จะตอบ ต้องดูแผลบนใบหน้าอีกครั้ง รอยแผลเป็นอายุน่าจะสักสองสามปี แต่ฉันแค่เหลือบมองเท่านั้น ยังไม่แน่ใจ”

ฮั่วหยุนเซียวพยักหน้าส่งคืน “อืม เข้าไปข้างในกันเถอะ”

ทั้งสองกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยง ก่อนจะเดินไปที่โซฟาตรงมุมเพื่อนั่งลง ฮั่วหยุนเซียวหันหน้าไปมองดูเฉินมู่ที่ซุกตัวอยู่ในโซฟาพลางจิบน้ำผลไม้ ท่าทีนั่นดูมีเสน่ห์และน่ารัก

เขาคิดในใจว่าหากไม่มีแผลเป็นนั่น ใบหน้าของเธอคงจะเป็นความงามที่ไร้ที่ติ

น่าเสียดายที่หยกอันสวยงามจำต้องซ่อนอยู่ในหินและไม่มีใครสังเกตเห็นสมบัตินี้

โอวจินมองตามสายตาของเขา พลางเอ่ยเสียงเบา "ได้ยินมาว่าพี่น้องสองคนของคุณนายเฉินมีความงามไม่เลวเลยนะ"

ฮั่วหยุนเซียวจิบไวน์แดงในมือ เสียงเข้มตอบเรียบ ๆ "ความแตกต่างระหว่างเมฆกับโคลน"

ทว่าขณะที่ทั้งสองคุยกัน ก็มีร่างหนึ่งเดินเข้าหาคนทั้งคู่เพื่อชวนไปที่ฟลอร์เต้นรำ เฉินชิงเสวี่ยเดินไปที่ฮั่วหยุนเซียวพร้อมแก้วไวน์สีสวย “เป็นการเยี่ยมเยือนที่หายากสำหรับคุณฮั่ว ฉันคิดว่าคุณปู่คงคิดถึงคุณมาก หลังจากงานเลี้ยงจบแล้ว ฉันอยากจะเชิญคุณฮั่วไปทานอาหารค่ำกับคุณปู่ค่ะ คุณคิดว่ายังไงคะ?”

เฉินชิงเสวี่ยคิดว่าคุณปู่ให้ความสำคัญกับตระกูลฮั่วมาก ถ้าเธอและลู่ซีเจ๋อสามารถเอาชนะใจฮั่วหยุนเซียวได้ คุณปู่คงจะเข้าข้างพวกเขาอย่างแน่นอน

ฮั่วหยุนเซียวเหล่ตาของสาวเจ้า พลันเหลือบไปยังด้านเฉินมู่ที่นั่งอยู่ด้วยสายตาที่ขี้เล่นแวบหนึ่ง"อาหารค่ำเหรอ?"

เมื่อเฉินชิงเสวี่ยเห็นการแสดงออกของฮั่วหยุนเซียวเธอก็รู้สึกมั่นใจ

เธอพยักหน้า “ใช่ นี่เป็นเพียงการต้อนรับเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่นานงานเลี้ยงก็จะเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณที่คุณฮั่วมาที่นี่ ตระกูลเฉินของเราต้องการเลี้ยงต้อนรับคุณเป็นพิเศษเพียงผู้เดียวค่ะ”

ฮั่วหยุนเซียวเอียงศีรษะเพื่อมองเฉินมู่ เห็นเฉินมู่ใช้ปากคาบหลอดอยู่ ก่อนจะมองกลับไปที่เฉินชิงเสวี่ยที่ยืนทำท่าทางแน่วแน่เชิญฮั่วหยุนเซียวไปทานข้าว เรื่องที่โต้เถียงในตอนเที่ยงยังคงค้างคาอยู่ในใจ

แขกที่อยู่รายรอบก็แอบมองมาที่ด้านนี้ เป็นเพราะเฉินชิงเสวี่ยเป็นสาวงามที่เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวง บวกกับบุคคลิกของฮั่วหยุนเซียวเหมือนไม่เป็นที่ดึงดูดสำหรับผู้หญิงในเมืองปินไห่

ตอนที่เฉินชิงเสวี่ยเชิญฮั่วหยุนเซียวไปทานอาหารค่ำต่อหน้าสาธารณชน ถ้าหากฮั่วหยุนเซียวปฏิเสธมันคงน่าขันมากโข!

ฮั่วหยุนเซียวเอนหลังเล็กน้อย ขาเรียวยาวของเขาหุ้มด้วยกางเกงสูททรงตรงเนื้อดี ริมฝีปากบางของเขาก็เปิดออกเล็กน้อย “มานี่สิ”

เฉินชิงเสวี่ยตกตะลึง รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะผูกพันกับลู่ซีเจ๋ออย่างลึกซึ้ง แต่ฮั่วหยุนเซียวก็มีออร่า เงิน พร้อมความหล่อเหลาที่ยอดเยี่ยมที่สุด!

บทที่ 7 1

บทที่ 7 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่